07/08/2019
คดีขับเสพ นอกจากจะได้รับโทษตามพรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57,91 แล้วยังต้องถูกเพิ่มโทษหนึ่งในสามตามพรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 127 ทวิ วรรคสองด้วย คดีนี้ศาลจำคุก 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน (ติดจริง โดยไม่รอลงอาญา)
กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2551
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7,8,57,91 พรบ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4,92,95,102,127 ทวิ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57,91 (ที่ถูก ที่แก้ไขใหม่) พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 (3 ทวิ) การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 127 ทวิ วรรคสอง รวมจำคุก 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยตกเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถอันเป็นการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นความผิดฐานอื่นที่มีโทษจำคุก ทั้งจำเลยถูกฟ้องต่อศาลแล้ว บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวจึงไม่เปิดช่องให้นำมาใช้บังคับแก่จำเลยได้ ส่วนพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57,91 นั้นก็หาได้ถูกยกเลิกดังที่จำเลยอ้างในฎีกาไม่เพราะได้มีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 26 ยกเลิกความในมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน ซึ่งตามมาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ตามกฎหมายเดิมมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงแสนบาท จะเห็นได้ว่ากรณีกฎหมายที่แก้ไขใหม่เพียงแต่แก้ไขในส่วนที่เป็นระวางโทษ โดยโทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เบากว่าโทษจำคุกตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 91 เดิม จึงต้องถือว่ากฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า ส่วนโทษปรับนั้นตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่มีระวางโทษเป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยไม่ว่าในทางใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 เท่านั้น คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองจึงเป็นไปโดยชอบ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 127 ทวิ วรรคสอง ไม่ใช่บทเพิ่มโทษแต่เป็นบทที่กำหนดโทษผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถเสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษอีกหนึ่งในสาม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษากำหนดโทษจำคุกจำเลยและเพิ่มโทษหนึ่งในสามตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 127 ทวิ วรรคสองนั้นเป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57,91 (ที่แก้ไขใหม่) พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 (3 ทวิ) , 127 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 (3 ทวิ) ประกอบมาตรา 127 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5