
08/05/2023
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ
ทนายใกล้คุณ ให้คำปรึกษาและบริการ ป? เครือข่ายทนายความ ทนายใกล้คุณ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พร้อมให้คำปรึกษาและบริการ โทร 089-226-8899
(2)
เปิดเหมือนปกติ
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ
เรื่องหมาๆ
ฎีกาที่ 6088/2559
ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 111 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่ จูง ไล่ต้อนหรือปล่อยสัตว์ไปบนทางเท้าในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและไม่มีผู้ควบคุมเพียงพอ เมื่อจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขจึงเป็นผู้ดูแลสัตว์จะต้องดูแลควบคุมมิให้สัตว์กีดขวางการจราจร การที่สุนัขของจำเลยทั้งสองวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของโจทก์ในระยะกระชั้นชิด ย่อมเป็นผลโดยตรงที่ทำให้รถจักรยานยนต์ของโจทก์ล้ม เมื่อไม่ปรากฏจากทางนำสืบของจำเลยทั้งสองว่า ขณะเกิดเหตุโจทก์ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงและไม่ใช้ความระมัดระวังอย่างไร ดังนั้น เหตุละเมิดจึงเกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสองที่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรในการควบคุมดูแลสุนัข เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 433 วรรคหนึ่ง
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้ศาล 099 464 4445 ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
สู้คดีอาญา เกี่ยวกับคดียาเสพติด
ลำดับที่ 222 ฎีกาที่ 6893/2558
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 มาตรา 19 เป็นมาตรการของรัฐที่ต้องการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดไม่ว่าผู้นั้นจะยินยอมเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติดหรือไม่ก็ตาม โดยศาลจะมีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ติดยาเสพติดไปตรวจพิสูจน์การเสพหรือการ ติดยาเสพติดก่อน และคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดมีอำนาจวินิจฉัยว่าผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ผู้ใดเป็นผู้เสพหรือติดยาเสพติด จากนั้นต้องจัดให้มีแผนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตามมาตรา 22 โดยคำนึงถึงความหนักเบาของการเสพหรือติดยาเสพติดของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตามมาตรา 23 ซึ่งผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดต้องถูกบังคับให้อยู่รับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามแผนฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเป็นเวลาไม่เกินหกเดือน ซึ่งอาจขยายหรือลดระยะเวลาฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามความเหมาะสม ตามมาตรา 25 หากผู้ใดหลบหนีจากการตรวจพิสูจน์หรือหลบหนีออกนอกศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดให้ถือว่าผู้นั้นหนีการคุมขังตามมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจติดตามจับกุมผู้นั้นได้ด้วยตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง และมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 32 ได้อีกด้วย การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 จึงมีวัตถุประสงค์แก้ไขฟื้นฟูผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดทุกคนเพื่อประโยชน์ของสังคมเป็นส่วนรวม พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงต้องดำเนินการตามมาตราดังกล่าวก่อนแล้วคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจึงจะมีสิทธิพิจารณาผลการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ข้อเท็จจริงได้ความตามคำวินิจฉัยคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดสงขลา ที่ 1358/2555 เอกสารท้ายฟ้องว่า คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดสงขลา เห็นว่า ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์เคยถูกเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่จับกุมในความผิดฐานเสพและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ต่อมาคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดสงขลามีคำวินิจฉัยที่ 546/2552 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2552 ให้ผู้เข้ารับตรวจพิสูจน์เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบจิตสังคมบำบัดที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นเวลา 4 เดือน ให้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการแก้ไขฟื้นฟูตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรเป็นเวลา 6 เดือน ห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกชนิด ยินยอมให้เก็บปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารเสพติด และห้ามคบหาสมาคมกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ ซึ่งในระหว่างฟื้นฟู ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ขาดรายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้พักอาศัยตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ ต่อมาคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มีคำสั่งที่ 73/2555 ลงวันที่ 5 มกราคม 2535 ให้ขยายระยะเวลาต่อไปอีกเป็นเวลา 4 เดือน แต่ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ขาดความรับผิดชอบ ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการบำบัด คณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดสงขลา จึงมีคำสั่งที่ 1232/2555 ลงวันที่ 17 เมษายน 2555 พิจารณาผลการฟื้นฟูยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เห็นสมควรแจ้งให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป แม้คำสั่งที่ 1232/2555 จะเป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดสงขลาก็ตาม แต่เมื่อมาตรา 32 บัญญัติให้คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดรายงานความเห็นไปยังพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการเพื่อประกอบการดำเนินคดีผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เมื่อผู้นั้นเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดครบถ้วนตามกำหนดเวลาแล้วแต่ผลการฟื้นฟูยังไม่เป็นที่พอใจ ดังนี้ เมื่อได้ตัวจำเลยมาหลังจากที่จำเลยไม่มารายงานตัวเพื่อปฏิบัติตามคำวินิจฉัยที่ 546/2552 และคำสั่งที่ 73/2555 ของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีหน้าที่นำตัวจำเลยกลับไปบำบัดแก้ไขตามแผนฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามเจตนารมณ์ของกฎหมายให้ครบถ้วนตามมาตรา 25 ก่อน เมื่อคำสั่งของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่ 1232/2555 ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ดังกล่าวข้างต้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ระหว่างดำเนินคดีอื่นที่มีโทษจำคุกตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 การที่โจทก์นำตัวจำเลยมาฟ้องคดีนี้จึงเป็นการไม่ชอบ
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com ……………………………………………………..
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
สุนัขเป็นสินสมรส
ฎีกาที่ 2488/2523
ลำดับที่ 229
สุนัขในบ้านจำเลยออกจากบ้านไปกัดโจทก์ ภริยาจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของ เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ต้องสันนิษฐานว่าสุนัขเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1474 จำเลยจึงเป็นเจ้าของสุนัขด้วย
สุนัขหลบหนีออกไปได้ขณะจำเลยเปิดประตู สุนัขจึงออกไปกัดโจทก์ได้แสดงว่าจำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรในการเลี้ยงดูสุนัขจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์รวมทั้งทดแทนความตกใจและทุกข์ทรมานด้วย
จัดการมรดกแบบออนไลน์ คุณและทนายความไม่ต้องไปศาลครับ
1. ศาลจังหวัดกบินทร์บุรี = กบินทร์บุรี • นาดี
2. ศาลจังหวัดชัยบาดาล = โคกเจริญ • ชัยบาดาล • ท่าหลวง • ลำสนธิ • สระโบสถ์
3. ศาลจังหวัดไชยา = ไชยา • ท่าฉาง • ท่าชนะ • วิภาวดี
4. ศาลจังหวัดตะกั่วป่า = กะปง • คุระบุรี • ตะกั่วป่า
5. ศาลจังหวัดปากพนัง = เชียรใหญ่ • ปากพนัง • หัวไทร • เฉลิมพระเกียรติ
6. ศาลจังหวัดฝาง = ชัยปราการ • ฝาง • แม่อาย
7. ศาลจังหวัดหล่มสัก = เขาค้อ • น้ำหนาว • หล่มสัก • หล่มเก่า
8. ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี = บึงสามพัน • วิเชียรบุรี • ศรีเทพ • หนองไผ่
9. ศาลจังหวัดสวรรคโลก = ทุ่งเสลี่ยม • ศรีนคร • ศรีสีชนาลัย • สวรรคโลก
10. ศาลจังหวัดจังหวัดฮอด = จอมทอง • ดอยเต่า • แม่แจ่ม • อมก๋อย • ฮอด
ต้องการจัดการมรดกแบบออนไลน์
ปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445
ปรึกษาหรือหาข้อมูลได้ที่นี้ www.ทนายภูวงษ์.com
เมาแล้วขับ รับโทษเต็มๆ
ลำดับที่ 204 ฎีกาที่ 3055/2551
การที่จำเลยขับรถขณะเมาสุราอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (2), 160 วรรคสาม กับการที่จำเลยขับรถด้วยความเร็วสูงในขณะเมาสุราจนไม่สามารถลดความเร็วของรถลงและหยุดรถเพื่อให้รถยนต์ของผู้ตายเลี้ยวขวาผ่านไปก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยพุ่งเข้าเฉี่ยวชนรถยนต์ที่ผู้ตายขับ และผู้ตายถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 291 และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (4), 157 นั้น เป็นการกระทำที่เกี่ยวกันและเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 291 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา 90
กฎหมายอาญามาตรา 291 “ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท"
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ปรึกษาหรือหาข้อมูลสู้คดีที่เวปไซต์นี้ www.ทนายภูวงษ์.com”
จอดรถขวางทางเข้าออกซอย
ฎีกาที่ 1908/2518
จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้โจทก์ถอยรถออกไปจากซอยที่เกิดเหตุ เป็นเพียงขัดขวางไม่ให้โจทก์นำรถออกไปได้เท่านั้น ส่วนตัวโจทก์มีอิสระที่จะออกไปจากซอยได้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 แต่เป็นการรังแกข่มเหงทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ แม้ซอยนั้นจะอยู่ในที่ดินของผู้มีชื่อซึ่งแบ่งให้ผู้อื่นเช่าปลูกบ้าน แต่ประชาชนก็ชอบที่จะเข้าออกไปติดต่อกับผู้ที่อยู่ในซอยนั้นได้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำในที่สาธารณสถาน จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397
กฎหมายอาญามาตรา 397 หากเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท . หรืออาจเข้าข่ายมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ขับรถขณะเมาสุรา ติดคุก ศาลไม่รอการลงโทษ
ฎีกาที่ 411/2565
การที่จำเลยขับรถในขณะเมาสุราย่อมส่งผลต่อร่างกายทำให้ไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้อย่างเต็มที่ดังเช่นในภาวะที่มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ และความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะย่อมลดลง โดยเฉพาะการขับรถในเวลากลางคืนที่มีแสงสว่างน้อย โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุย่อมมีมากขึ้น การที่จำเลยขับรถในเวลากลางคืนในขณะเมาสุราด้วยความเร็วสูงเกินสมควรทั้งจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถให้หยุดหรือชะลอความเร็วของรถให้ช้าลงพอที่จะหลบหลีกไม่ชนรถที่อยู่ข้างหน้าได้ทัน เป็นเหตุให้ชนผู้ตายซึ่งขับรถจักรยานยนต์อยู่ด้านหน้าอย่างแรงจนถึงแก่ความตาย นอกจากนี้เมื่อพนักงานสอบสวนมีคำสั่งให้ทดสอบว่าเมาสุราหรือไม่ จำเลยกลับฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ยอมรับการทดสอบโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอีกด้วย นับว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายและขาดความรับผิดต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง และได้ความจากรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติโดยจำเลยไม่คัดค้านว่า จำเลยเคยกระทำความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฐานขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งในคดีดังกล่าวศาลได้ให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย แต่จำเลยกลับมากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันอีก แสดงให้เห็นว่าจำเลยมิได้หลาบจำหรือสำนึกที่จะกลับตัวเป็นพลเมืองดี แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนหรือจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่ทายาทผู้ตายจนเป็นที่พอใจและไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยแล้ว หรือมีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัว หรือมีเหตุอื่นดังที่อ้างในฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย
การที่จำเลยไม่ยอมทดสอบว่าเมาสุราหรือไม่ตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนที่สั่งตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งบัญญัติไว้เป็นพิเศษในมาตรา 142 วรรคสอง ความว่า ในกรณีเจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่า ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43(1)หรือ(2) ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวว่าหย่อนความสามารถในอันจะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งหากฝ่าฝืนบทบัญญัตินี้จะมีส่วนที่ว่าด้วยบทกำหนดโทษในมาตรา 154(3) โดยระวางโทษปรับครั้งละไม่เกินหนึ่งพันบาท จึงเห็นได้ว่าการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเช่นนี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดโทษไว้โดยเฉพาะแล้ว กรณีจึงไม่เป็นเรื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานตามความหมายของมาตรา 368 แห่ง ป.อ.อันเป็นกฎหมายทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 368 วรรคหนึ่ง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
(หมายเหตุ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ยอมรับการทดสอบว่าเมาสุราหรือไม่ เป็นการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายและขาดความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง 2 และการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 368 เนื่องจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดโทษไว้โดยเฉพาะแล้ว ตามมาตรา 154(3)
ลงโทษให้นักเรียนวิ่งรอบสนามนักเรียนเสียชีวิต
ฎีกาที่ 5129/2546
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาพลศึกษา ได้สั่งให้นักเรียนชั้น ม.1 วิ่งรอบสนามระยะทาง 200 เมตร ต่อ 1 รอบ จำนวน 3 รอบ เป็นการอบอุ่นร่างกายก่อนการเรียนวิชาพลศึกษาในภาคปฏิบัติ และได้สั่งให้นักเรียนวิ่งรอบสนาม ต่ออีก 3 รอบ เป็นการกระทำโทษที่วิ่งไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเหมาะสมตามสมควรแก่พฤติการณ์ แต่การที่สั่งให้วิ่งรอบสนามต่อไปอีก 3 รอบ และเมื่อนักเรียนยังทำไม่ได้เรียบร้อย ก็สั่งให้วิ่งต่อไปอีก 3 รอบ ในช่วงเวลาหลังเที่ยงวันเพียงเล็กน้อย สภาพอากาศร้อนและมีแสงแดดแรง นับเป็นการใช้วิธีการลงโทษนักเรียนที่ไม่เหมาะสมและไม่ชอบเพราะจำเลยที่ 1 น่าจะเล็งเห็นได้ว่าการลงโทษนักเรียนซึ่งมีอายุระหว่าง 11 ถึง 12 ปี ด้วยวิธีการดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของนักเรียนได้ เป็นความประมาทเลินเล่อ จนทำให้เด็กชาย พ. ซึ่งเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนล้มลง ในการวิ่งรอบสนามรอบที่ 11 และถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเพราะสาเหตุระบบหัวใจล้มเหลว การตายของเด็กชาย พ. จึงเป็นผลโดยตรงจากการวิ่งออกกำลังตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ทราบว่าเด็กชาย พ. เป็นโรคหัวใจ ก็ตาม มิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดเป็นเหตุให้เด็กชาย พ. ถึงแก่ความตาย แต่ความไม่รู้ของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวเป็นเหตุประกอบดุลพินิจในการกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้น้อยลง
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้าราชการในสังกัดของจำเลยที่ 2 ทำการสอนวิชาพลศึกษาในชั่วโมงวิชาพลศึกษาของนักเรียนชั้น ม.1 ห้อง 1/4 ของโรงเรียน ว. เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการในฐานะผู้แทนกรมสามัญศึกษาจำเลยที่ 2 การออกคำสั่งให้นักเรียนวิ่งรอบสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายและการลงโทษนักเรียนให้วิ่งรอบสนาม ก็ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย เมื่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการดังกล่าวของจำเลยที่ 1 ทำให้เด็กชาย พ. นักเรียนคนหนึ่งในชั้นดังกล่าวถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายแก่โจทก์ผู้เป็นมารดาของเด็กชาย พ. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 76 วรรคหนึ่ง
แม้เหตุละเมิดคดีนี้เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ใช้บังคับ แต่เมื่อโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้นั้น พ.ร.บ. ฉบับนี้ใช้บังคับแล้ว สิทธิของโจทก์ในการฟ้องเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐให้รับผิดทางละเมิดต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ ฉะนั้น เมื่อคดีปรากฏว่าการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์เป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสามัญศึกษาจำเลยที่ 2 โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ดังกล่าว ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246, 247
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
ทนายใกล้คุณ https://bit.ly/lawyernearyou
แชทกับทนายได้ตลอดเวลา หรือฝากข้อความไว้ไม่เกิน 30 นาที
เรื่องด่วนโทรมาที่ 094 241 2468
ทนายความ : 099-1524195
call center: 094-2412468
แชทกับทนาย https://bit.ly/lawyernearyou
#ทนายความออนไลน์ #ทนายความใกล้คุณ #ทนายความภาคใต้
Bangkok
10110
รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ทนายความอำเภอทุ่งสง Thung Song Lawyerผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา
ส่งข้อความของคุณถึง ทนายความอำเภอทุ่งสง Thung Song Lawyer:
อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เครือข่ายทนายความ ทนายใกล้บ้าน โทร 089-226-8899 Providing Lawyer Network near you Call Us 089-226-8899
ทนายความอำเภอละแม Lawyer at Lamae District
อาคาร เค ซอยสุขุมวิททนายความเขตวัฒนา Lawyer at Vadhana District
สำนักงานใหญ่ เลขที่ ๒๒ อาคารเค ซอยสุขุมวิท ๓๕ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหทนายความจังหวัดขอนแก่น Khon Kaen Law
สำนักงานใหญ่ เลขที่ ๒๒ อาคารเค ซอยสุขุมวิท ๓๕ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหทนายความคดีพรากผู้เยาว์ Child Abdu
Sukhumvitทนายความอำเภอเสลภูมิ Lawyer at Selaphum
SukhumvitAdministrative Court of Thailand
Moo3 Chaeng Watthana RoadQueen Sirikit National Convention Center
Queen Sirikit National Convention Center 60 Ratchadaphisek RoadGraduate School of Applied Statistics, NIDA
Serithai Road