สืบนครบาล IDMB

สืบนครบาล IDMB สืบนครบาล (IDMB) ก่อตั้งปี พ.ศ.2548 เป็นหน่วยงานเฉพาะด้านการสืบสวน มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตกรุงเทพฯ
(16)

สืบนครบาล รวบ ก้อยเชียงราย หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน  1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่...
27/10/2023

สืบนครบาล รวบ ก้อยเชียงราย หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน

1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
2- เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 16.00 น.ได้ติดตามจับกุม น.ส.กัญญารัตน์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.994/66 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3- ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับว่า ต้องหารับสารถาภาพว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กับบุคคลที่ทักมาทางช่องทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เมื่อประมาณปี 2565 ซึ่งตนนั้นจำได้ไม่แน่ชัด โดยบัญชีดังกล่าวที่ถูกนำมาใช้ในการกระทำความผิดนั้นตนนั้นได้ไปทำการเปิดเมื่อประมาณ เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถจำเลขบัญชีได้ พร้อมบัตรเอทีเอ็ม รวมจำนวน 2 บัญชี ได้ค่าจ้างเปิดบัญชีบัญชีละ 15,000 บาท โดยเมื่อเปิดบัญชีแล้ว ผู้ว่าจ้างได้แจ้งว่าให้ส่งสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มไปให้ที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยตนนั้นได้ส่งผ่านขนส่งเอกชน ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)
5- นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบ หนึ่งมวกเหล็ก หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน  1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต...
27/10/2023

สืบนครบาล รวบ หนึ่งมวกเหล็ก หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน
1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
2- เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 16.00 น.ได้ติดตามจับกุม นายมานะ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.993/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน"ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตัวเป็นผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงสระบุรีที่ 79/2565 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2565 กระทำความผิดฐาน "ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น" โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณแคมป์คนงานด้านข้างบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.มวกเหล็ก ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
3- ในชั้นจับกุมผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2566 ได้เปิดบัญชีธนาคารเกียรตินาคินภัทร ทางออนไลน์ ด้วยโทรศัพท์มือถือ และผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารอื่นๆ อีกหลายบัญชีต่อมา ตนได้ทำโทรศัพท์มือถือ OPPO หายที่บ้านของป้า ม.4 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี (เป็นบ้านตามทะเบียนราษฎร์ของผู้ต้องหา) ซึ่งโทรศัพท์ได้ทำการผูกบัญชีธนาคารไว้ และรหัสแอปพลิเคชั่นธนาคารได้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปใช้ต่อหรือใช้ในการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)
5- นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบ ปึ่กวังน้ำเขียว หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน  1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ...
27/10/2023

สืบนครบาล รวบ ปึ่กวังน้ำเขียว หนึ่งในบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน
1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
2- เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 20.40 น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายวันชัย ปรางค์นอก อายุ 45 ปี (ที่อยู่ 80/226 ม.10 ต.วังน้ำเขียวอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.990/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตน ว่าเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ ที่บิดเบื่อนและปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ม.10 ต.วังน้ำเขียวอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
3- ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับว่า ผู้ต้องหามีเพื่อน ชื่อสุริโย ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ได้มาชักชวนคนในหมู่บ้าน 5 คนร่วมทั้งตัวผู้ต้องหาไปทำงานเป็นบัญชีม้า โดยผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นบัญชีม้าให้กับแก๊งการพนันออนไลน์ ในฝั่งปอยเปต ตึก 10 ชั้นหน้าตึกเขียนว่า มังกรฟ้า555 โดยตัวผู้ต้องหาอยู่ชั้นที่ 5 และไม่รู้ว่าชั้นอื่นทำอะไรบ้าง ถูกจำกัดบริเวณ ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ค่าจ้าง ครั้งละ 20,000 บาท ไปอยู่ประมาณ 15 วันต่อครั้ง โดยผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีไปจำนวน 4 บัญชี ตัวผู้ต้องหาได้ไปครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.66 กลับเข้ามาประมาณวันที่ 29 ส.ค.66 หลังจากนั้นเพื่อนคนเดิมได้มาชักชวนเพื่อไปทำอีกแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ตามวัน เวลา สถานที่ดังกล่าวเสียก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายวันชัย ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

27/10/2023
ภาพเก่าในอดีต ของสองนายตำรวจ ตำแหน่งพลตำรวจ ยืนถ่ายรูปกับขบวนรถไฟสายใต้ เมื่อปี พ.ศ.2460 โดยต้นทาง คือ สถานีบางกอกน้อย แ...
26/10/2023

ภาพเก่าในอดีต ของสองนายตำรวจ ตำแหน่งพลตำรวจ ยืนถ่ายรูปกับขบวนรถไฟสายใต้ เมื่อปี พ.ศ.2460
โดยต้นทาง คือ สถานีบางกอกน้อย และ ปลายทางคือ สถานีชุมพร
ขอบพระคุณ เพจ เชียงใหม่ที่คุณไม่เคยเห็น ที่ได้เก็บภาพที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์นี้ไว้
#ภาพเก่าในอดีต
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบ "ไมค์ดอนมะเกลือ" บัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน  1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศั...
26/10/2023

สืบนครบาล รวบ "ไมค์ดอนมะเกลือ" บัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญกว่า 2.5 ล้าน

1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
2- เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 23.40 น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายอนันต์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.997/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตัวเป็นผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
3- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซัก ถนนสนามจันทร์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
4- ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบอาชีพ พนักงานส่งอาหารของบริษัทแห่งหนึ่ง วิ่งรับงานในพื้นที่เมืองนครปฐม เกี่ยวกับกรณีที่ตนถูกจับกุมตามหมายจับน่าจะเป็นกรณีที่ เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2566 ตนได้เดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต เลขที่บัญชีจำได้ 4 ตัวท้าย 8325 ชื่อบัญชี นายอนันต์ ที่ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนครปฐม โดยวัตถุประสงค์ในการเปิดบัญชีเพื่อใช้เป็นบัญชีรองรับเงินเดือนของแฟน ซึ่งจะมีการโอนต่อเข้ามาพักไว้ในบัญชีหลังจากเงินเดือนออกทุกเดือน รวมทั้งเงินของตนซึ่งหาได้เป็นรายวัน เพื่อใช้เป็นบัญชีสำหรับนำไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นกู้ซื้อบ้าน , ยื่นผ่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนยื่นสมัครสินเชื่อเงินสดต่างๆ แต่เนื่องจากฐานเงินเดือนของแฟน และรายได้ต่อวันของตนไม่เยอะมาก ทำให้เมื่อตนและแฟนโอนเงินเดือนและเงินที่ตนหาได้รายวันเข้าไปในบัญชีดังกล่าวแล้ว จะสามารถมียอดเงินคงค้างในบัญชีดังกล่าวได้ไม่นานก็จะถอนเงินออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้รายการเดินบัญชีมีรายการเงินหมุนเวียนไม่คงที่ จึงคิดหาวิธีการแก้ไข
5- เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนกันยายน 2566 ตนและแฟนจึงได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ที่ตนเคยรู้จัก ซึ่งผู้ใหญ่คนดังกล่าวได้แนะนำและรับปากว่าจะนำบัญชีธนาคารที่ตนเปิดดังกล่าวนั้น ไปใช้เพื่อปรับแต่งรายการเดินบัญชีให้คงที่ให้ ตนจึงได้มอบบัญชีธนาคารนั้นให้ผู้ใหญ่คนดังกล่าวไปใช้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา โดยได้ให้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมกับเปิดซิมโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนในนามชื่อตนนำไปใช้ด้วยในคราวเดียวกัน
6- เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ตนและแฟนได้เดินทางไปที่ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนครปฐม เพื่อจะไปเบิกถอนเงินออกไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ จำนวน 5,000 บาท เมื่อไปทำรายการเบิกถอนเงินที่เคาน์เตอร์ของธนาคาร ปรากฏเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าบัญชีธนาคารของตนขณะนี้ถูกอายัด จึงไม่สามารถทำรายการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีได้ ตนจึงทราบว่าบัญชีธนาคารมีปัญหาตั้งแต่นั้น จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ตามวัน เวลา สถานที่ดังกล่าว
7- เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายอนันต์ หรือไมค์ ดอนมะเกลือ ผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
8- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า)
9- นอกจากนี้ผู้เป็นธุระจัดหาจ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

26/10/2023

แสบเข้าตา!! วินาทีเข้าจับกุม สาวแสบโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือ โกหกยันเจ้าหน้าที่ว่าอายุ 31 เจอถามกลับ ถึงกับช็อตฟิล
สืบนครบาล รวบ "น้ำสรรพยา" สาวแสบทำทีตีสนิทกับร้าน ก่อนโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสนชิ่งหนีไป โดยมีพฤติการณ์ ที่เข้ามาใช้อุบายทำตัวตีสนิทกับพนักงานเพื่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือภายในร้าน ก่อนที่จะทำการโชว์สลิปการโอนเงินปลอมและนำโทรศัพท์มือถือมูลค่าหลายหมื่นบาทหลบหนีไป และยังเคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพที่พูดจาโกหก หว่านล้อมผู้เสียหาย ใช้สลิปปลอมหลอกซื้อของ
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบ "น้ำสรรพยา" สาวแสบเนียนตีสนิทกับร้าน ก่อนโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสนชิ่งหนีไป1- ตามนโยบายของ พ...
26/10/2023

สืบนครบาล รวบ "น้ำสรรพยา" สาวแสบเนียนตีสนิทกับร้าน ก่อนโชว์สลิปปลอมซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสนชิ่งหนีไป
1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ให้ช่วยทำการสืบสวน
2- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
3- ติดตามจับกุมตัว น.ส.ธนาพร หรือ น้ำ สรรพยา ซึ่งมีพฤติการณ์ ที่เข้ามาใช้อุบายทำตัวตีสนิทกับพนักงานเพื่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือภายในร้าน ก่อนที่จะทำการโชว์สลิปการโอนเงินปลอมและนำโทรศัพท์มือถือมูลค่าหลายหมื่นบาทหลบหนีไป และยังเคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท
4- จากการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ปัจจุบัน น.ส.ธนาพร ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้ 1) หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 203/2566 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น” (หนีประกันศาล) 2) หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.375/2566 ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม 3) หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.404/2566 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้"
5- วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ได้แกะรอยผู้ตัองหา จนสืบทราบภายในเวลา10วัน ว่า ผู้ต้องหา ได้ไปหลบซ่อนตัวแถวปทุมธานี หนีไปเช่าพักคอนโด แถว ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สามารถติดตามจับกุม น.ส.ธนาพร หรือน้ำ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 203/2566 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น” (หนีประกันศาล) โดยจับกุมได้ที่หน้าคอนโด นวนคร-ตลาดไท ถนนเทพกุญชร42 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
6- พฤติการณ์ในคดี สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบจากประชาชน ที่มีการร้องทุกข์อันเกิดความเสียหาย จาก น.ส.ธนาพร หรือ น้ำ มีการก่อเหตุในท้องที่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 กล่าวคือ วันที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้เข้ามาภายในร้านเพื่อทำการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยได้สอบถามกับพนักงานว่าทางร้านมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน13 หรือไม่ ซึ่งพนักงานได้ตอบไปว่าไม่มี ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะถามว่ามีโทรศัพท์มือถือตระกูล S ไหม ซึ่งพนักงานก็ได้ตอบไปว่าทางร้านมีสต๊อกของเอาไว้ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะตกลงซื้อ โดยพนักงานขายได้ให้ผู้ก่อเหตุเลือกว่าจะซื้อเป็นเงินสด หรือเงินผ่อน ผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่าเลือกซื้อเป็นเงินสด ก่อนที่จะหยิบเครื่องมาทำการแกะให้ผู้ก่อเหตุดู
7- จากนั้นผู้ก่อเหตุได้สอบถามว่าจะให้ทำการโอนเงินผ่านคิวอาร์โค้ดอันไหน ซึ่งตนก็ได้ให้คิวอาร์โค้ดของทางร้านไป แต่ผู้ก่อเหตุได้แจ้งว่าขอถ่ายรูปเอาไว้ เพื่อจะส่งให้แฟนเพราะแฟนจะเป็นคนโอนค่าโทรศัพท์มือถือให้ จากนั้นตนก็ได้ทำการเตรียมเครื่องให้กับลูกค้าไว้หลังร้านระหว่างรอให้ผู้ก่อเหตุรายนี้โอนเงินให้ ก่อนที่จะเดินไปรับลูกค้าอีกคนหนึ่ง และผู้ก่อเหตุยังได้ขอกระดาษเปล่า 1 แผ่น พร้อมออกอุบายว่าซ้อมลายเซ็น ที่จะทำเป็นสลิปปลอมให้ตายใจ ว่าผู้ก่อเหตุชื่อนี้จริง
8- จากนั้นผู้ก่อเหตุได้แจ้งพนักงานว่า แฟนได้โอนเงินให้ทางร้านแล้ว ตนจึงได้ทำการถ่ายรูปหลักฐานการโอนเงินเอาไว้ เนื่องจากช่วงเวลานั้น ผู้จัดการร้านออกไปรับเครื่องซ่อมของลูกค้า ซึ่งระหว่างที่พนักงานกำลังจะดูหลักฐานการโอนเงิน ผู้ก่อเหตุได้ชักชวนคุยเรื่องของการบริการทางร้าน เมื่อจบการสนทนาก็ได้นำเครื่องโทรศัพท์มือถือออกจากร้านไป ซึ่งภายหลังไม่เกิน 5 นาที พนักงานเองตรวจสอบพบว่าสลิปที่หญิงสาวผู้ก่อเหตุโอนเงินให้นั้นผิดปรกติ จึงได้โทรศัพท์หาเจ้าของร้านเพื่อสอบถามว่ามียอดเงินเข้าหรือไม่ ทางเจ้าของร้านก็ได้แจ้งว่าไม่มียอดเงินโอนเข้ามา จนเมื่อผู้จัดการร้านกลับมาถึงที่ร้านและได้ทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งก็พบว่าไม่มียอดเงินโอนเข้าจริง จึงวิ่งออกไปตามหาหญิงสาวรายดังกล่าวแต่ก็ไม่พบ
9- สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ผู้ก่อเหตุได้ไป เป็น samsung galaxy s23 ultra พร้อมอุปกรณ์ชาร์จของแท้ รวมมูลค่า ประมาณ 45,180 บาท ส่วนกลอุบายของหญิงสาวรายนี้ก็จะทำทีพูดคุยและทำตัวตีสนิทกับพนักงาน จนทำให้ตายใจ เบื้องต้นทางเจ้าของร้านได้ไปทำการแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อดำเนินการติดตามตัวหญิงสาวรายนี้มาดำเนินคดี จากการสืบสวนเพิ่มเติมยังพบว่า ผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ สภ.พระอินทร์ราชา โดยทำสลิปโอนเงินปลอมมาไถ่โทรศัพท์ที่นำมาจำนำไว้กับร้าน แล้วรีบขี่ จยย.หลบหนีไป ต่อมาถูกจับกุมตัวได้ แต่ได้หนีประกันในชั้นศาล
10- จากการซักถามในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ มีภูมิลำเนา จ.ชัยนาท จบการศึกษา ระดับ ปวส. เทคนิคชัยนาท ทำงาน3-4 ปี จนตกงานในช่วงโควิด แผนประทุษกรรมในการก่อเหตุ คือ ก่อนลงมือก่อเหตุ จะเดินทางไปดูร้านโทรศัพท์ บ้านพักอาศัย หรือเป้าหมายที่ตนจะประสงค์ต่อทรัพย์ ผู้ต้องหาจะทำการศึกษาข้อมูลก่อนว่า ร้านค้า บ้านพัก หรือ เป้าหมายนั้นๆมีคนพักอาศัย หรือประจำร้านสาขานั้นมีพนักงานประจำกี่คน ต่อมาจะศึกษาเส้นทางการเดินทางเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหลบหนี และที่สำคัญต้องดูว่า "เป้าหมายใช้บัญชีอะไร ชื่ออะไร เลขบัญชีอะไร" เพื่อทำการวางแผนก่อนการเอาทรัพย์นั้นๆ ซึ่งผู้ต้องหา ยังให้การเพิ่มเติมว่า ตนจะปลอมแปลงสลิปโอนเงินออนไลน์ล่วงหน้าก่อนก่อเหตุ หากเป็นลักทรัพย์ จะวางแผนสวมใส่เสื้อผ้าอำพรางตัว เมื่อถึงห้วงเวลาในการก่อเหตุ จะหลอกล่อพูดคุยกับผู้เสียหายให้ตายใจ เพื่อไม่ให้มีเวลาในการตรวจสอบสลิปโอนเงิน และไม่น่าสงสัยต่อแผนประทุษกรรม หรือหากลักทรัพย์สินค้านั้นๆ ก็จะรีบทำการหลบหนี เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายจับได้ทันเวลา และแฝงตัวในที่พักอาศัยย่านชุมชนที่มีคนหนาแน่น เพื่อยากต่อการสืบหาจับกุม
11- ผู้ต้องหายังให้การว่า ตนเองก่อเหตุแบบนี้มาเป็นเวลานาน ต่อเนื่องมา ตั้งแต่ปี 2565-2566 เมื่อได้ทรัพย์หรือได้สินค้านั้นมา ก็จะทำการโพสต์ขายบนโซเชียล หรือไปฝากขายยังหน้าร้านรับจำนำ รับซื้อขายฝาก โดยขายหรือจำนำทันทีที่ก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.ธนาพร ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชนถึงมิจฉาชีพที่หลอกทำธุรกรรมโดยใช้สลิปปลอม
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

‼️เตือนภัย‼️ การบินไทย (Thai Airways) เตือนภัยระวังเพจปลอมแอบอ้างรับสมัครงานการบินไทย (Thai Airways) เตือนภัยประชาชน เพจ...
25/10/2023

‼️เตือนภัย‼️ การบินไทย (Thai Airways) เตือนภัยระวังเพจปลอมแอบอ้างรับสมัครงาน
การบินไทย (Thai Airways) เตือนภัยประชาชน เพจปลอม “THAI Corporate Communications” แอบอ้างใช้ชื่อและภาพของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงคัดลอกเลียนแบบชื่อเพจ และรูปภาพ รวมถึงแอบอ้างในการประกาศรับสมัครงาน
เพจจริงของการบินไทย (Thai Airways) มีเพจเดียวเท่านั้น คือ "Thai Airways” ที่มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า
#เตือนภัย
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบบัญชีม้าแก๊งมิจฉาชีพ หลอกขายของออนไลน์ให้ผู้เสียหายจำนวนมาก 1- วันที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 20.30 น. ภายใต้กา...
23/10/2023

สืบนครบาล รวบบัญชีม้าแก๊งมิจฉาชีพ หลอกขายของออนไลน์ให้ผู้เสียหายจำนวนมาก

1- วันที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 20.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ
2- จับกุมตัว นายสมหวัง อายุ 67 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 312/2566ลงวันที่2มิถุนายน2566กระทําความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"
3- พฤติการณ์ ผู้ต้องหา ให้ถ้อยคำว่า เมื่อประมาณปี 2564 ได้มี นายอ้วน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เช่าห้องพัก อยู่ในซอยเพชรบุรี 5 (ปัจจุบันได้หลบหนีไปแล้ว) บอกให้เปิดบัญชีธนาคารให้ โดยนายอ้วน ได้ให้ค่าตอบแทนจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ทราบว่านายอ้วนเอาไปใช้ทำอะไร ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่า บัญชีถูกนำไปให้แก๊งมิจฉาชีพ จึงรีบไปปิดบัญชี แต่ไม่ทันเสียแล้ว บัญชีถูกนำไปรับโอนเงินที่แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงผู้เสียหายมาจำนวนหลายครั้ง
4- สถานที่จับกุมบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งกลางซอยเพชรบุรี5 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นำส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

สืบนครบาล รวบอาจารย์เต้ย อดีตนักปั้น TOP MODEL THAILAND หลอกขายฝันเหยื่อกว่า 10 ราย ความเสียหาย 10 ล้านบาท1- ตามนโยบายขอ...
22/10/2023

สืบนครบาล รวบอาจารย์เต้ย อดีตนักปั้น TOP MODEL THAILAND หลอกขายฝันเหยื่อกว่า 10 ราย ความเสียหาย 10 ล้านบาท
1- ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. เร่งรัดปราบปราม จับกุม กลุ่มบุคคลหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่ขายความฝันและโอกาสให้แก่เด็กที่อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง หลอกลวงให้ผู้ปกครองที่สนใจให้สมัครและอ้างว่าสามารถที่จะนำพาเด็กประกวดเดินแบบและถ่ายแบบทั้งในไทยและต่างประเทศ โอนเงินให้แก่ทางกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นจำนวนรายละกว่า 100,000 – 200,000 บาท อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนความผิดหวังให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความฝัน โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลรับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ปกครองที่ตกเป็นเหยื่อ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครจำนวนหลายรายว่า มีอดีตนักปั้นซึ่งเป็นที่รู้จักในยุคปี 2562 ได้เปิดเฟจ facebook ชื่อว่า “Top model 2022” ชักชวน ให้ผู้ปกครองที่สนใจ นำบุตรหลานเข้าสมัครประกวดการเดินแบบและถ่ายภาพ เพื่อเป็นบันไดเข้าสู่วงการบันเทิง โดยหลอกลวงให้ผู้ปกครองโอนเงิน ค่าใช้จ่ายในการสมัคร และค่าเดินทางไปเดินแบบและถ่ายแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เข้าบัญชีธนาคารของตน แต่พอถึงกำหนดนัดหมายก็มิได้เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้ไว้ จนมีกลุ่มผู้ปกครองจำนวนหลายสิบราย ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่ากว่าเกือบสิบล้านบาท
2- จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นครบาล ได้แกะรอย ติดตาม และสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายจรุงศักดิ์ อายุ 51 ปี บุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.3143/2566 ลงวันที่ 19 กันยนยน 2566 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
3- จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การภาคเสธฯ โดยรับว่าตนได้เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์)จำกัดจริง ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และเปิดเพจเฟซ๊บุ๊ก ชื่อว่า “Top model 2022” ในลักษณะสาธารณะ พร้อมทั้งประกาศข้อความชักชวนว่ารับสมัครประกวดเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง โดยมีการเสียค่าสมัครประกวดเดินแบบ (ค่าแรกเข้า) จากนั้นได้มีการติดต่อพูดคุยกับผู้ปกครองว่ามีงานเทรนนิ่งเดินแบบและมีงานประกวดเดินแบบ ทั้งในและต่างประเทศ หากผู้ปกครองท่านใดสนใจ จะต้องโอนเงินค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ในการเดินแบบ ให้ทางบริษัทตนเสียก่อน โดยอ้างว่าทางผู้ปกครองจะได้รับเงินค่าจ้างในการเดินแบบหลังจากเสร็จงาน แต่ผู้ถูกจับอ้างว่าเกิดปัญหาและข้อขัดข้องในการติดต่อประสานงานในเรื่องเดินทาง และกับทางเจ้าภาพผู้จัดการประกวดเนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงไม่สามารถนำเด็กและผู้ปกครองไปเข้าร่วมการประกวดดังกล่าวตามที่สัญญาได้ จนเป็นเหตุให้บริษัทของตนเกิดปัญหาทางการเงินและได้ปิดตัวลงในช่วงปลายปี 2565 ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่สืบนครบาลจับกุมได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
4- จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์) Top model Thailand จำกัด และเปิดเพจเฟซบุ๊ก ในลักษณะเปิดเป็นสาธารณะประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและมองเห็นได้มีการประกาศข้อความชักชวนว่ารับสมัครประกวดและเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง จากนั้นเมื่อมีผู้ปกครองบุตรหลานสนใจทักไปหาผู้ถูกจับกุม จากนั้นผู้ถูกจับกุมจะทำการชักชวนสมัครประกวดโดยเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้าเพื่อเทรนนิ่งเดินแบบตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม RCA โดยคิดว่าสมัครแรกเข้าเด็กคนละ 1,000 บาท ต่อมาจากนั้นผู้ถูกจับได้มีการชักชวนให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานให้ร่วมเข้าประกวดการเดินแบบและถ่ายแบบในงานประกวด “miss international” เพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านพัทยา โดนจะต้องเสียค่าสมัครประมาณ 5,000 บาทต่อคน อีกทั้งยังต้องจะต้องโอนค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าประกันงาน ค่าสปอนเซอร์ ค่าเดินทางเข้าประกวด ประมาณ 40,000 - 50,000 บาทต่อ ผู้เข้าประกวด 1 คน (ไม่รวมผู้ติดตาม)
5- โดยผู้ถูกจับอ้างว่า ทางผู้ปกครองจะได้รับเงินคืนหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด หากเป็นกรณีที่ผู้ถูกจับชักชวนให้ผู้ปกครองนำพาบุตรหลานเข้าประกวดเดินแบบในต่างประเทศ อาทิ ประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการติดตามบุตรหลานท่านละประมาณ 10,000-20,000 บาท อีกทั้งทางผู้ถูกจับอ้างว่า ทางผู้ปกครองจะได้รับเงินค่าจ้างเดินแบบให้แก่บุตรหลานคืน คนละประมาณ 10,000-20,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเด็กแต่อย่างใด หลังจากที่ผู้ปกครองได้โอนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่ผู้ถูกจับ ผู้ถูกจับได้เชิดเงินหลบหนี อีกทั้งซ้ำร้ายพบว่า เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ผู้ปกครองพร้อมบุตรหลานบางรายได้เดินทางไปรอขึ้นเครื่อง เมื่อสอบถามทางสายการบินกลับพบว่า ไม่มีการจองการเดินทางดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อกับผู้ถูกจับได้ อันเป็นการทำลายความหวัง ความฝัน ของเด็กและผู้ปกครองอย่างแสนสาหัส ด้วยอุบายและพฤติการณ์หลอกลวงของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองต่างหลงเชื่อ โดยอาศัยความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจของผู้ปกครอง ที่คาดหวังให้บุตรหลานของตนเข้าสู่วงการบันเทิง ต่างโอนเงินให้แก่ผู้ถูกจับ เป็นจำนวนรายละกว่า 100,000-200,000 บาท
การเผยแพร่นี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการเตือนภัยประชาชน ถึงการหลอกลวงทางออนไลน์
สืบนครบาล หน่วยงานของประชาชนทุกคน
#สืบนครบาล

“รับสมัครด่วน!! แค่ฟังเพลงก็มีค่าตอบแทนให้ ดู 5 เพลง รับทันที 250฿ ดูคลิปเพลงจบ รับเงินกับแอดมินโดยตรงได้ทันที!” นี่คือ ...
21/10/2023

“รับสมัครด่วน!! แค่ฟังเพลงก็มีค่าตอบแทนให้ ดู 5 เพลง รับทันที 250฿ ดูคลิปเพลงจบ รับเงินกับแอดมินโดยตรงได้ทันที!” นี่คือ กลโกงการหลอกทำภารกิจสุดคลาสสิก ที่กลับมาระบาดอีกครั้งโดยเน้นเหยื่อที่เป็นเด็กและเยาวชน
สืบนครบาลอยากจะขอมาเตือนภัยพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้บุตรหลานของท่านตกเป็นเหยื่อ โดยวิธีการโกงของมิจฉาชีพ จะมีรูปแบบ ดังนี้
1- โปรโมตรับสมัครงานทั้ง Part Time และ Full Time โดยแค่ดูคลิปเพลงก็ได้เงินทันที โดยคนร้ายจะเสนอผลตอบแทนที่ยั่วยวน เพื่อให้เหยื่อรู้สึกว่า งานสบาย รายได้ดี ไม่ซับซ้อน
2- ให้เหยื่อแอดไลน์ อ้างว่า เป็นช่องทางติดต่อกับแอดมินเพื่อรับงาน และรับเงินเมื่อดูเพลงจบทันที
3- จากนั้นคนร้ายจะให้เหยื่อโอนเงินเข้าระบบก่อน เพื่อเป็นการสำรองเงินขั้นต่ำ และคนร้ายสัญญาว่าจะได้เงินคืนตามแพคเกจงานที่เลือก
4- หากแต่เมื่อเหยื่อทำภารกิจแรกสำเร็จ คนร้ายจะให้เหยื่อโอนเงินเพิ่ม เพื่อทำภารกิจที่ 2 และ 3 โดยมอบข้อเสนอที่มีผลตอบแทนสูงกว่ามาก ซึ่งทำให้เหยื่อหลายรายหลงเชื่อ ตัดสินใจโอนเงินเพิ่ม
5- หากเหยื่อไม่สามารถโอนเงินเพิ่มได้ มิจฉาชีพจะบอกว่า ทำภารกิจไม่สำเร็จ ไม่สามารถถอนเงินได้ อีกทั้งการถอนเงิน ต้องจ่ายค่าภาษีและค่าดำเนินการถอนเงินออกจากระบบ ซึ่งเป็นยอดเงินที่สูง
6- จนสุดท้ายเหยื่อหลายรายเงินหมดตัว สูญทั้งเงิน สูญทั้งเวลา
สืบนครบาล ขอฝากเตือนภัย ด้วยความห่วงใยจากใจจริง หลังจากที่เราพบว่า คนร้ายปรับรูปแบบการหลอกทำภารกิจ มาเน้นเหยื่อที่เป็นเด็กและเยาวชนมากขึ้น
ข้อเสนอที่ฟังดูดี หรือมีผลตอบแทนสูงเกินจริง ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเป็นมิจฉาชีพ หรือหากพบว่า มีการให้วางเงินมัดจำ หรือสำรองเงินก่อนจะทำงานได้ ให้ท่านฉุกคิดทันทีว่า กำลังโดนมิจฉาชีพหลอกลวง อย่าโอนเงินโดยเด็ดขาด
#เตือนภัย
#แชร์เท่ากับช่วย
#สืบนครบาล

มือปราบหูดำ ตำนานสืบใต้ - พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ -[ ประวัติการศึกษา ]พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ สร้างเรื่องราวประดับยุทธจั...
21/10/2023

มือปราบหูดำ ตำนานสืบใต้ - พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ -
[ ประวัติการศึกษา ]
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ สร้างเรื่องราวประดับยุทธจักรสีกากีไว้ไม่น้อย
จากเด็กบ้านนอกชาวกรุงเก่า ลูกชาวนาตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ทุกเช้าก่อนไปเรียนหนังสือต้องทำความสะอาดคอกควาย ขนขี้ควายออกจากคอกเอาไปทิ้ง ชักซังข้าวทิ้งไว้ให้ควายกิน เสาร์อาทิตย์อยู่กลางทุ่งนาเลี้ยงควาย
เดิมที พล.ต.ต.วิชัยฯ ไม่ได้ใฝ่ฝันจะเป็นตำรวจ พอเรียนจบชั้นประถม 7 โรงเรียนวัดสะแก ไม่ได้เรียนต่อ เพราะพ่อแม่ยากจน ไม่มีเงิน ให้ทำนา ต่อมาพี่ชายมาจากกรุงเทพฯ เห็นว่า อยู่ว่างๆเลยพาเข้ากรุงไปเรียนหนังสือแถวโรงเหล้าบางยี่ขัน ก่อนไปลองสอบเตรียมทหาร แต่สอบเข้าไม่ได้ ไม่รู้จะไปเรียนต่อที่ไหน เพราะสอบพร้อมกันหมด ต้องกลับไปตั้งหลักบ้านเกิด
ต่อมา อาชวนไปเรียนช่างต่อเรือสายอาชีพอยู่ 3 ปี ระหว่างนั้นไปสอบเทียบสายสามัญชั้นมัธยม 8 เริ่มมีความคิดจะเป็นตำรวจ สมัครสอบโรงเรียนตำรวจนครบาล ครั้งแรกตกพละ ไม่ผ่านเข้าสนามข้อเขียน
ปีถัดมาเตรียมตัวใหม่สู้กับผู้สมัครนับหมื่น รับ 540 คน คะแนนสอบดีติดเป็นคนที่ 14 ของรุ่น เข้าอบรม 6 เดือนท่ามกลางเหตุการณ์บ้านเมืองคุกรุ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ช่างกล เดินขบวนประท้วง มีการตั้งกองร้อยปราบจลาจลครั้งแรก พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้สังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ติดอาร์มสวยหน่วยเดียวของประเทศ
ต่อมา พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้ไปศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เพิ่มเติม นำวุฒิปริญญาตรีไปสอบเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจอบรม รุ่นที่ 25 ได้บรรจุเป็นรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น
[ ประวัติการทำงาน ]
หลังจาก พล.ต.ต.วิชัยฯ บรรจุเป็นรองสารวัตรสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ทำงานสอบสวนเข้าตา พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ขณะนั้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาลพระนครเหนือ พล.ต.ต.วิชัยฯ จึงได้รับการสนับสนุนให้ย้ายไปอยู่ สน.พญาไท
ต่อมา พล.ต.ต.ประสงค์ วาสิกานนท์ เป็นผู้บังคับการ สืบเหนือ จึงได้โยกให้ พล.ต.ต.วิชัยฯ ไปทำหน้าที่รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.พญาไท ประเดิมจับตายคนร้ายข่มขืนพยาบาลโรงพยาบาลชื่อดัง โดยมี “โกสินทร์ หินเธาว์” เป็นสารวัตรสืบสวน ซึ่งเป็นเสมือนครูนักสืบคนแรกของ พล.ต.ต.วิชัยฯ ที่สอนตำราจากการลงพื้นที่จริง
ไม่นานนัก พล.ต.ต.วิชัยฯ ก็เผชิญมรสุม ในทันทีที่ พล.ต.ท.วินิจ เจริญศิริ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังชุดเฉพาะกิจจับบ่อนปอ ประตูน้ำ ส่งผลให้ตำรวจพญาไท เจอคำสั่งย้ายกระจัดกระจายเกือบทั้งโรงพัก
พล.ต.ต.วิชัยฯ ถูกย้ายไปอยู่โรงพักบางมด ถูกกาหัวไม่ให้ทำงานฝ่ายสืบสวน แต่ด้วยความที่เก่งสอบสวน พล.ต.ต.วิชัยฯ จึงใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการทำสำนวนให้ผู้บังคับบัญชา ส่งประกวดชิงพนักงานสอบสวนดีเด่นของกองบังคับการตำรวจนครบาลธนบุรี เป็นตัวแทนไปชนะระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรมตำรวจในปีเดียวกัน
พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้ขึ้นเป็นสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชยเขต 2
ทำงานสอบสวนเข้าตา พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ขณะนั้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาลพระนครเหนือ สนับสนุนให้ย้ายไปอยู่โรงพักพญาไท เพียงปีเดียวเปลี่ยนมาตำแหน่งสารวัตรสืบสวน เริ่มบทบู๊ ทำวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายสารพัดแก๊งที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่
พล.ต.ต.วิชัยฯเล่าว่า “พลับพลาไชยเขต 2 พื้นที่รับผิดชอบแค่ 0.9 ตารางกิโลเมตร โรงพักไม่เคยมีใครทำวิสามัญฆาตกรม เราติดตามต่อสู้คนร้ายตายไป 6 ศพ เป็นพวกนักเลงชอบปล้นบ่อน ดักชิงทรัพย์ทำร้ายคนจีนที่มาออกกำลังกายตอนเช้ามืด ทำจนคนในวงการพูดกัน ขาใหญ่ในพื้นที่เริ่มเกรงกลัวเรา บารมีกินไปในเขตปทุมวัน หัวลำโพง ตรอกสลักหิน ยันบางรัก เพราะเราเอาจริง ต้องคุมให้ได้ เพราะแก๊งพวกนี้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ"
เมื่อมาถึงยุค พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนนท์ คุมทัพนครบาล พล.ต.ต.วิชัยฯ สร้างผลงานจับเป็นจับตายนับไม่ถ้วน จนได้ขึ้นเป็นรองผู้กำกับการสืบใต้ ก่อนปรับโครงสร้างเป็นรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5
พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้รับมอบหมายให้ทำงานลับให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.ประชาชนฯ ได้เมตตาเตรียมเสนอขึ้นผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม แต่ พล.ต.ต.วิชัยฯ ยังติดขัดยังไม่ผ่านหลักสูตรผู้กำกับการ จึงต้องสลับไปเป็นนายเวร พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่าตำแหน่งผู้กำกับแทน
ติดสายขาวแค่ 10 เดือนลงเป็นผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 8 โชว์บู๊สะบั้นหั่นแหลกสมฉายา “มือปราบหูดำ” ทำวิสามัญฆาตกรรมมือปืนรับจ้าง แก๊งโจรกรรมรถ นักค้ายาเสพติดในสมัยประกาศสงครามเพื่ออาชนะยาเสพติดระลอกแรก ตลอดจนโจรปล้นฆ่าตายเป็นเบือ
พล.ต.ต.วิชัยฯ เป็นคนทำงานบู๊ดุเดือด ผู้บังคับบัญชาจึงมักมอบหมายให้สะสางคดีสำคัญใหญ่ๆ อยู่เสมอ จนได้รับฉายา "มือวิสามัญฯ" ของนครบาล ขนาดคนร้ายได้ยินชื่อถึงกับผวา
พล.ต.อ.สันต์ ศุรตานนท์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะตบรางวัลให้เป็นผู้กำกับที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย ยกเว้นผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.วิชัยฯ ปฏิเสธอ้างอายุมากแล้ว เพราะเป็นตำรวจช้ากว่าคนอื่น ขอขึ้นรองผู้บังคับการดีกว่า จึงได้เลื่อนเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ทำงานปราบปรามตามความถนัด
ดำรงตำแหน่งได้สักพัก ก็ถูกมรสุมพัดหอบไปอยู่ภูธรเป็นรองผู้บังคับการตำรวจจังหวัดบุรีรัมย์ สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ตอนที่อยู่บุรีรัมย์ก็ไม่ทำให้ประชาชนต้องผิดหวัง ได้สร้างโครงการตำรวจชุมชนจับเข่าคุยกับชาวบ้าน เพื่อร่วมกันแก้ไขให้พื้นที่สงบสุข ที่ผ่านมาได้รับรางวัลการันตี ผลการทำงานมากมาย อาทิ รางวัลสืบสวนดีเด่นของกรมตำรวจ ปี 2539 ข้าราชการดีเด่นของสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ปี 2543 ปราบปรามยาเสพติดดีเด่นของ ป.ป.ส.จากสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2545 และ ปี 2546
อยู่ได้เพียงปีเศษ เมื่อท้องฟ้ามืดครึ้มผ่านไป พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้รับคืนความชอบธรรมกลับมาขึ้นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 แต่อยู่ได้เพียงแค่ 3 เดือนขยับเป็น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1
ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ของนครบาล 1 กำลังมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองแบ่งแยกต่างสี พล.ต.ต.วิชัยฯ ต้องมาทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เป็นหัวหน้านักเจรจา และทำโครงการอีกมากมาย เช่น ปะฉะดะ นำเอาความรู้จากการไปดูงานประเทศสหรัฐอเมริกาจัดสายตรวจเข้มในพื้นที่เปิดตัวโชว์ศักยภาพ ทำคนร้ายกลัวไม่กล้าก่อเหตุ ตามด้วยโครงการตำรวจนครบาล 1 พึ่งได้ โครงการสายตรวจสายสมร โครงการสายลับพันหน้า
โดยเฉพาะผลงานของชุด ปะ ฉะ ดะ เห็นผลจับต้องได้ อาทิ วิ่งไล่จับหญิงค้าประเวณี ริมถนนเพชรบุรี 29 คน ต่อมาตร.ห้วยขวาง สนธิกำลัง ตร.ปะฉะดะ บุกแมนชั่น ถ.เทียนร่วมมิตร จับแก๊งเหงียนจัดปาร์ตี้ยาอี-เค จับตัวได้ทั้งหมด 11 คน
ต่อมา พล.ต.ต.วิชัยฯ ได้ขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนเจอมรสุมอีกระลอก ถูกย้ายไปเป็น รองจเรตำรวจ ก่อนออกจากราชการ
“ตอนนั้นยอมรับว่า รู้สึกท้อนะ ผู้บังคับบัญชาบางคนไม่ปกป้อง อ้างหลักการ รอกระทืบซ้ำ ทั้งที่ผมทุ่มเททำงานให้กับราชการมากมายเกือบตลอดชีวิต แต่คิดว่า ผมมาจากพลตำรวจมาถึงได้ขนาดนี้ถือว่า สุดแล้วนะ แม้มันไม่ควรมีมลทิน ทำไงได้ มันแก้ไขไม่ได้ ต้องตัดความรู้สึก ไปในทางที่ดีว่า มาได้สูงสุดแค่นี้แล้ว” พล.ต.ต.วิชัยฯ​ สะท้อนชีวิตจริงที่เผชิญกับตัวเอง
[ ฝากถึงตำรวจรุ่นใหม่ ]
พล.ต.ต.วิชัยฯ กล่าวว่า “ตำรวจรุ่นใหม่ อาจเก่งทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไกล แต่เรามองว่า เด็กรุ่นใหม่โตเร็วไป บางคนไม่เคยผ่านพื้นที่ ไม่เคยผ่านชีวิตตำรวจ พอมาคุมตำรวจไม่ได้ ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ไว้ใจ เพราะไม่เคยแสดงความสามารถให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็น
ซึ่งต่างจากตำนานสมัยโบราณ เจอสารวัตรใหญ่แทบขี้เยี่ยวแตก ไม่กล้าเจอหน้า เป็นรองสารวัตรสอบสวน โดนเรียกดูสำนวนค้างก็หัวหดหมดแล้ว
ตอนเราจบเป็นร้อยตำรวจตรีใหม่ๆ เป็นพนักงานสอบสวน สารวัตรใหญ่จะเรียกไปเขียนประจำวันก่อน เรียนรู้จากเสมียนประจำวัน เหตุผลเพราะว่า ตำรวจจะรอดคุก คือ ประจำวัน ให้ไปเรียนกับนายดาบ คือ ครู ปัจจุบันไม่มี มาถึงเก็บสำนวน วันสองวันชักเบื่อแล้วก็วิ่งเต้นหนีงานสอบสวน
ผมอยู่กับท่าน "คงเดช ชูศรี” บรมครูนักสืบ ท่านสอนหมด เรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบบอกผมให้ไปเอาน้ำมาแก้ว อย่าเอาน้ำเย็นนะ ไปให้มันกิน พอสอบปากๆ มันจะคอแห้งหยิบน้ำดื่ม ให้สังเกตว่า จับมือไหน นิ้วไหน เสร็จแล้วเอาแก้วไปตรวจลายนิ้วมือเปรียบเทียบกับศพ หรืออาวุธที่เรายึดได้ นายสมัยนั้นสอนแบบนี้ มันมาจากประสบการณ์”
“มือปราบหูดำ” เล่าอีกว่า “บางคดีรู้ตัวคนร้าย เจอก้นบุหรี่ในที่เกิดเหตุมาสืบจับ คดีหนึ่งพบศพ คนร้ายดูดบุหรี่ทิ้งไว้ เราไปหาผู้ต้องสงสัยที่สูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน เอาดีเอ็นเอมาตรวจตรงกัน สุดท้ายก็รับสารภาพ
ถ้าเป็นสมัยนี้คงเหยียบก้นบุหรี่กันหมด ไม่เคยคิดจะเก็บบุหรี่นี้ไว้ ท่านคงเดชฯ สอนผมเลย มึงเป็นสายสืบ มึงอย่าไปยุ่งกับที่เกิดเหตุ ให้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน แล้วเดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะเอาหลักฐานตรงนี้มาให้มึงสืบ มึงมีหน้าที่ต้องไปอยู่รอบนอก ไปดูคน ใครเป็นพยาน ใครเห็นเหตุการณ์ ไปคอยสังเกต ไปกระซิบมา ลากมาสอบสวน ท่านคงเดชฯสอนอย่างนี้ ตำรวจนักสืบรุ่นเก่ามีวิชาแบบนี้ นี่คือ นายสมัยก่อนนี้ ทำงานถึงสนุก”
ด้วยจิตคารวะ
สืบนครบาล
ขอบพระคุณข้อมูลจาก Cop’s Magazine
#สืบนครบาล

#เป็นมากกว่าเครื่องแบบ

ที่อยู่

71/1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช. น. ถ. ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
Bangkok
10400

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สืบนครบาล IDMBผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริการภาครัฐ


องค์กรของรัฐ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด

ความคิดเห็น

เสียชื่อคนเพชรบูรณ์หมด จับยาไอซ์
#คนทำผิดรอวันพลาด
#}