Basic of English

Basic of English มีภาษาอังกฤษร้อน ๆ มาเสริฟฟรีฟรีคะ
(2)

เปิดเหมือนปกติ

ล้อเล่น - แหย่ - หยอก - แกล้ง มีทั้งในเชิงบวก และลบนะ......................................................................
04/12/2020

ล้อเล่น - แหย่ - หยอก - แกล้ง มีทั้งในเชิงบวก และลบนะ
........................................................................................................
มีหลายคำ ที่สามารถใช้ได้ ดังนี้

1. kid / pull one's leg - ล้อเล่นขำๆ ไม่จริงจัง
-I'm sorry, I forgot to get you a birthday present. Just kidding!
ขอโทษนะฉันลืมของขวัญวันเกิดเธอนะ! ล้อเล่นน่ะ!

-Are you pulling my leg? / Are you kidding me?
นี่เธอกำลังล้อฉันเล่นอยู่หรือเปล่าเนี่ย

2. tease หยอก แหย่ แกล้ง {มีทั้ง + และ -}
-The boys teased a girl on the playground yesterday.
เมื่อวานพวกเด็กผู้ชายพวกนั้นรุมแกล้งเด็กผู้หญิงคนนึงที่สนามเด็กเล่น (แง่ลบ)
-I love to tease my cat when she is lying on my lap.
ฉันชอบแหย่แมวฉันเล่น เวลาที่เธอนอนอยู่บนตักฉัน (แง่บวก)

3. rib เย้า หยอก แซว (แง่บวก)
-His brothers were ribbing him about his new girlfriend.
พี่ชายเขาแซวถึงแฟนคนใหม่ของเขา

4. make fun of someone ล้อ ล้อเลียน (แง่ลบ)
-The other children made fun of him because he wore glasses.
พวกเด็กคนอื่นๆ ชอบล้อเขาเพราะเขาใส่แว่น

5. bully บูลลี่ กลั่นแกล้งหรือรังแกจนทำให้มีผลต่อจิตใจ (แง่ลบ)
-Remember ! don't bully other students. It's not a good thing to do.
จำไว้ อย่าเที่ยวกลั่นแกล้งนักเรียนคนอื่นๆ มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่จะทำ

26/11/2020

เคยมะ? คุยกะใครแล้วรู้สึกสนุก
"คุยกับคุณแล้วสนุกดีอ่ะ"
"You're good/great fun to talk to."

25/11/2020

อยากพูดอังกฤษเป็น แต่หลายคนยังติดที่ว่า I don't want to make a fool of myself. ฉันไม่อยากหน้าแตก ไม่อยากโชว์โง่ เลยไม่กล้าพูดสักที

21/11/2020

What can you say when someone gets angry? จะพูดกับคนที่มีอารมณ์โกรธอยู่ว่าไงดี?

มี 5 ประโยคสั้นๆ ด้วยกันที่ใช้กับเพื่อนที่กำลังโกรธใคร หรือโมโหอะไรอยู่

- Calm down
- Cool down
- Chill out
- Simmer down
- Take it easy

😡😠🤬

21/11/2020

ระหว่างกินอาหารไป เรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับรสชาติอาหารไปด้วย
-sweet หวาน
-sour เปรี้ยว เช่น lemon, kiwi
-tart โคตรเปรี้ยว
-salty เค็ม
-savory คล้าย salty แต่เป็นเค็มๆ มัน เช่น พวก chips, cheese
-bitter เช่น coffee

If you really like your food, you can say,
-It's yummy.
-It's tasty.
-It tastes very good.
-It's appetizing.
-It's flavorful.(The flavor is really strong and good.)
-It's very rich.(เข้มข้น)
-It's delicious.
-It's mouth-watering.(It looks or smells so delicious.)

If you don't really like your food, you can say,
-It's bland. or It's tasteless. (It has no taste or flavor.) จืดชืด เช่น ข้าว
-It's unappetizing.(It looks bad.)ไม่น่ากิน
-It's unpalatable.กระเดือกไม่ลง
-It's uninviting or It's unpleasant. ไม่อร่อยเอามากๆ

But remember, always try first. แต่จำไว้นะ ทุกครั้ง ลองชิมดูก่อน!😂

"Beats me" แปลว่า "ตีฉัน" หรอ???...........................................ลองดูตัวอย่างประโยคเหล่านี้ค่ะA: Why is Paul ...
19/11/2020

"Beats me" แปลว่า "ตีฉัน" หรอ???
...........................................

ลองดูตัวอย่างประโยคเหล่านี้ค่ะ

A: Why is Paul so sad?
B: Beats me.

A: When is the next flight to Japan?
B: Beats me.

ที่นี้พอลองเดาได้แล้วใช่ไหมว่า beats me น่าจะหมายถึงอะไร.???....ถูกแล้วค่ะ แปลว่า "I don't know." หรือ "I have no idea." นั่นเอง

ต่อไปเวลาจะตอบว่าไม่ทราบ ไม่รู้ ก็ลองใช้ คำว่า Beats me บ้างก็ได้นะคะ แต่อย่าลืมว่าเป็นแค่ภาษาพูด ไม่เป็นทางการนะคะ💁‍♀️

17/11/2020

เคยได้ยินนะคำว่า "way to go" แต่ไม่เข้าใจอ่ะ แปลว่า "ทางที่จะไป" หรอ??
...............................................
ลองมาดูตัวอย่างบทสนทนา 2 อันนี้แล้วคิดว่ามันจะแปลว่าอะไร

A: Hey, I passed my final exam.
B: That's great! Way to go.

A: I won the tennis match yesterday.
B: Oh, nice. Way to go.

Way to go ใช้ในภาษาพูดเท่านั้น หมายถึง Good job หรือ Well done นั่นเอง ดังนั้นครั้งต่อไป ถ้าอยากจะชมใครละก็ ลองเปลี่ยนจาก good job หรือ well done มาเป็น way to go บ้างนะ จะได้ไม่จำเจ🤣

16/11/2020

วลีน่าสนใจที่ฝรั่งใช้บ่อย can't make it / made it. มันหมายถึงอะไรหนอ??

ตัวอย่างบทสนทนา
A: Are you going to the party tomorrow?
B: Sorry. I can't make it.

A: There's a meeting today at 2:00 p.m.
B: I'm busy this afternoon. I can't make it.

จากตัวอย่าง can't make it มีความหมายเท่ากับ can't go คือ ไปร่วมงานไม่ได้ ใช้สำหรับการพูดถึง การไปงานปาร์ตี้ ประชุม หรือการนัดหมายใดๆ

ส่วน made it ก็คือ มาได้นั่นเอง ลองดูตัวอย่างข้างล่างนี้

ณ งานเลี้ยงวันเกิดของเมซี่ เมซี่ได้เชิญเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ สมิธ มางานด้วย แต่สมิธไม่รับปากว่าจะมาได้หรือไม่เพราะกลัวติดงาน แต่ในวันงานเมื่อเมซี่เห็นสมิธมางานของเธอได้ เธอจึงเอ่ยปากว่า Oh, you made it. ด้วยความดีใจ

The offer is still on the table. ถ้าแปลตรงตัว "ข้อเสนอยังคงอยู่บนโต๊ะ" ความหมายที่แท้จริงคือ "ข้อเสนอที่เคยเสนอคุณไป ยัง...
11/11/2020

The offer is still on the table. ถ้าแปลตรงตัว "ข้อเสนอยังคงอยู่บนโต๊ะ"
ความหมายที่แท้จริงคือ "ข้อเสนอที่เคยเสนอคุณไป ยังคงรอคุณอยู่นะ ยังไม่มีเปลี่ยนแปลงหรือล้มเลิก"นั่นเอง คืออยากให้คุณรับข้อเสนอนั้นไว้

11/11/2020

"to" กับ "towards" ต่างกันอย่างไร 🏩🏢🏤

She is walking to the library.
She is walking towards the library.

สองประโยคนี้ มีความหมายเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

ประโยคแรก She is walking to the library. "to" + สถานที่
ใช้สำหรับการเจาะจงถึงจุดหมายปลายทางว่าคืออะไร เช่น
- to the library จุดหมายปลายทางคือ ห้องสมุด
- to the mall จุดหมายปลายทางคือ ห้างสรรพสินค้า
- to the post office จุดหมายปลายทางคือ ที่ทำการไปรษณีย์

ซึ่งจะแตกต่างกับคำว่า toward(s) + สถานที่
จะหมายถึง ไปในทิศทางแห่งนั้น แต่อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเขา เขาอาจจะแวะก่อนถึงสถานที่นั้น หรือ ผ่านเลยไปจากสถานที่นั้นเพื่อไปที่อื่นก็ได้ เช่น
- toward(s) the library ตรงไปทางห้องสมุด (อาจแวะหรือไม่แวะก็ได้-ไม่รู้)
- toward(s) the mall ตรงไปทางห้างฯ (อาจแวะหรือไม่แวะก็ได้-ไม่รู้)
- toward(s) the post office ตรงไปทางที่ทำการไปรษณีย์ (อาจแวะหรือไม่แวะก็ได้-ไม่รู้)

ตัวอย่างเช่น สมมุตเราอยู่ในมหาวิทยาลัย แล้วมีเพื่อนมาถามเราว่าเราเห็น สมศรีไหม ซึ่งเผอิญก่อนหน้าเราเห็นสมศรีเดินไปทางห้องสมุด แต่เราไม่ได้ทักเลยไม่รู้ว่าเธอจะไปห้องสมุดหรือเดินเลยไปไหนต่ออีก เราก็จะพูดได้ว่า
I saw her walking toward(s) the library 5 minutes ago.
ฉันเห็นหล่อนกำลังเดินไปทางห้องสมุดเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว

แต่ถ้าเราทักสมศรีแล้วเธอบอกว่าจะไปห้องสมุดเพื่อยืมหนังสือ หรือเราเห็นเธอกำลังจะเดินเข้าไปในห้องสมุด เราก็สามารถบอกเพื่อนได้ว่า
I saw her walking to the libraray 5 minutes ago.

และนี่คือความแตกต่างระหว่าง การใช้ to และ toward
ซึ่งรูป toward สามารถเขียนได้ทั้งแบบ มี s และ ไม่มี s ค่ะ ถูกทั้งคู่ค่ะ

03/11/2020

ช่องว่างควรเติมคำใดดี on, over, through

1.How did you get......... all of that chocolate? I was only gone for 10 minutes.คุณฟาดช็อกโกแลตเรียบได้ไงเนี่ย ฉันแค่หายไปสิบนาทีเอง

2.I always argue with my sister. We don't get.......ฉันทะเลาะกับพี่สาวเสมอเลย เราเข้ากันไม่ได้

3.I had a really bad cold last week but I get.........it.ฉันเป็นหวัดหนักเลยเมื่ออาทิตย์ก่อนแต่ฉันก็หายหวัดแล้วล่ะ

4.I got..........the bus at 8. ฉันขึ้นรถเมื่อตอน 8 โมง

5.How do I get ......... my ex? ฉันจะทำใจลืมแฟนเก่าได้ยังไง

6.We need more sugar. I've got........it all. เราต้องการน้ำตาลเพิ่ม ฉันกินจนหมดเกลี้ยงเลย

31/10/2020

เจ๋งเลย เยี่ยมเลย ทำได้ดีมาก นอกจาก cool - awesome - well done คำนี้ก็น่านำไปใช้ค่ะ
WAY TO GO !!!
ความหมายใช้ได้หมด 👍💥☄️

กิจกรรมต่อไปนี้ ใช้ตามหลังด้วย "go"
31/10/2020

กิจกรรมต่อไปนี้ ใช้ตามหลังด้วย "go"

30/10/2020

จะรับกาแฟไหมคะจะชงให้ ว่าแต่ "คุณจะใส่อะไรยังไง" (น้ำตาล,นม,ครีม)
จะถาม What do you take it? or How do you take it? ลองทายซิ☕️

I'm truly overwhelmed."ฉันรู้สึกตื้นตันใจอย่างมากๆ" (overwhelmed=ท่วมท้น ,ล้นปรี่่)ประโยคนี้ไว้ใช้กับการขอบคุณสำหรับใครบ...
28/10/2020

I'm truly overwhelmed."ฉันรู้สึกตื้นตันใจอย่างมากๆ" (overwhelmed=ท่วมท้น ,ล้นปรี่่)
ประโยคนี้ไว้ใช้กับการขอบคุณสำหรับใครบางคนที่ทำให้เราเกินความคาดหวัง จนเราตื้นตันใจพูดไม่ออกเลย

23/10/2020

ความหมายที่แตกต่างของ a great deal🧚🧚‍♀️

I got a great deal on that car. ฉันซื้อรถได้ในราคาดีทีเดียว
(เป็นราคาที่น่าพอใจ ราคาที่เหมาะสม ที่เราสามารถจ่ายได้)

แต่....

He has a great deal of money. จะแปลว่า เขามีเงินมากมายก่ายกอง

😁😂🤣

22/10/2020

It's no big deal. มีสองความหมาย 💥⭐️

1. "ไม่เป็นปัญหา, ไม่ใช่ปัญหา" ตัวอย่างเช่น
A: Thank you for driving me to the airport.
ขอบคุณที่ขับรถรถมาส่งผมที่สนามบินนะครับ
B: It's no big deal. The airport is on my way to work.
ไม่มีปัญหาเลยเพราะสนามบินเป็นทางผ่านไปทำงานของผมอยู่แล้ว

และ 2. "ไม่ซีเรียส, ไม่สำคัญ"
A: I heard you're sick. Are you OK? ได้ข่าวคุณไม่สบาย คุณโอเคมั๊ย
B: It's no big deal. It's just a cold ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่เป็นหวัดน่ะ

หรือ
A: Is your car badly damaged from the accident?
รถคุณเสียหายมากมั๊ยจากอุบัติเหตุ
B: It's no big deal. There's just a scratch.
ไม่เป็นไรมากหรอก แค่มีรอยขูดเท่านั้นเอง

ลองนำไปใช้ดูนะคะ 😄😆😂

21/10/2020

"down the street ไม่ได้แปลว่า ข้างล่างถนนนะ"
แต่หมายถึงอยู่ใกล้ๆ บนถนนสายเดียวกัน เช่น There is a new restaurant down the street.

20/10/2020

วันที่ดีสำหรับคุณ เป็นวันแห่งความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นวันแต่งงาน วันจบการศึกษา วันได้เลื่อนตำแหน่ง เราสามารถใช้คำว่า "red-letter day"

08/10/2020

should และ be supposed to แตกต่างกันอย่างไร??

....ทั้งสองคำ ก็น่าจะแปลได้เหมือนกันคือ "ควร" แต่ใช้ไม่เหมือนกันนะคะ
มาดูซิว่า ต่างกันอย่างไร

should ใช้กับความรู้สึกที่ออกมาจากคนๆ นั้นเพราะเห็นว่ามันสำคัญมาก ได้แก่ เช่น
-I should go to see a doctor. ฉันควรจะไปหาหมอนะ
-You should go to bed now. ลูกควรจะไปนอนได้แล้ว

แต่
be supposed to ใช้ในกรณีที่ผู้อื่นคิดว่าควรต้องเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่เราคิดเอง เช่น
-I'm supposed to be there by 9 o'clock. ฉันควรไปถึงที่นั่นไม่เกิน 9 โมง
เราอาจจะถูกเจ้านายสั่ง หรือ เพื่อนบอกให้ทำ โดยที่เราไม่ได้คิดว่ามันจำเป็นต้องทำ
-He's supposed to be here now. ป่านนี้เขาควรจะมาถึงได้แล้วนะ
คือเขาอาจจะโทรเมื่อชั่วโมงที่แล้วว่าเขากำลังเดินทางอยู่ และตอนนี้ทุกคนคาดหวังว่าเขาควรมาถึงได้แล้ว

...หายหน้าไปหลายวันไม่ได้โพส วันนี้ขอโพสมีสาระหน่อย..🤣มีหลายคนสงสัยการใช้งานเกี่ยวกับ Modal verbs มีหลายตัวที่พบเจอในประ...
08/10/2020

...หายหน้าไปหลายวันไม่ได้โพส วันนี้ขอโพสมีสาระหน่อย..🤣

มีหลายคนสงสัยการใช้งานเกี่ยวกับ Modal verbs มีหลายตัวที่พบเจอในประโยคแล้วรู้สึกสับสน เช่น can could would should และตัวอื่นๆ

ที่เราสับสนแปลไม่ถูก เพราะเราไม่เข้าใจความคิดของฝรั่ง ฝรั่งเขาจะใช้ Modal ตัวไหนขึ้นอยู่กับเขาต้องการสื่ออะไรให้ผู้ฟัง เช่น พูดในสิ่งที่เขามั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นอน, พูดในสิ่งที่ไม่แน่ใจและคิดว่าอะไรมันน่าจะเป็นไปได้, พูดในสิ่งที่แสดงถึงความสามารถ เป็นต้น

ดังนั้นเวลาที่เราจะเรียนเรื่อง modal verbs ขอแนะนำไม่ควรเรียนเป็นคำๆ เพราะบางคำ หนึ่งคำใช้กับการสื่อความหมายได้หลายอย่าง เช่น can เมื่อคุณเจอหลายประโยคโดยใช้คำนั้นเพียงคำเดียวจะไม่เข้าใจว่าฝรั่งเขาต้องการสื่ออะไร

ในโพสถัดๆ ไป เราจะนำ Modal Verb มาอธิบายในแต่ละความหมาย คอยติดตามกันต่อไปนะคะ 😆😍

01/10/2020

เพจนี้มีบริการสอนการบ้านภาษาอังกฤษนะคะ สำหรับนักเรียนระดับประถม มัธยม เพียงเดือนละ 500 บาท เราจะสอนให้คุณทำเป็นได้ด้วยตัวเอง

30/09/2020

วิชานี้เรียนไม่ไหว ฉันว่าฉันจะ
ดรอปเรียนอ่ะ This subject is very hard for me, so I'll drop out from it.😭

29/09/2020

I don't really like her because she likes to act cute and suck up to her boss. เกลียดหล่อนจัง ชอบทำตัวแบ๊วแถมเลียแข้งเลียขาเจ้านาย

26/09/2020

เจอ"คนบ้าอำนาจ"แล้วหงุดหงิดหัวใจจริงๆ
ถ้าจะบอกว่า "เขาเป็นคนบ้าอำนาจ มากๆ เลย" ก็ต้องบอกว่า
"He's such a control freak."

25/09/2020

เจอใครมากวนxีนเรา ก็อย่าไปให้ค่ามัน "ช่างมันเหอะ" ช่างมัน Nevermind /Just forget it /Let it go
หรือแบบตรงๆ "ชั่งแม่ง" Screw it!

21/09/2020

เคยมั๊ย ? รักคนที่เขาไม่รักเรา ทุ่มเททุกอย่างก็ไม่สนใจ บอกได้คำเดียวว่า Deal with it! ทำใจซะ!

16/09/2020

ความแตกต่างระหว่าง "have done" และ "did"? มาดูกันจากสองประโยคนี้:
1 -
Q: What have you done this morning?
A: I've shopped. (ความหมายคือเธอ shop ไปแล้ว แต่อาจจะไม่หยุด shop, อาจจะ shop อีก)

2 -
Q: What did you do this morning?
A: I shopped. (การช็อปปิ้งเสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่ช็อปอีกแล้ว)😁

15/09/2020

ถ่ายรูป take a photo/picture
ถ่ายเซลฟี่ take a selfie.
คุณถ่ายรูปขึ้นกล้องนะ You're very photogenic.

10/09/2020

ใครที่เคยติดตามเพจนี้ คงเคยอ่านเรื่อง การเรียนรู้ tenses ตามจินตนาการแล้ว มาวันนี้จะแบ่งปันเรื่อง tense อีกแบบ ที่ทำให้ทุกคนง่ายต่อความเข้าใจเรื่อง tense มากขึ้น

มีหลายตำรา หรือหลายแหล่งมักจะสอน tense ทีละ tense จนครบ 12 tense ซึ่งพอเรียนจบก็จะลืม tense ต้นๆ บ้าง ไม่แม่นบาง tense บ้าง แต่สำหรับใครที่ได้เข้ามาอ่านโพสนี้ตอนนี้ เราจะสอนคุณชุดละ 3 tense ไปพร้อมๆ กัน

บางคนคงบอกว่า แล้วจะไม่ยิ่งงงหนักไปกว่าเดิมหรือ ขนาดเรียนจบทีละ tense ยังจำไม่ได้เลย นี่ตั้ง 3 tense มาลองดูกันค่ะ

ชุดแรกได้แก่ - Past Continuous
- Present Continuous
- Future Continuous
ชื่อว่า continuous คือ กระทำอะไรบางอย่างอย่างต่อเนื่อง ภาษาไทยเรามีคำที่เกี่ยวข้อง คือ คำว่า "กำลัง" และ "อยู่" เข่น กำลังดูหนังสือ หรือ ดูหนังสืออยู่ เป็นต้น

ทั้ง 3 tense นี้จึงเหมือนกันตรงที่การกระทำ กำลังทำอยู่ แต่ต่างกันที่กาลเวลาคือกำลังทำอยู่ในอดีต กำลังทำอยู่ในขณะนี้ และกำลังทำอยู่ในอนาคต

ดังนั้น ถ้าต้องการเน้นว่าทำอะไรอยู่ จึงจำเป็นต้องมีเรื่องของการระบุเวลาตายตัวว่ากำลังทำเมื่อตอนกี่โมง หรือ ช่วงเวลา สำหรับเรื่องอดีตและอนาคต มาดูตัวอย่างกัน .......

เมื่อวานตอนเจ็ดโมงเช้าฉันกำลังวิ่งที่สวน (อดีต-เหตุการณ์จบไปแล้ว)
I was jogging at the park at 7 yesterday morning.

ตอนนี้ฉันกำลังทำงานอยู่ ไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้หรอก (ขณะนี้เลย)
I'm working. So I can't go pick you up right now.

พรุ่งนี้ตอน 10-11 โมง อย่าโทรมาหานะ ฉันติดประชุมอยู่ (อนาคต-ยังไม่เกิด)
I will be having a meeting from 10 to 11 tomorrow. Please don't call me.

จะเห็นได้ว่าทุก tense มีการสื่อความหมายที่เหมือนกันคือ กำลังกระทำ ณ เวลาใด หรือช่วงเวลาใด เพียงแต่โครงสร้างต่างกันคือ

อดีต ..... was, were + Ving
ปัจจุบัน...am, is, are + Ving
อนาคต....will be + Ving

หวังว่าจะทำให้เข้าใจและเห็นภาพของ 3 tense นี้ได้ชัดเจนขึ้น และง่ายต่อการนำไปใช้

ครั้งต่อไปจะนำ tense ต่างๆ ในกลุ่มอื่น ๆ มาบอกกันค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ😁

09/09/2020

ถ้ามีใครถามคุณว่า How are you? คุณเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคุณรู้สึกว่าก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักอาจตอบว่า SAME AS ALWAYS

06/09/2020

Graduate (v. or adj.)
ออกเสียงว่า แกร๊-จูว-เอ่ท แปลว่า เรียนจบ
Graduate (n.) ออกเสียงว่า แกร๊ด-จู-อิท แปลว่า บัณฑิต

05/09/2020

ใครเบื่อใช้คำว่า be good at ก็ลองเปลี่ยนมาใช้ excel in แทนดูบ้างก็ไม่เลวนะ I excel in cooking Thai food.🍲🥗

03/09/2020

2 วิธีง่ายๆ ถามฝรั่งทำอะไรในวันหยุดที่จะมาถึง What are your plans for the weekend? และ What are you going to do for this weekend?

การใช้ No, None, None of #basicofenglish
03/09/2020

การใช้ No, None, None of #basicofenglish

ที่อยู่


เบอร์โทรศัพท์

+66809428042

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Basic of Englishผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Basic of English:

วิดีโอทั้งหมด

A clever girl
A clever girl

Wow!!!, she's such a clever girl.

There are free English classes at 6.30 p.m. today

ทางลัด

ตำแหน่งใกล้เคียง บริการภาครัฐ

ความคิดเห็น

"เขาไม่รู้ว่าโจทย์คืออะไร แต่เห็นเพื่อนทำ ก็ทำตาม และทำดีด้วย" กับ "คุณเป็นคนที่ทำดีที่สุดในวันนี้" ภาษาอังกฤษเขียนว่าอย่างไรครับ รบกวนตอบหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
"เขาไม่รู้ว่าโจทย์คืออะไร แต่เห็นเพื่อนทำ ก็ทำตาม และทำดีด้วย" กับ "คุณเป็นคนที่ทำดีที่สุดในวันนี้" ภาษาอังกฤษเขียนว่าอย่างไรครับ รบกวนตอบหน่อยนะครับ
ขอบคุณค่ะ ดีมากที่ได้ฝึก