Thai Law Reform Commission

Thai Law Reform Commission พัฒนากฎหมายไทยให้มีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

📣 ขอประชาสัมพันธ์วิดีโอบันทึกงานประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดี และสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นส...
22/05/2025

📣 ขอประชาสัมพันธ์วิดีโอบันทึกงานประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดี และสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
รับชมย้อนหลังครบทั้ง 7 ตอนทาง YouTube ได้แล้ววันนี้! 🎥

📌 Key highlights

✨ เจาะลึกแนวคิดการพัฒนากฎหมายไทยให้สอดคล้องมาตรฐานสากล
🌍 ฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ OECD โดยตรง
🧭 เข้าใจขั้นตอนการเข้าเป็นสมาชิก OECD
💻 เรียนรู้ระบบ TH2OECD แบบ Step-by-Step
🤝 เสวนาแลกเปลี่ยนจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

📺 คลิกดูวิดีโอทั้งหมดได้ที่ช่อง YouTube ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา "Krisdika Connect"
https://www.youtube.com/playlist?list=PLD40_ehqHRR102AQ1udwdxabxJyh1q2xd
และช่องกองพัฒนากฎหมาย "lawreform krisdika"
https://youtu.be/dRSIQknoWIE?feature=shared

#การมีกฎหมายที่ดี #กฎหมายที่ดีเพื่อชีวิตที่ดี

📢 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ✨ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย...
08/05/2025

📢 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ✨ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 (“พรบ.77”) 📝 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาปรับปรุง “พรบ.77” ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง 🌟

🔗 ส่งความคิดเห็นได้ผ่านลิงก์ด้านล่าง หรือ📱 สแกน QR Code ใน Infographic นี้ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NTI3OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=

การประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดี และสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย (Bett...
02/05/2025

การประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดี และสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย (Better Regulation Kick Off Meeting and IM Workshop)

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวบรรยายในเรื่อง "ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยการผลักดันการพัฒนามาตรฐานนโยบายของภาครัฐตามหลักสากลและคำแนะนำของ OECD" ในการประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการมีกฎหมายที่ดี และสัมมนาเชิงปฏิบัติการประกอบการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย (Better Regulation Kick Off Meeting and IM Workshop) เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

การประชุมดังกล่าว มีการบรรยายหัวข้อการดำเนินการด้านการมีกฎหมายที่ดีของประเทศไทย โดย ดร. จิรวัฒน์ จงสงวนดี ผู้อำนวยฝ่ายวิจัยและพัฒนากฎหมาย กองพัฒนากฎหมาย สคก. / การนำเสนอบทวิเคราะห์ เรื่อง Introducing Proportionality to Thailand’s Regulatory Impact Assessment Framework ในรูปแบบบันทึกเทป โดย Mr. Daniel Trnka : Deputy Head of Regulatory Policy Division OECD และ Ms. Supriya Trivedi : Policy Analyst OECD / รวมถึงการเสวนา เรื่อง ความท้าทายและโอกาสของการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของ ประเทศไทย โดย ดร. ไกรยส ภัทราวาท ผู้อำนวยการกองทุนส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อำนวยการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และตัวแทนภาคเอกชนไทยประจำ OECD (BIAC – Business at OECD) และนายฉัตร คำแสง ผู้อำนวยการ 101 PUB (101 Policy Think Tank)

สำหรับช่วงบ่ายมีการบรรยาย เรื่อง กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD และความคาดหวังต่อการจัดทำบันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum) โดย Ms. Gita Kothari, Deputy Director for Legal Affairs, OECD และ Ms. Natalie Limbasan, Head of Accession Unit, OECD / เรื่อง เปิดตัวระบบสนับสนุนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (TH2OECD) โดย ดร. ณรัณ โพธิ์พัฒนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ผลกระทบและประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย กองพัฒนากฎหมาย สคก. และนายสรุจ ทิพเสนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด / และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อใช้งานระบบ TH2OECD โดย นายคนันท์ ชัยชนะ นักกฎหมายกฤษฎีกาชำนาญการพิเศษ กองพัฒนากฎหมาย สคก. และนางสาวสุชญา นฤธนปกรณ์ หัวหน้าโครงการ TH2OECD

ลิงค์เข้าสู่ระบบ H2OECD : https://th2oecd.ocs.go.th/login

💬 “แนวความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น”  📗 เป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับ...
01/05/2025

💬 “แนวความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น”

📗 เป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับพัฒนาการของการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นของประเทศไทย สาระสำคัญของกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น รวมทั้งแนวความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งวินิจฉัยในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งผู้ที่สนใจ

🌐 สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทาง Link ด้านล่างนี้ ⬇️⬇️⬇️
https://krisdika-my.sharepoint.com/:b:/g/personal/it_ocs_go_th/EW7ycqG5HfxPihuvXk6l5tEBVTo9zS4RsDVlrOWVu-Qrow?e=M5k5jj

✨ นอกจากนี้ ท่านสามารถติดตามเอกสารทางวิชาการที่น่าสนใจเพิ่มเติม ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลล่าสุดถึงเดือนมีนาคม 2568 ได้ ผ่านทาง Link ด้านล่างนี้ ⬇️⬇️⬇️
https://krisdika-my.sharepoint.com/:f:/g/personal/it_ocs_go_th/EsSjztcUodpLuiMRw8cHR00BSPJIBW40e876YtNm4NyIjA?e=XO3dnh

⭐️ ฝ่ายกฎหมายการเมืองการปกครอง กองกฎหมายการบริหารราชการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำเอกสารทางวิชาการ เรื่อง...

💬 “แนวความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น”

📗 ซึ่งเป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับพัฒนาการของการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นของประเทศไทย สาระสำคัญของกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น รวมทั้งแนวความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งวินิจฉัยในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งผู้ที่สนใจ

🌐 สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านทาง Link ด้านล่างนี้ ⬇️⬇️⬇️
https://krisdika-my.sharepoint.com/:b:/g/personal/it_ocs_go_th/EW7ycqG5HfxPihuvXk6l5tEBVTo9zS4RsDVlrOWVu-Qrow?e=M5k5jj

✨ นอกจากนี้ ท่านสามารถติดตามเอกสารทางวิชาการที่น่าสนใจเพิ่มเติม ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลล่าสุดถึงเดือนมีนาคม 2568 ได้ ผ่านทาง Link ด้านล่างนี้ ⬇️⬇️⬇️
https://krisdika-my.sharepoint.com/:f:/g/personal/it_ocs_go_th/EsSjztcUodpLuiMRw8cHR00BSPJIBW40e876YtNm4NyIjA?e=XO3dnh

การตรวจพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับบทจำกัดสิทธิการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลภารกิจสำคัญหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการก...
29/04/2025

การตรวจพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับบทจำกัดสิทธิการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคล

ภารกิจสำคัญหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ การตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายนั้น ประเด็นสำคัญในการตรวจพิจารณาร่างกฎหมาย คือ การตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงการตรากฎหมายที่ต้องไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๗ ของรัฐธรรมนูญ กำหนดรองรับสิทธิของบุคคลว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเหตุอื่นใด จะกระทำมิได้ ซึ่งหลักการนี้มีเขียนรองรับไว้ในมหากฎบัตรแม็กนาคาร์ต้า (Magna Carta) ด้วย โดยมีการเขียนประกาศยืนยันการให้ความคุ้มครองของรัฐต่อเสรีชนที่ต้องได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมายซึ่งกลายเป็นหลักการสำคัญประการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยในยุคหลัง ดังจะปรากฏในรัฐธรรมนูญของหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เป็นต้น

เพื่อให้เห็นภาพของกฎหมายที่ถือว่าเป็นกฎหมายที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม จึงขอยกตัวอย่างกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศเยอรมนีที่มีเนื้อหาเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่เท่าเทียมกัน ได้แก่ Jim Crow Laws ของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในช่วงศตวรรษที่ ๑๙ จนถึงกลางศตวรรษที่ ๒๐ โดยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในพื้นที่ของมลรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ตราขึ้นหลังจากมีการประกาศเลิกทาสตาม 13th Amendment ของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา โดยกฎหมาย Jim Crow เป็นการรวบรวมกฎหมายที่จำกัดและแบ่งแยกกิจกรรมระหว่างคนผิวขาวและคนผิวสีออกจากกัน ไม่ว่าการศึกษา การสาธารณสุข การทำงาน สิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันอย่างการใช้ห้องน้ำ ที่จะมีป้ายที่แยกระหว่างคนผิวขาวและคนผิวสีออกจากกัน โดยกฎหมายที่อยู่ในกลุ่มของ Jim Crow Laws ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถูกยกเลิกโดยคำพิพากษาศาล หรือการตรากฎหมายเพื่อยกเลิก จนกระทั่งมีการตรากฎหมาย Civil Rights Act of 1964 และ the Voting Rights Act of 1965 ซึ่งตราขึ้นเพื่อรองรับสิทธิพลเมืองและรองรับสิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับพลเมืองสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยถูกจำกัดสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น กลุ่มชนพื้นเมืองอินเดียนแดงซึ่งเคยถูกกฎหมาย Indian Citizenship Act of 1887 ที่เคยบัญญัติว่าชนพื้นเมืองอินเดียนแดงไม่ใช่พลเมืองอเมริกันทำให้ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ และกฎหมายว่าด้วยสถานะพลเมืองของประเทศเยอรมนี (Civil Status Law) ซึ่งเดิมในมาตรา ๒๒ (๓) ของกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้การแจ้งเกิดของเด็กที่เกิดใหม่นั้น ผู้แจ้งต้องระบุเพศของเด็กที่เกิดโดยกำหนดให้ระบุเพียงเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีมีคำวินิจฉัยว่าการที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยสถานะพลเมืองมีทางเลือกให้ระบุได้เพียงเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น โดยไม่มีการกำหนดเพศทางเลือก ถือว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เท่าเทียมกันทางเพศซึ่งขัดรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนี อันมีผลให้ต่อมามีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวให้การแจ้งเกิดสามารถระบุเพศที่นอกเหนือจากเพศชายหรือเพศหญิงได้

จากตัวอย่างของกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้น จะทำให้เราเห็นได้ถึงแนวความคิดและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการตรากฎหมายเหล่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีตของแต่ละประเทศ เช่น การล่าอาณานิคมซึ่งอาจจะมีผลต่อแนวความคิดที่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ เพศ ของประชากรและมีการปฏิบัติต่อบุคคลที่ไม่เท่าเทียมกัน จนกระทั่งต่อมาเกิดแนวความคิดความเท่าเทียมกันระหว่างบุคคล ไม่สามารถแบ่งแยกชนชั้นกันในทางกฎหมายได้ ทำให้มีการตรากฎหมายเพื่อแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่เคยมีการเลือกปฏิบัติเหล่านั้นเสียหรือมีคำพิพากษาให้กฎหมายที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติสิ้นผลใช้บังคับ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ในบางกรณีจะมีการตรากฎหมายขึ้นใหม่เพื่อชดเชยสิ่งที่บุคคลเหล่านั้นเคยต้องประสบมาก่อน เช่น การออกกฎหมายเพื่อรับรองสิทธิให้กับชนพื้นเมืองที่เคยไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกับพลเมืองทั่วไป หรือกฎหมายที่กำหนดให้บุคคลซึ่งเคยประสบปัญหาในการเข้าถึงบริการสาธารณะของรัฐ เช่น คนพิการ เป็นต้น ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะของรัฐได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ซึ่งในการออกกฎหมายเพื่อชดเชยให้กับชนกลุ่มเปราะบางดังกล่าวอาจมีเนื้อหาที่ให้สิทธิพิเศษบางประการกับกลุ่มบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะแตกต่างจากบุคคลทั่วไป จึงอาจดูเหมือนว่าเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างบุคคลที่ได้รับสิทธิตามกฎหมายกับบุคคลทั่วไป แต่หากพิจารณาจากบริบทเชิงประวัติศาสตร์แล้วจะเห็นว่าบุคคลเหล่านี้เคยประสบความยากลำบากในการเข้าถึงบริการภาครัฐมาก่อน การตรากฎหมายเพื่อทำให้บุคคลกลุ่มเปราะบางเหล่านั้นให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปจึงเป็นการทำให้บุคคลกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป

การตรากฎหมายในลักษณะนี้แม้ว่าการตรากฎหมายเพื่อให้สิทธิแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติในเชิงบวก หรือ Positive Discrimination ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่สามารถทำได้ โดยหลักการในเรื่องของ Positive Discrimination ได้ถูกมากำหนดไว้ในวรรคสี่ของมาตรา ๒๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งกำหนดให้มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเพื่อคุ้มครองหรืออำนวยความสะดวกให้แก่เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาส ไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาว่ากฎหมายใดเข้าเงื่อนไขนี้หรือไม่นั้น อาจต้องพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเป็นกรณี ๆ ไป โดยต้องคำนึงถึงข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ที่บุคคลดังกล่าวเคยถูกจำกัดมาก่อนด้วย นอกจากนี้ การตรากฎหมายที่มีลักษณะเป็น Positive Discrimination ต้องพิจารณาให้รอบด้านด้วยว่าครอบคลุมกลุ่มเปราะบางทุกภาคส่วนแล้วหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญที่ประสงค์ให้บุคคลทุกคนมีสิทธิเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ได้กฎหมายที่ดีเพื่อทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างทั่วหน้าและเท่าเทียมกัน

ข่าวสารเพิ่มติม

- https://mgronline.com/politics/detail/9680000038903
- https://www.naewna.com/relation/879843/preview
- https://www.matichon.co.th/publicize/news_515431
- https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_9732882
- https://www.thaipost.net/draft/779041

การให้ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา
25/04/2025

การให้ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา

การจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
23/04/2025

การจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กฤษฎีกาสาร ฉบับออนไลน์ขอเชิญทุกท่านพบกับวารสารกฤษฎีกาสาร ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งมีบทความน่าสนใจมากมาย  เ...
22/04/2025

กฤษฎีกาสาร ฉบับออนไลน์

ขอเชิญทุกท่านพบกับวารสารกฤษฎีกาสาร ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งมีบทความน่าสนใจมากมาย เชิญสแกน QR Code หรือคลิกลิงก์ด้านล่างนี้เพื่อเข้าเว็บไซต์ www.ocs.go.th
https://www.ocs.go.th/ocs_website/file/reader/MDUyMDU1MDNhMDdlMDVjMDUwMDNlMDdiMDY3MDVmMDNkMDdlMDViMDU1MDM0MDRmMDZjMDU0

- ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง “การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” และ “อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ"

- ความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เรื่อง “การเพิกถอนคำสั่งรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง"

- ความเห็นของคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย กรณีกรมการปกครองขอหารือเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ

- บทความทางกฎหมาย เรื่อง "ข้อยกเว้นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย"

- สกู๊ปพิเศษ เรื่อง “อัพเดทหลักการ Good Regulatory Practices ที่น่าสนใจจาก APEC Blueprint for Advancing Good Regulatory Practices”

- บทความกฎหมายต่างประเทศ เรื่อง “มาตรการการจัดการปัญหาซาแซงของเกาหลีใต้”

- คอลัมน์ IT เรื่อง “ยุคของ Agentic AI เมื่อหุ่นยนต์ทำงานได้เท่ามนุษย์”

ขอบคุณครับ

กฤษฎีกาสาร ฉบับออนไลน์

ขอเชิญทุกท่านพบกับวารสารกฤษฎีกาสาร ปีที่ ๒๐ ฉบับที่ ๓ ในรูปแบบออนไลน์ เข้าถึงได้ด้วยการสแกน QR Code หรือทางเว็บไซต์ www.ocs.go.th ตามลิงก์ด้านล่างนี้

Link : https://www.ocs.go.th/ocs_website/file/reader/MDUyMDU1MDNhMDdlMDVjMDUwMDNlMDdiMDY3MDVmMDNkMDdlMDViMDU1MDM0MDRmMDZjMDU0

วารสารกฤษฎีกาสารกลับมาพบกับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ในเล่มที่ ๓ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม ๒๕๖๘ ในช่วงเวลาที่กำลังก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว สภาพอากาศที่ร้อนมากอาจส่งผลต่อร่างกาย จึงขอฝากความห่วงใยถึงท่านผู้อ่านให้ดูแลสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางหรือต้องทำงานกลางแจ้ง นอกจากความปรารถนาดีที่มีต่อท่านผู้อ่านแล้ว กฤษฎีกาสารฉบับนี้ยังมาพร้อมกับสาระน่ารู้ที่น่าสนใจในคอลัมน์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

คอลัมน์ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้นำความเห็นที่น่าสนใจมาฝากท่านผู้อ่านในเรื่อง “การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีที่ประธานกรรมการซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” และความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง “อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ” โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับกรณีข้อคำถาม รวมถึงประเด็นที่ให้ความเห็นไว้ได้อย่างครบถ้วนเพื่อใช้ศึกษาเพิ่มเติมและเป็นแนวทางในเรื่องที่เกี่ยวข้อง

คอลัมน์ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองที่น่าสนใจ เป็นการให้ความเห็นตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในประเด็นเกี่ยวกับเรื่อง “การเพิกถอนคำสั่งรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙” โดยนำเสนอเนื้อหาการตอบข้อหารือแยกเป็นประเด็นข้อหารือต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ชัดเจน

คอลัมน์ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัยนำเสนอความเห็นทางกฎหมาย ซึ่งกรมการปกครองขอหารือในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาเรื่องความผิดทางพินัย โดยได้สรุปเป็นประเด็นต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน สำหรับเรื่องน่ารู้ฉบับนี้นำเสนอบทความทางกฎหมาย เรื่อง ข้อยกเว้นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกลไกที่จะช่วยคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้ถูกกระทบหรือจำกัดสิทธิและเสรีภาพเท่าที่จำเป็น

สกู๊ปพิเศษฉบับนี้สุดพิเศษมาในเรื่อง “อัพเดทหลักการ Good Regulatory Practices ที่น่าสนใจจาก APEC Blueprint for Advancing Good Regulatory Practices” โดยสรุปประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ทั้งหลักการ เป้าหมาย ผลกระทบ และการมีส่วนร่วมของประเทศอาเซียน รวมถึงบริบทของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการพัฒนากฎหมาย

สำหรับบทความกฎหมายต่างประเทศฉบับนี้นำเสนอ เรื่อง “มาตรการการจัดการปัญหาซาแซงของเกาหลีใต้” โดยผู้เขียนได้ให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของคำเฉพาะที่เกี่ยวข้อง สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ รวมถึงความคุ้มครองทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากทุกประเทศ เนื่องจากศิลปินหรือผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ ในประเทศเกาหลีใต้นั้น ได้รับความนิยมอย่างมาก นำมาซึ่งการตกเป็นเป้าหมายในด้านต่าง ๆ จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้รับความคุ้มครองเฉพาะที่เหมาะสม

คอลัมน์เทคโนโลยีสารสนเทศนำเอาบทความ เรื่อง “ยุคของ Agentic AI เมื่อหุ่นยนต์ทำงานได้เท่ามนุษย์” มานำเสนอ โดยเทคโนโลยี AI ในปัจจุบันมีการพัฒนาเพื่อช่วยเหลือการทำงานของมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันมนุษย์ก็ต้องมีความรู้เท่าทัน มีความเข้าใจ ทั้งในชีวิตประจำวันและภาคธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และอนาคตในการทำงานอีกด้วย

แล้วกลับมาพบกันอีกครั้งในกฤษฎีกาสาร ฉบับที่ ๔ ประจำเดือนเมษายน - พฤษภาคม ๒๕๖๘ นี้

📢 ตามที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสิน...
17/04/2025

📢 ตามที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและจัดการอาชญากรรมไซเบอร์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2568

👨‍⚖️ กองกฎหมายกระบวนการยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงขอเสนอ Infographic สรุปหลักการสำคัญของพระราชกำหนดทั้งสองฉบับดังกล่าว รายละเอียดด้านล่างนี้ ⬇️⬇️⬇️

คำกล่าวของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวข้อ "ความสำคัญของการพัฒนากฎหมาย" ในโอกาสเปิดตัวรายงานวิเคราะห์คุณภาพกฎห...
10/04/2025

คำกล่าวของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวข้อ "ความสำคัญของการพัฒนากฎหมาย" ในโอกาสเปิดตัวรายงานวิเคราะห์คุณภาพกฎหมาย (OECD Regulatory Policy Outlook) วันที่ 8 เมษายน 2568 ณ สำนักงานใหญ่ OECD กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

คำกล่าวของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวข้อ ความสำคัญของการพัฒนากฎหมาย ในโอกาสเปิดตัวรายงานวิเ....

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดรับสมัครสอบ ตำแหน่งนักกฎหมายกฤษฎีกาปฏิบัติการแล้วนะครับ- สมัครได้ถึงวันพุธ ที่ 30 เมษายน 25...
02/04/2025

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดรับสมัครสอบ ตำแหน่งนักกฎหมายกฤษฎีกาปฏิบัติการแล้วนะครับ

- สมัครได้ถึงวันพุธ ที่ 30 เมษายน 2568 นี้ ผ่านช่องทางออนไลน์

รายละเอียดตามลิงก์
https://www.facebook.com/share/p/1F2pucNVNy/

29/03/2025

📌OECD มีคำแนะนำเกี่ยวกับหลักด้านความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในโรงเรียน (Recommendation of the Council Concerning Guidelines on Earthquake Safety in Schools)

จากภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา แต่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณกรุงเทพมหานคร ที่มีตึกสูงเป็นจำนวนมาก จนมีเหตุตึกถล่มและเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของอาคารหลายแห่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอนำเสนอ ข้อแนะนำของคณะมนตรี OECD ว่าด้วยหลักการชี้แนะด้านความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในโรงเรียน ซึ่งประเทศไทยกำลังนำมาถือปฏิบัติตามกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (OECD Accession) ซึ่งจะเป็นมาตรฐานสำคัญปกป้องอาคารในสถานศึกษาและน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาไทยให้ปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหวได้ในอนาคต

ข้อแนะนำว่าด้วยหลักการชี้แนะด้านความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในโรงเรียนได้รับการรับรองโดยคณะมนตรี OECD เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2005 (พ.ศ. 2548) ตามข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารโครงการอาคารการศึกษา (Programme on Educational Building, PEB) และคณะกรรมการการศึกษา (Education Committee) (ปัจจุบันเรียกว่า คณะกรรมการนโยบายการศึกษา - EDPC) ข้อแนะนำนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนประเทศที่แสดงความจำนงยึดถือดำเนินนโยบายในการจัดตั้งโปรแกรมความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพ

OECD พบว่า การก่อสร้างอาคารเรียนในหลายประเทศมักไม่คำนึงถึงผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะเป็นเพราะกฎระเบียบที่ไม่รัดกุม การบังคับกฎที่ไม่เข้มงวดเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการดำเนินการด้านการออกแบบและการก่อสร้าง จึงมีการออกหลักการและองค์ประกอบหลักที่ประเทศสมาชิกควรนำไปยึดปฏิบัติในการกำกับดูแลการสร้างอาคารเรียนให้ปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหว โดยสามารถสรุปหลักการสำคัญได้ ดังนี้

1. กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้สำหรับความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในโรงเรียน โดยอิงจากระดับความเสี่ยง ซึ่งสามารถดำเนินการและสนับสนุนโดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบในชุมชนและหน่วยงานในระดับรัฐบาลท้องถิ่น และจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอและระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้

2.กำหนดระดับอันตรายจากแผ่นดินไหวเพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาและการใช้ข้อบังคับการก่อสร้างและมาตรฐานภายใต้ความรับผิดชอบตามที่เหมาะสมของหน่วยงานระดับชาติ รัฐ หรือท้องถิ่น อย่างน้อยที่สุด ควรกำหนดเขตอันตรายจากธรรมชาติ และหากเป็นไปได้ ควรจัดทำแผนที่อันตรายจากแผ่นดินไหวโดยอิงจากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็น

3.กำหนดความคาดหวังหรือวัตถุประสงค์ที่ชี้ให้เห็นถึงความสามารถที่ต้องการของอาคารโรงเรียนในการต้านทานแผ่นดินไหว อาคารโรงเรียนควรได้รับการออกแบบและก่อสร้าง หรือปรับปรุงใหม่ เพื่อป้องกันการพังทลาย การพังทลายบางส่วน หรือความล้มเหลวอื่น ๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์เมื่อถูกกระทำด้วยระดับการสั่นสะเทือนของพื้นดินที่กำหนดและ/หรืออันตรายจากแผ่นดินไหวอื่น ๆ เช่น การแตกหักของพื้นผิว การดินถล่ม หรือการท่วมจากคลื่นสึนามิหรือการล้มของเขื่อน อย่างไรก็ตาม บางหน่วยงานอาจต้องการให้อาคารโรงเรียนมีความต้านทานต่อแผ่นดินไหวเพิ่มเติมในระดับที่ความเสียหายถูกจำกัดและอาคารสามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและใช้เป็นที่พักพิงหรือการดำเนินการฉุกเฉิน

4.ให้ความสำคัญกับการทำให้โรงเรียนใหม่ปลอดภัย ความพยายามในการระบุโรงเรียนที่มีความเสี่ยงสูงที่มีอยู่ การกำหนดมาตรฐานสำหรับการปรับปรุงหรือการแทนที่อาคารที่อันตราย และการพัฒนารายการของการดำเนินการที่มีความสำคัญสามารถทำได้ในระยะเวลาสั้น ในขณะที่อาจต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นในการแก้ไขจุดอ่อนด้านแผ่นดินไหวของอาคารโรงเรียนที่มีอยู่

5.ควรจัดตั้งเป็นการดำเนินการระยะยาวที่มีความมุ่งมั่นอย่างเข้มแข็งต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องแทนที่จะเป็นการดำเนินการครั้งเดียว

6.นำแนวทางที่คำนึงถึงภัยพิบัติหลายประเภทมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน โดยมีกลยุทธ์การบรรเทาอันตรายจากแผ่นดินไหวที่เสริมมาตรการตอบโต้ภัยพิบัติสำหรับอันตรายอื่น ๆ

7.ใช้คณะกรรมการที่ปรึกษาตามความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจทางนโยบายและเทคนิคมีความสอดคล้องกัน และเพื่อให้การสนับสนุนและการประเมินผลที่เป็นอิสระในระยะยาวสำหรับความพยายามด้านความปลอดภัยจากแผ่นดินไหว

ท่านที่สนใจสามารถอ่านคำแปลตราสารดังกล่าวข้องต้นเพิ่มเติมเป็นภาษาไทยได้จากเว็บไซต์ TH2OECD ซึ่งมีการแปลตราสารดังกล่าวเป็นภาษาไทยด้วย Generative AI ด้านกฎหมายที่สำนักงานฯ พัฒนาร่วมกับทีมเทคโนโลยีภายนอก นอกจากนั้นยังสามารถสืบค้นข้อมูลตราสารอื่น ๆ ของ OECD ที่ประเทศไทยต้องถือปฏิบัติในกระบวนการการเข้าเป็นสมาชิกดังกล่าวข้างต้น

เว็บไซต์ TH2OECD ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 🔻
https://th2oecd.ocs.go.th/previewInstuments?id=98

ที่อยู่

Phra Nakhon

เบอร์โทรศัพท์

+6622220206

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Thai Law Reform Commissionผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ องค์กรนั้น

ส่งข้อความของคุณถึง Thai Law Reform Commission:

แชร์