Police Radio (Thailand)

Police Radio (Thailand) ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำร
(2)

ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศผข.ตร.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำรวจ(ในสมัยนั้น) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของตำรวจให้ประชาชนและข้าราชการตำรวจได้รับทราบ เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างตำรวจกับประชาชน และปัจจุบันทำหน้าที่ ผลิตสื่อวิทยุกระจายเสียงเพื่อการประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการเผยแพร

่ ข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปสู่ประชาชน ซึ่งออกอากาศด้วยระบบ FM ๓๗ สถานี และระบบ AM ๗ สถานี โดยมีศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถานีแม่ข่ายในการผลิตรายการและข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกอากาศผ่านดาวเทียมไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือข่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๔๔ สถานี ทั่วประเทศ

อรินทราช 26 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรม หลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช 26)...
25/08/2023

อรินทราช 26

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรม หลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช 26) รุ่นที่ 9
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

ณ สนามยิงปืนทางยุทธวิธี กก.ต่อต้านฯ บก.สปพ. เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566

#อรินทราช26
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

📌ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันได้รับการประสานว่า “นาย ทักษิณ” กลับไทยพรุ่งนี้ พร้อมจัดกำลังดูแลเข้มตั้งแต่สนามบินดอนเมื...
21/08/2023

📌ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันได้รับการประสานว่า “นาย ทักษิณ” กลับไทยพรุ่งนี้ พร้อมจัดกำลังดูแลเข้มตั้งแต่สนามบินดอนเมือง ถึงเรือนจำ

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าได้รับการประสานว่า นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ โดยขณะนี้รอการยืนยันจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบิน ซึ่งช่วงเย็นวันนี้จะทราบข้อมูลทั้งหมดอย่างชัดเจน

โดยในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการซักซ้อมมาตรการดูแลความปลอดภัย และการส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไปยังสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่สนามบิน เพื่อผ่านการตรวจและยืนยันตัวตนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นกองบังคับการการตำรวจนครบาล 2 จะรับมอบตัวเพื่อลงบันทึกประจำวัน และนำตัวไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองการ (สนามหลวง) เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายศาลและออกหมายขัง จากนั้นจะส่งตัวให้กับกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำควบคุมตัวไปยังเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยและการจราจรในทุกจุด ทุกขั้นตอน

ส่วนแผนการรองรับมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้เตรียมสถานที่ไว้แล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างมีมาตรการและเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วทั้งหมด แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ ส่วนการข่าวด้านความรุนแรงนั้นยังไม่ได้รับรายงาน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่ประมาท

ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาพร้อมกับ นายทักษิณ นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ขอให้ดำเนินการไปทีละขั้นตอนก่อน แต่ยืนยันตำรวจมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน

นอกจากนี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น จะให้การดูแลเช่นเดียวกับการดูแลบุคคลสำคัญ เนื่องจากอาจเกิดเหตุอันตรายได้

"รองฯ รอย"บินร่วมประชุมฯบรรยายสรุปอาชญากรรมข้ามชาติรัฐมนตรีอาเซียน แทนนายกฯ พร้อมรัฐมนตรี อาเซียน ทั้ง 9 ประเทศ และเลขาธ...
21/08/2023

"รองฯ รอย"บินร่วมประชุมฯบรรยายสรุปอาชญากรรมข้ามชาติรัฐมนตรีอาเซียน แทนนายกฯ

พร้อมรัฐมนตรี อาเซียน ทั้ง 9 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2566 ที่ลาบวน บาโจ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย พล.ต.อ.รอย
อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(มค.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)โดยมีตนเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมรายงานสรุปอาชญากรรมข้ามชาติ รัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ครั้งที่ 17 (17th ASEAN MINISTERIAL MEETING ON TRANSNATIONAL CRIME:AMMTC) โดยมี พล.ต.อ.ลีสติโย สิจิด พราโบโว(Gen.Listyo Sigit Prabowo) ผบ.ตร.อินโดนีเซีย เป็นประธานอาเซียนประจำอินโดนีเซีย เป็นประธานการประชุม แทน นายกรัฐมนตรี อินโดนีเซีย โดยมี รัฐมนตอาเซียน ทั้ง 9 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุม สำหรับวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ(Exchange of Views on National, Reginal, and International Efforts in Combating Tansnational crime)

พล.ต.รอย กล่าวว่า ในฐานะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทน นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นกล่าวบรรยายในหัวข้อ รายงานสรุปอาชญากรรมข้ามชาติ(Summary Report of Transnational crime)นำเสนอกล่าวต่อที่ประชุมว่า "ท่านประธาน และหัวหน้ารัฐมนตรีอาเซียนประจำประเทศอินโดนีเชียฯพณฯ พลตำรวจเอก ลีสตี-โย สิจิด พราโวโบ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเชียผู้แทนประเทศและแขกผู้เมีเกียรติ์ที่เคารพ
ตนในนามของ พณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม กระผมขอแสดงความขอบคุณประเทศอินโดนีเซียสำหรับการจัดการประชุม รัฐมนตรีอาเชียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติครั้งที่ 17 และการประชุมที่เกี่ยวข้องขึ้นกระผม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีอาเชียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติและการประชุมที่เกี่ยวข้องเป็นเวทีที่สำคัญในการร่วมมือกันระหว่างผู้นำของสมาชิกอาเซียน และอาเซียนบวกสามประเทศ
(จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการร่วมมือกันต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อ
ความปลอดภัยของภูมิภาค

ทั้งนี้ตนยังได้นำเสนอ การต่อสู้กับอาชญากรรมสี่ด้านของประเทศไทยคือ Cybercrimeการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และ ด้านการลักลอบค้่าสัตว์ป่าและพันธ์พืชให้ที่ประชุมรับทราบ การจัดการประชุมครั้งที่ 18 ในปี 2024 จะมีการประชุมโดยเจ้าภาพคือประเทศลาว "พล.ต.อ.รอยกล่าว"

🙏มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดพิธีสมโภชและพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ หลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร. 108 ปี” เสริมสร...
20/08/2023

🙏มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดพิธีสมโภชและพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ หลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร. 108 ปี” เสริมสร้างสิริมงคลแก่ตำรวจทั่วประเทศ🙏

ด้วยมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดสร้างและมอบพระพุทธรูป หลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร 108 ปี” หน้าตักขนาด 38 นิ้ว ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประจำอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ เรียบร้อยแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพิธีพุทธาภิเษก และพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรดังกล่าวขึ้นประดิษฐาน ณ หอพระหลวงพ่อโสธร เพื่อให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนและกราบบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลสืบต่อไป

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ส.ค.66) เวลา 09.09 น. เป็นต้นไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการตำรวจ สมาคมแม่บ้านตำรวจ และมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชและพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” หน้าตัก 38 นิ้ว ซึ่งได้อัญเชิญมาประดิษฐานยังหอพระหลวงพ่อโสธร หน้าอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ได้เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

👉สำหรับ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชและพุทธาภิเษกครั้งนี้ ถือเป็นพิธีมงคลครั้งสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งภายในพิธี ฯ ได้นิมนต์พระเถราจารย์จากทั่วประเทศ จำนวน 108 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ และพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร, พระกริ่งหลวงพ่อโสธร และเหรียญรูปอาร์ม พระพุทธโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” ซึ่งมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้
🔸เวลา 09.00 น. แขกผู้มีเกียรติพร้อม ณ มณฑลพิธีลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4
🔸เวลา 09.09 น. ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีบวงสรวงเทพยดาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ มณฑลพิธีลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4
🔸เวลา 10.09 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมนี วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นพระธานสงฆ์ ณ มลฑลพิธีห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
🔸เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล/ รับประทานอาหารกลางวัน
🔸เวลา 13.15 น. พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี
โดยพระเถราจารย์ 108 รูป ณ มลฑลพิธีด้านหน้าอาคาร อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
🔸เวลา 17.00 น. พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น ตร.108 ปี ประดิษฐาน ณ หอพระหลวงพ่อโสธร หน้าอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
🔸เวลา 17.30 น. เสร็จพิธี

🙏พระพุทธโสธร รุ่น “ตร. 108 ปี” มีวัตถุประสงค์จัดสร้างขึ้นเพื่อจัดหารายได้มอบให้แก่มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว และสมาคมตำรวจ เพื่อใช้เป็นเงินสนับสนุนในการช่วยเหลือ และเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งในปี 2566 เป็นปีประวัติศาสตร์ครบรอบ 108 ปี กรมตำรวจ ซึ่งตัวเลข 108 มีความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภและสิริมงคล โดยในทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าจะทำให้เกิดสัมฤทธิ์ผล 108 คือ ผลรวมของพระพุทธคุณ (56) พระธรรมคุณ (38) และพระสังฆคุณ (14) จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นว่า “ตร. 108 ปี” และมี “รูปพระแสงดาบเขนและโล่” ประกอบแบบพิมพ์

ทั้งนี้ สำหรับเหรียญรูปอาร์มพระพุทธโสธรเนื้อทองแดง จะได้มีการแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจทุกนายทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป

19/08/2023
📣สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งกฎหมายว่าด้วยการกำหนดที่นั่งนิรภัย ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และวิธีป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิด...
18/08/2023

📣สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งกฎหมายว่าด้วยการกำหนดที่นั่งนิรภัย ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และวิธีป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

👉โดยกำหนดให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) ส่วนรถรับจ้างและรถสาธารณะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก

👉สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือคาร์ซีท มี 2 แบบ คือ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ และที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ โดยต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรณีใช้ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง ( Booster Seat ) ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

🔶ส่วนข้อยกเว้นสำหรับประชาชนที่ไม่มีคาร์ชีท แต่มีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี นั่งในรถด้วย จะต้องปฏิบัติทั้ง 3 ข้อ จึงจะถือว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคาร์ซีท ได้แก่
1. ขับรถด้วยความเร็วช้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องขับชิดซ้าย
2. ให้เด็กนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง หากเป็นรถกระบะ หรือกึ่งกระบะให้นั่งโดยสารตอนหน้าได้ แต่ห้ามนั่งท้ายกระบะ
3. จัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสารหรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก (อย่างใดอย่างหนึ่ง)

ทั้งนี้ หากละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

📍ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ย้ำทุกหน่วยเดินหน้าร่วมสร้างภูมิคุ้ม...
18/08/2023

📍ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ย้ำทุกหน่วยเดินหน้าร่วมสร้างภูมิคุ้มกันวัคซีนไซเบอร์ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง...

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นาย เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนกระทรวงและหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วย ตัวแทนสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครั้งที่ 3/2566 เทคโนโลยี ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

👉ที่ประชุมได้รายงานสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ถึง 15 สิงหาคม 2566 พบว่ามีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์ 93,982 เรื่อง เฉลี่ยวันละ 627 เรื่องต่อวัน ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง สถิติคดีแจ้งความมากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่
1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการสูงถึง 288 เรื่องต่อวัน
2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ
3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน
4) หลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
5) หลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน

👉ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครั้งที่ 3/2566 ในวันนี้ เป็นการติดความคืบหน้าของการดำเนินการคณะกรรมการ และอนุกรรมการด้านต่างๆ เช่น การเร่งรัดดำเนินการการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล การแจ้งข้อมูลหลักฐาน การกำหนดเหตุอันควรสงสัย หรือการปฏิบัติอื่นใดตามกฎหมายระหว่างสถานบันธนาคาร ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับการรับชำระเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ โทรคมนาคม กำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีการประสานงาน การประชุม เพื่อคลี่คลายคดี สามารถอายัดบัญชี ส่งต่อข้อมูล และสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปราบปรามเสาโทรศัพท์ตามแนวชายแดน โดยจะมีชุดปฏิบัติการร่วมเพื่อตรวจสอบดำเนินการอย่างจริงจัง

👉นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความสำคัญการสร้างภูมิคุ้มกัน “วัคซีนไซเบอร์” ให้หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน เผยแพร่ ข้อความที่เป็นสาระสำคัญ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง” พร้อมกับเชิญชวนประชาชนทำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ ทั้งแบบทำข้อสอบเพื่อลุ้นรับรางวัล และรูปแบบใหม่ เฉลยข้อสอบ ให้ประชาชนได้เข้าไปอ่าน เพิ่มความรู้ เพิ่มวัคซีนไซเบอร์ให้ตนเอง และขอให้บอกต่อเพื่อทำแบบทดสอบเพื่อให้มีความรู้เป็นภูมิคุ้มกันภัยกับทุกคน รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ เชื่อว่าไซเบอร์วัคซีนนี้ ถือเป็นวัคซีนที่ดี เมื่อได้รับภูมิแม้เพียงครั้งเดียว ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันได้ต่อเนื่องตลอดไป

📌รอง ผบ.ตร.เข้าร่วมประชุมหารือศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในจังหวัดเมียวดี ร่วมกับ 4 ป...
16/08/2023

📌รอง ผบ.ตร.เข้าร่วมประชุมหารือศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในจังหวัดเมียวดี ร่วมกับ 4 ประเทศภาคี เพื่อร่วมจัดแผนปฏิบัติการพร้อมรับมือองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ...

วันนี้ (16 ส.ค.66) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) พร้อมคณะได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมศูนย์ประสานงานไตรภาคีเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรไทย กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมแชงกรีล่า จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมประชุม รวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงป้องกันความสงบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

👉การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจนี้ เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากทั้ง 3 ประเทศ คือ ไทย จีน และเมียนมา ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงคนไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลักหลายพันล้านบาท จึงได้มีแผนการในการร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งในครั้งนี้ได้มีผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญและเสนอความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นประเทศที่ 4 ซึ่งจะทำให้การปราบปรามอาชญากรรมซึ่งกำลังกระจายตัวไปทั่วภูมิภาคนี้ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

👉ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานที่ตั้งศูนย์ประสานงาน ซึ่งคาดว่าจะตั้งศูนย์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของไทย รวมทั้งมีการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประสานงานของแต่ละประเทศเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังมีแผนที่จะขยายความร่วมมือเพิ่มไปยังอีก 2 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ตำรวจสากลและ UN ร่วมสังเกตการณ์ และหลังจากนี้จะผลักดันให้มีการปฏิบัติการร่วมกันในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่จากประเทศภาคีทั้งหมด และโดยทางการจีนจะมีการสนับสนุนในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ รวมถึงงบประมาณและเทคโนโลยีในการปฏิบัติการต่างๆ ในการนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งค์คอลเซนเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งการประสานงานระหว่างประเทศในการเข้าช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกหลอกลวงไปทำงานคอลเซนเตอร์ร่วมกับประเทศต่างๆ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย จีน และเมียนมา ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งสำคัญซึ่งเดินทางเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในการปราบปรามและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การหลอกคนไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในครั้งนี้ ทางการลาวได้เห็นความสำคัญและเข้าประสานความร่วมมือเป็นประเทศที่ 4 จะทำให้การดำเนินการประสานงานของทุกประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากการประชุมในครั้งนี้แล้ว จะทำให้การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเป็นโครงร่างที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งแผนปฏิบัติงานร่วมกันของทุกประเทศ จากนี้จะเร่งขับเคลื่อนให้การจัดตั้งศูนย์ประสานงานให้เกิดขึ้นได้โดยเร็ว และมีการบูรณาการร่วมกันของประเทศภาคีเข้าปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อตอบสนองต่อการเกิดขึ้นของอาชญากรรมให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือ นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เปิดโครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมาย” (Special Law Lab) สานต่อ สร้างนัก...
16/08/2023

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือ นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เปิดโครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมาย” (Special Law Lab) สานต่อ สร้างนักกฎหมายรุ่นใหม่ ร่วมกันแลกเปลี่ยน เรียนรู้งานตำรวจตั้งแต่ต้นทาง สร้างแนวร่วมป้องกันภัยทางออนไลน์ และการสืบสวนยุคใหม่ ...

วันนี้ (16 ส.ค.66) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. พร้อมด้วย รศ.ดร.ปกป้อง ศรีสนิท คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ณภัทร สรอัฑฒ์ รองคณบดีฯ (ฝ่ายบริหาร) และนิสิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1-4 ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 24 คน เข้าร่วมพิธี เปิดโครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมาย” (Special Law Lab//YLPE : Young Lawyers-Police Engagement) ณ ห้องสารสิน อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

👉โครงการห้องปฏิบัติการกฎหมาย (Special Law Lab) ที่จัดขึ้นในห้วงวันที่ 16 – 25 ส.ค.66 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ จัดโครงการฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงในพื้นที่จริง ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการยุติธรรม การตรวจค้น การจับกุม การสอบสวนปากคำ ฯลฯ ได้รับทราบ เรียนรู้ ทำความเข้าใจข้อกฎหมายนำไปสู่การปฏิบัติ โดยลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปราม จราจร พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ลุมพินี พญาไท พระโขนง และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตลอดจนศึกษา ดูงาน ศูนย์ควบคุม สั่งการฯ CCOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สำนักงานนิติเวชวิทยา , สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.), ยุทธวิธีและการยิงปืนขั้นพื้นฐาน การรับแจ้งเหตุและการควบคุม สั่งการ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวเปิดพิธีฯ และบรรยายพิเศษ โดยกล่าวว่า แต่เดิม โครงการห้องปฏิบัติการกฎหมาย (Special Law LAB) ที่ได้รับความร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง นิสิตที่เข้าร่วมโครงการให้ความสนใจเรียนรู้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี จึงได้มีการขยายผล สานต่อความร่วมมือกับ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งผลสำเร็จ ในความร่วมมือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติภาคภูมิใจ และจะได้ขยายผลต่อยอดไปยังมหาวิทยาลัยอื่น ในจังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ (ห้วงเดือน ส.ค.- ก.ย.) และจังหวัดต่างๆ ต่อไป

...สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตตำรวจ รุ่นที่ 2 มุ่งพัฒนา เสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเพ...
15/08/2023

...สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตตำรวจ รุ่นที่ 2 มุ่งพัฒนา เสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเพื่อรองรับภารกิจดูแลประชาชน...

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล(สกพ.) เปิดเผยว่า วันอังคารที่ 15 ส.ค.66 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ (รุ่นที่ 2)” จำนวนทั้งสิ้น 99 นาย มีการจัดอบรมในระหว่างวันที่ 14-19 ส.ค.66 ณ อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

🔹โครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ เป็นโครงการที่จัดทำขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชน มีแนวคิดในการเสริมสร้างทัศนคติ ปรับปรุงพัฒนาบุคลิกภาพที่ดี โดยการนำธรรมะซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติ โดยได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตวิทยา การแพทย์สาธารณสุข ในการสร้างแรงบันดาลใจ

🔹ทั้งนี้ การดำเนินโครงการเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้มีการส่งเสริมจริยธรรม จรรยาบรรณและการพัฒนาคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างพัฒนาทัศนคติ จิตสำนึกและพฤติกรรมให้เป็นผู้มีวินัย มีเป้าหมายเพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีโอกาสในการพัฒนาตน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด ทัศนคติ ค่านิยม ตลอดจนการมีจิตสำนึกที่ดี จนนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชน สมดังเจตนารมณ์ของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานกำลังพลในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการตำรวจที่ผ่านการอบรมจากโครงการนี้ จะได้นำความรู้ แนวคิด ทัศนคติ ที่ได้รับจากคณะวิทยากร นำไปปรับปรุงพัฒนาตนเองให้เป็นบุคลากรที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ทั้งในมิติของการปฏิบัติหน้าที่ราชการและการประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

📍ผบ.ตร.จัดสรรงบตัดเครื่องแบบให้ตำรวจจราจรทั่วประเทศเกือบ 20,000 คน นับเป็นเครื่องแบบภาคสนามครั้งแรกของสายงานจราจร เกิดคว...
15/08/2023

📍ผบ.ตร.จัดสรรงบตัดเครื่องแบบให้ตำรวจจราจรทั่วประเทศเกือบ 20,000 คน นับเป็นเครื่องแบบภาคสนามครั้งแรกของสายงานจราจร เกิดความคล่องตัว ปลอดภัย สร้างขวัญกำลังให้ตำรวจจราจร เพื่อดูแลประชาชนบนท้องถนน ดีเดย์พร้อมกัน 15 ก.ย.นี้ ...

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ ตามดำริ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานจราจร โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงานได้ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ กำหนดหลักเกณฑ์รูปแบบเครื่องแบบ และสำรวจความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ จนได้ข้อสรุปเครื่องแบบจราจรเสนอ ตร.

👉ต่อมา ผบ.ตร.ได้อนุมัติเครื่องแบบสนามตำรวจสายงานจราจรเป็นแบบเดียวกับสายงานป้องกันปราบปราม โดยเครื่องหมายใช้ด้ายสีขาวปักบนพื้นสีเดียวกับเครื่องแบบ และติดเครื่องแบบด้วยแถบหนามเตย ให้มีปลอกแขนจราจรสะท้อนแสง เครื่องแบบสามารถใช้ได้ทั้งสายงานป้องกันปราบปรามและงานจราจร หากมีการเปลี่ยนแปลงสายงาน พร้อมขออนุมัติกรมบัญชีกลาง เบิกจ่ายค่าผ้าและค่าตัดชุดเครื่องแบบสนาม รวมทั้งค่าเครื่องหมายตามที่ราชการกำหนด สำหรับข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่งานจราจรทั่วประเทศ จำนวน 19,662 คน แล้วโอนเงินไปให้หน่วยทำการจัดซื้อจัดจ้าง เร่งรัดดำเนินการตัดเครื่องแบบ กำหนดใส่เครื่องแบบฯ ภายใน 15 ก.ย.66 โดยพร้อมเพรียงกัน”

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า “สายงานจราจรมีความสำคัญที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ออกช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน ปฏิบัติตามนโยบาย ตร.ในการกำหนดมาตรการลดและป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงภารกิจอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย

การมีเครื่องแบบสนามเหมือนกับสายงานป้องกันปราบปราม เป็นแบบเดียวกันทั้งประเทศ จะช่วยให้การทำงานเกิดความคล่องแคล่ว คล่องตัว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการมอบเครื่องแบบภาคสนามสายงานจราจร ของ ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ถือเป็นชุดภาคสนามครั้งแรกของตำรวจจราจร เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจสายงานจราจรอีกด้วย”

🚫รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนมาตรการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษีสำหรับผู้มีใบสั่งค้างชำระ ย้ำอย่าปล่อยให้มีใบสั่งค้...
13/08/2023

🚫รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนมาตรการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษีสำหรับผู้มีใบสั่งค้างชำระ ย้ำอย่าปล่อยให้มีใบสั่งค้างจ่าย อาจโดนค่าปรับเพิ่ม‼️

พันตำรวจโท ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ได้รับใบสั่งให้เสียค่าปรับจราจรอย่าปล่อยให้ค้างชำระ มิฉะนั้นจะไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงภาษี และหากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับเพิ่มเติมในอัตราค่าปรับที่สูงอีกด้วย

👉โดยใบสั่งที่ผู้ขับขี่ไม่ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนด และเจ้าพนักงานจราจรออกหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับตามใบสั่งอีกครั้ง ก็ยังฝ่าฝืนไม่ชำระค่าปรับในกำหนดเวลาตามหนังสือแจ้งเตือน ถือเป็น "ใบสั่งค้างชำระ" ซึ่งเมื่อไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี หากขอชำระภาษีโดยไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งค้างชำระไปในคราวเดียวกันนั้น นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปีแต่จะไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี หรือ ป้ายภาษี ให้ โดยจะออกหลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษีซึ่งมีอายุ 30 วันให้ไปพลางก่อน เพื่อให้ไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน จึงจะมารับป้ายภาษีได้ และการยังฝ่าฝืนไม่ไปชำระค่าปรับและยังใช้ยานพาหนะนั้นบนท้องถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินถึง 2,000 บาทต่อครั้ง และจะถูกตัดคะแนนจราจรอีก 1 คะแนนต่อครั้ง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์อีกด้วย

👉ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกต่อประชาชน หากผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ ไม่แน่ใจว่าตนเองมีใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับหรือมีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ สามารถลงทะเบียนใช้งานและตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ ptm.police.go.th หรือตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ

👉และสามารถชำระค่าปรับตามใบสั่งหรือใบสั่งค้างชำระได้ที่
- สถานีตำรวจทุกแห่ง
- ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
- สำนักงานไปรษณีย์ทุกสาขา
- จุดรับชำระเงินในเครือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
- ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยหรือตู้บุญเติม
- ชำระผ่าน แอปพลิเคชั่นกรุงไทย next
- ชำระผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
- ชำระผ่านบัตรเครดิต ผ่านเว็บไซต์ ptm.police.go.th/eTicket
- ชำระที่เคาน์เตอร์บริการที่มีสัญลักษณ์ PTM เช่น family mart / top supermarket / ไทวัสดุ เป็นต้น
- ชำระผ่านระบบ Mobile Banking หรือ Internet Banking ของทุกธนาคาร

ซึ่งหากผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะไม่มีใบสั่งคงค้าง หรือชำระค่าปรับเสร็จสิ้นแล้วก่อนการต่อภาษีประจำปี ก็จะสามารถได้รับป้ายการเสียภาษีทันทีที่ต่อภาษี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติใคร่ขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะได้กรุณารักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

13/08/2023

📌ผบ.ตร.ร่วมกับนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมผลักดันโครงการ "ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน" สร้างอาชีพเพื่อเด็กพิเศษอย่างยั่งยืน ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ
🔷️ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่มีบุตรเป็นเด็กพิเศษ ทั่วประเทศ ให้มีอาชีพ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน...เพราะตำรวจทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน🔷️

13/08/2023

ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร

#ทรงพระเจริญ
#แม่ของแผ่นดิน
#วันแม่แห่งชาติประจำปี2566

https://fb.watch/mnWHLxy10z/?mibextid=Nif5oz

สำนักพระราชวังเผยแพร่ภาพ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พร...
13/08/2023

สำนักพระราชวังเผยแพร่ภาพ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา
วันที่ 12 ส.ค. 2566 สำนักพระราชวัง เผยแพร่ภาพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกในโอกาสที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2566 ณ ห้องรับรอง ชั้น 29 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จออกด้วย

💢ตำรวจไซเบอร์พบเหยื่อถูกหลอกให้รักแล้วชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล อ้างเทรด 1-5 นาที ได้กำไรงาม เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินกว่า ...
12/08/2023

💢ตำรวจไซเบอร์พบเหยื่อถูกหลอกให้รักแล้วชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล อ้างเทรด 1-5 นาที ได้กำไรงาม เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินกว่า 6 ล้านบาท ล่าสุดตามจับบัญชีม้าได้ 2 ราย‼️

พันตำรวจเอก อภิรักษ์ จำปาศรี ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.3 สั่งการจับกุมผู้ต้องหาไฮบริดสแกม รวมถึงบัญชีม้าที่เกี่ยวข้อง หลังมีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ถูกหลอกลวงลงทุนเทรดเงินดิจิทัล สูญเงินกว่า 6 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

👉โดยผู้เสียหายได้รู้จักหญิงสาวซึ่งใช้บัญชีเฟสบุ๊คชื่อ “จานิยา” โปรไฟล์เป็นรูปหญิงสาวสวมชุดพยาบาล หน้าตาดี ทักข้อความเข้ามาหาผู้เสียหายและได้คุยติดต่อกันเรื่อยมา จากนั้นได้เปลี่ยนช่องทางการติดต่อมาใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ แนะนำตัวเองว่าชื่อเล่น “ยา”
👉ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 นางสาว ยา ได้ชักชวนให้ลงทุนเทรดเงินดิจิทัล โดยส่งลิงค์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น streaming
👉จากนั้นให้ผู้เสียหายติดต่อกับไลน์ฝ่ายบริการ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำการลงทุนและแลกเปลี่ยนเงินไทยเป็นเงินดิจิทัล USDT ในแอปพลิเคชัน streaming และให้ผู้เสียหายเริ่มลงทุนตามคำแนะนำ อ้างว่าใช้เวลาเทรดภายใน 1-5 นาที ก็จะได้ผลกำไร
👉ต่อมาผู้เสียหายได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารของตนไปยังบัญชีม้าที่ นางสาว ยา ได้เตรียมไว้ จำนวน 12 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 16-27 กรกฎาคม 2565 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6,501,980 บาท
👉จากนั้นผู้เสียหายต้องการถอนเงิน แต่ฝ่ายบริการแจ้งว่าบัญชีมียอดคงเหลือทั้งหมด 426,771 US และต้องชำระค่าภาษี 10% ของยอดเงินในบัญชี เป็นเงินประมาณ 42,677 US หลังจากชำระค่าภาษีแล้วทางแพลตฟอร์มจะดำเนินการถอนเงินให้
👉ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 6,501,980 บาท จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พันตำรวจเอก อภิรักษ์ จึงได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ กองกำกับการ 1 สอท.3 สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับบัญชีม้าทั้ง 4 คน และสืบสวนหาตัว นางสาว ยา ตัวการก่อเหตุ ล่าสุดชุดสืบสวนจับกุม นายวรวิทย์ และ นางสาว เฉลียว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา บัญชีม้า โดยจับกุมได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พันตำรวจเอก อภิรักษ์ แนะนำว่า หากพี่น้องประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจากภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ขอให้รีบแจ้งความทันที เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รีบสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร็ว ซึ่งการสืบสวนจับกุมจะทำได้ง่ายกว่าการทิ้งระยะเวลาไว้เนิ่นนาน

📌ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร่วมกับ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ยกเครื่องงานสืบสวนสอบสวน ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบ...
12/08/2023

📌ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร่วมกับ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ยกเครื่องงานสืบสวนสอบสวน ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่...

วานนี้ (11 ส.ค.66) พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวนครั้งที่ 2/2566 โดยมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ , พลตำรวจเอก วุฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ และ พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ , พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี , พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล และ พลตำรวจโท อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. พร้อมข้าราชการตำรวจสายงานสอบสวน และส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ที่ประชุมมีประเด็น
👉การปรับเพิ่มอัตราเงินเพิ่มพิเศษของพนักงานสอบสวน การปรับปรุงแก้ไขคำสั่งสำนักงานตำรวจ เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติที่ไม่จำเป็น และให้ครบถ้วนตามกฎหมายที่ออกมาใหม่
👉รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ เพื่อยกระดับการทำงาน คุณภาพชีวิต การเจริญเติบโตของพนักงานสอบสวนให้ดียิ่งขึ้น สร้างขวัญกำลังใจ ในการทำงานเพื่อประชาชน
👉ที่ประชุมยังร่วมให้ความเห็นประเด็นสำนวนการสอบสวนที่มีเอกสารไม่มาก สามารถทำโดยรูปแบบย่อ ง่าย มีความชัดเจน เช่น คดีลักทรัพย์ที่มีวงจรปิด คดียาเสพติดจำนวนเล็กน้อย ผู้ต้องหารับสารภาพ คดีไม่ปรากฎตัวผู้กระทำผิด เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระ ลดงานแก่พนักงานสอบสวน
👉ควรดูแลปรับเพิ่มค่าตอบแทน ผลักดันเงินประจำตำแหน่งและปรับอัตราเงินตอบแทนค่าสำนวนให้สูงขึ้น
👉และประเด็นการอบรมเสร็จจึงได้เงินประจำตำแหน่งซึ่งไม่สอดคล้องกับการทำงาน รวมทั้งระเบียบ กฎหมายต่างๆ ที่จะต้องมีการยกร่างให้เป็นปัจจุบัน ลดภาระงานสอบสวน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะ ให้คณะทำงานเตรียมร่างแนวทาง การปฏิบัติ รูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสายงานสืบสวนสอบสวน ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2565 เพื่อให้สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน มีการเจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างเหมาะสมในสายงานสืบสวนสอบสวน และให้เร่งรัดปรับปรุง แก้ไข ระเบียบคำสั่งเกี่ยวกับงานสืบสวนสอบสวน ให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบัน เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ และลดภาระงานของพนักงานสอบสวนที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด

วันนี้ (12 สิงหาคม 2566) เวลา 08.15 น. ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. พร้อม...
12/08/2023

วันนี้ (12 สิงหาคม 2566) เวลา 08.15 น. ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ ภริยา ถวายแกกันดอกไม้สด และ ลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566 พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.อ.สุรเซษฐ์ พักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ร่วมลงนามฯ

⭕️สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนภัยออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้นักเรียนนักศึกษาถ่ายคลิปตัวเองเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่‼️  พลตำร...
11/08/2023

⭕️สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนภัยออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้นักเรียนนักศึกษาถ่ายคลิปตัวเองเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่‼️

พลตำรวจเอก สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรทางเทคโนโลยี แถลงเตือนภัยออนไลน์ประจำสัปดาห์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีกรณีที่น่าสนใจคือคนร้ายใช้วิธีการโทรศัพท์หาพ่อแม่ แล้วส่งรูปบุตรหลานที่ถูกควบคุมตัวไว้ไปให้ โดยที่พ่อแม่ไม่สามารถติดต่อบุตรหลานได้ จึงต้องโอนเงินให้ไปคนร้าย ซึ่งหลังจากโอนเงินแล้ว บุตรหลานก็สามารถติดต่อกลับมาได้ เบื้องต้นพ่อแม่คาดว่าเป็นเรื่องการเรียกค่าไถ่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนเชิงลึก พบว่าเป็นคดีที่บุตรหลานถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาข่มขู่บุตรหลานว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และบังคับให้ถ่ายคลิปหรือภาพถ่าย ส่งให้กลุ่มคนร้ายนำไปเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่อีกครั้ง โดยให้โอนเงินผ่านบัญชีบุตรหลานของตนเองหรือเข้าบัญชีม้าแล้วหลบหนีไป

👉ทั้งนี้ คนร้ายอาจจะหาข้อมูลหรือสุ่มคัดเลือกเหยื่อเป็นกลุ่มนักศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษา ซึ่งพักอาศัยอยู่ตามหอพักหรือที่พักเพียงคนเดียว ไม่ได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
👉จากนั้นคนร้ายจะพูดหลอกลวง ข่มขู่และชักจูงให้เหยื่อตกใจกลัว จากนั้นคนร้ายใช้โทรศัพท์ผ่านระบบ Internet ซึ่งหมายเลขดังกล่าวจะมีหมายเลขไม่ถึง 10 หลัก และมีเครื่องหมาย +697 +698

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีนี้คนร้ายจะเลือกเหยื่อที่เป็นนักศึกษา ซึ่งอาจจะไม่รู้เท่าทันคนร้าย อีกทั้งเป็นจุดอ่อนไหวของพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีความรักความห่วงใยลูกของตนเองเป็นทุนเดิม
👉โดยคนร้ายจะหลอกให้เหยื่อย้ายหรือเปลี่ยนที่พัก เพื่อไม่ให้พ่อแม่ผู้ปกครองตามหาตัวได้
👉และหลอกเหยื่อว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบสะกดรอยเฝ้าดูอยู่ห้ามออกไปจากห้องเช่าที่พักใหม่
👉หลอกให้เหยื่อลบแอปพลิเคชันที่เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารออกจากเครื่อง เช่น Line FB Twitter TikTok เป็นต้น เพื่อไม่ให้เหยื่อติดต่อกับคนอื่น
👉หลอกให้เหยื่อปิดมือถือเบอร์เดิม เพื่อไม่ให้พ่อแม่ติดต่อได้
👉หลอกให้เปิดเบอร์ใหม่ใช้ในการติดต่อกับคนร้าย รวมถึงให้สแกน QR Code เพื่อใช้และควบคุม Line เหยื่อตลอดเวลา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ได้รู้เท่าทันรูปแบบกลโกงของคนร้าย โดย สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com , Facebook /เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com

ที่อยู่

Bangkok
10330

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Police Radio (Thailand)ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Police Radio (Thailand):

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริการภาครัฐ


องค์กรของรัฐ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด

ความคิดเห็น

...สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนระวังบุตรหลานถูกหลอกถ่ายภาพหรือคลิปลามก แลกของในเกมออนไลน์...

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ปัจจุบัน พบว่าเด็กและเยาวชนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก โดยคนร้ายจะใช้วิธีการล่อลวงเด็กผ่านเกมออนไลน์ หลอกว่าจะเติมเงินหรือส่งไอเทมภายในเกมส์ให้ เพื่อแลกกับการที่ต้องส่งภาพลามกอนาจารให้กับคนร้าย ซึ่งเด็กส่วนมากมักจะหลงเชื่อและส่งภาพลามกอนาจารเพื่อแลกกับของในเกมส์ จากนั้นคนร้ายก็บันทึกภาพลามกอนาจารไว้ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ โดยให้เด็กจ่ายเงินหรือบังคับให้ส่งภาพหรือคลิปลามกเพิ่มเติม หรือมิฉะนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในสื่อสังคมออนไลน์หรือขู่ว่าจะส่งไปให้ครูอาจารย์ หรือบุคคลที่เด็กรู้จัก ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวและยอมทำตามคนร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าห่วงใยอย่างมาก ในการกระทำต่อเด็กและเยาวชน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ ได้ฝากถึงผู้ที่คิดจะกระทำความผิดหลอกถ่ายภาพหรือคลิปลามกเด็กและเยาวชน จะมีความผิดหลายข้อหาด้วยกัน ดังนี้
- ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1
- ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1
-ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309
- กรรโชกทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
- นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(4)

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เด็กหรือเยาวชนตกเป็นเหยื่อของการถูกหลอกลวง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากไปยัง บิดา มารดา และ ผู้ปกครอง ให้กำกับดูแลและสอดส่อง การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ และการสนทนากับบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม ทั้งนี้ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
....ตำรวจนครบาล แจ้งเลี่ยงการจราจรกรณี กลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศนัดรวมตัวบริเวณแยกสามย่าน ในเวลา 17.00 น. .....

พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ กรณีวันที่ 26 ตุลาคม 2563 กลุ่มคณะราษฎร 2563 ได้ประกาศนัดรวมตัวบริเวณแยกสามย่านในเวลา 17.00 น. และจะเดินทางไปสถานทูตฯบริเวณถนนสาทรใต้ โดยใช้ถนนพระราม 4 – ถนนสาทรใต้ เนื่องด้วย เส้นทางการเคลื่อนตัวของกลุ่มผู้ชุมชุมบริเวณถนนดังกล่าว อยู่ในเส้นทางสายหลักซึ่งประชาชนใช้ในการสัญจร ปริมาณรถที่ใช้ทางจึงมีจำนวนมาก การจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน จึงขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการชุมนุม
โดย เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนพระราม 4 แยกสามย่าน – แยกวิทยุ , ถนนสาทรใต้ พร้อม แนะนำให้ประชาชนใช้ เส้นทาง ถนนพระราม 1 - บรรทัดทอง, ถนนศาลาแดง, ถนนอังรีดูนังต์ - ถนนสุรวงศ์, ถนนคอนแวนต์, ถนนราชดำริ - สีลม, ถนนนราธิวาสราชนครินท์, ถนนวิทยุ - ถนนสารสิน - ถนนราชดำริ, ดวงพิทักษ์, ซอยงามดูพลี และทางพิเศษเฉลิมมหานคร
กรณีหากมีความจำเป็นต้องใช้ถนนพระราม 4 ทั้งขาเข้า - ขาออก ให้ใช้สะพานไทย - ญี่ปุ่น และสะพานไทย - เบลเยี่ยม เนื่องจากในพื้นราบอาจได้รับผลกระทบการจราจร
จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนการเดินทาง และขออภัยในความไม่สะดวก ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น M - Help Me และทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH
รู้กันทัน โรค....
ชีวิตวิถีใหม่ คนไทยปลอดภัยโควิด 19
เมื่อคนไทยเชื่อมั่นต่างชาติก็เชื่อใจ เพราะมาตรฐานความปลอดภัย คือ อนาคตเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ สบส. ขอร่วมสร้างไปด้วยกัน #คลินิก #โรงพยาบาลเอกชน
#}