คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น

  • Home
  • คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น

คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มได้ที่บ้านเรา

สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนเกิด! นายกฯอบต.กำแพงแสน คณะก้าวหน้า มอบ Baby Box ให้ว่าที่คุณแม่ ผ่อนภาระดูแ...
07/02/2023

สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนเกิด! นายกฯอบต.กำแพงแสน คณะก้าวหน้า มอบ Baby Box ให้ว่าที่คุณแม่ ผ่อนภาระดูแลลูก
นายกเทศมนตรีธงชัย โชคดำรงสุข แห่ง อบต. กำแพงแสน นครปฐม พร้อมทีมงานคณะก้าวหน้า ส่งมอบชุดของขวัญแรกเกิด หรือ Baby Box ให้กับ 'ว่าที่คุณแม่' ที่มีกำหนดใกล้คลอดในเดือนนี้
การมอบกล่อง Baby Box ไม่ใช่แค่ให้ของ 1 กล่องแล้วจบ แต่อบต. กำแพงแสน จะต้องติดตามสำรวจผู้ตั้งครรภ์ในท้องถิ่น เพื่อให้ลงทะเบียนเข้าระบบ คุณแม่จะได้รับการส่งเสริมให้ฝากครรภ์ตั้งแต่เริ่มต้น สามารถติดตามพัฒนาการของทารก สุขภาพอนามัยทั่วไป และทำให้ว่าที่คุณแม่เข้าถึงการดูแลทางสาธารณสุขอย่างครบถ้วน เมื่อเด็กคลอดออกมา ก็จะมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เติบโตเป็นประชาชนที่มีคุณภาพต่อไป
ภายในกล่อง Baby Box มีอุปกรณ์จำเป็นสำหรับแม่และเด็ก เช่น ผ้าอ้อม ซึ่งจะเป็นเซ็ทผ้าอ้อมที่มีขนาดเล็กใหญ่ตามอายุและการเติบโตของเด็ก ของเล่นที่สนับสนุนพัฒนาการและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ของเล่นที่ฝึกกล้ามเนื้อนิ้วมือ หนังสือป้องกันการฉีกขาด หนังสือภาพฝึกการมอง รวมถึงเครื่องปั๊มนมพร้อมถุงเก็บน้ำนมสำหรับคุณแม่ ฯลฯ พร้อมทั้งคู่มือการใช้กล่อง
นอกจากการแกะกล่อง Baby Box เจ้าหน้าที่อบต.กำแพงแสน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำแพงแสน และเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตร ก็ได้ร่วมบรรยายและให้ความรู้ แนะแนวทางการดูแลบุตรตั้งแต่ในครรภ์ จนถึงวันคลอดและเติบโตเป็นเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพอีกด้วย
ปัจจุบันอบต.กำแพงแสน มีว่าที่คุณแม่เข้าร่วมโครงการและลงทะเบียนกับอบต. 8 คน ใกล้คลอด 2 คน โดยทางอบต. ได้ออกแบบการดูแลเด็กเล็กหลังคลอดไว้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหลังคลอด 7 วัน หลังคลอด 15 วัน และหลังคลอด 1 เดือนแรก และหลังจากนั้นจะติดตามพัฒนาการเด็กเล็กหลังจากที่เข้าไปฉีดวัคซีนตามนัดหมาย โดยระบบติดตามดูแลคุณแม่และเด็กที่มาพร้อมกับการมอบ Baby Box จะช่วยการดูแลพัฒนาการเด็กช่วงแรกเกิดจนถึง 2 ขวบได้ ก่อนจะมาอยู่ในการดูแลของอบต.อีกครั้งในช่วงก่อนปฐมวัย ผ่านศูนย์เด็กเล็ก
นายกธงชัย ได้กล่าวถึงการส่งมอบ Baby Box ในครั้งนี้ว่า Baby Box เป็นการเติมเต็มโครงการที่ทาง อบต. ได้ทำอยู่ อย่างโครงการ 1,000 วันแรก ซึ่งตนต้องการมอบสวัสดิการให้กับเด็กเล็กในตำบล แต่ อบต. พบข้อมูลว่าพัฒนาการของเด็กเล็กไม่ค่อยดี จึงเล็งเห็นว่าเด็กจะมีพัฒนาการที่ดีได้จะต้องเริ่มตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์ และเกิดมาแล้วก็อยากให้เด็กเป็นเด็กแข็งแรง มีพัฒนาการสมบูรณ์
โครงการ Baby Box เป็นโครงการที่ริเริ่มพัฒนาโดยคณะก้าวหน้า สิ่งของที่อยู่ในกล่องถูกออกแบบอย่างดีเพื่อให้ตรงกับความต้องการของแม่ และส่งเสริมพัฒนาการเด็ก โดย Baby Box และถูกนำไปใช้ในหลายท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน รวมถึงเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่เสนอการจัดทำสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยสวสัสดิการแรกที่ประชาชนได้รับ คือ "ของขวัญแรกเกิด" ซึ่งเป็นชุดของใช้จำเป็นสำหรับแม่และเด็ก มูลค่า 3,000 บาท เพื่อผ่อนภาระค่าใช้จ่ายพ่อแม่ และส่งเสริมการดูแลเด็กอย่างถูกหลักตั้งแต่แรกเกิด

คณะก้าวหน้าและบทเรียนการใช้แอพลิเคชั่นแจ้งปัญหา "ฟองดูว์"
06/06/2022

คณะก้าวหน้าและบทเรียนการใช้แอพลิเคชั่นแจ้งปัญหา "ฟองดูว์"

Traffy Fondue แจ้งปัญหาทันใจ บริหารโปร่งใส สร้างบรรทัดฐานใหม่พัฒนาเมือง
Traffy Fondue หรือ “ฟ้องดู” อีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก หลังจากที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเปิดตัวใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวทันที
คณะก้าวหน้าเองก็มีแนวทางสนับสนุนการแก้ปัญหาเมืองยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์ ที่จะช่วยให้ทีมบริหารสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงทีด้วยฟ้องดูเช่นกัน
ฟ้องดู เป็นผลงานการพัฒนาของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค มีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มเปิด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำแอปพลิเคชั่นนี้มาปรับใช้กับพื้นที่ของตนเองได้ทั่วทั้งประเทศ
จากประสบการณ์ของคณะก้าวหน้า ที่ได้สนับสนุนการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายสิบแห่งทั่วประเทศ ทั้งในระดับเทศบาลและอบต. เราได้เริ่มเปิดใช้แอปพลิเคชั่นฟ้องดู พร้อมกับนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทันทีหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2564 ทั้งในระดับเทศบาลตำบลและอบต. โดยปัจจุบันมีเทศบาล 14 แห่ง และอบต. อีก 12 แห่งที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน เปิดใช้ฟ้องดูเพื่อให้บริการแก่ประชาชน แจ้งปัญหาหรือส่งเรื่องร้องเรียน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการรับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนและมีแก้ไขปัญหาสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เทศบาลตำบลนาคำไฮ อบต.โพนสูง และ อบต.นาบัว จากจังหวัดอุดร
นอกจากการนำแอปฟ้องดูมาใช้ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า เรายังสนับสนุนให้แต่ละจังหวัด หน่วยงานต่างๆ หันมาใช้ฟ้องดูเพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการแก้ไขปัญหาเมือง เพราะนอกจากฟ้องดูจะช่วยเชื่อมต่อเมืองกับประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังเป็นรากฐานของการสร้างการบริหารงานโปร่งใสอีกด้วย ข้อมูลที่ถูกร้องเรียนและแก้ไขจะถูกบันทึกร่วมกันทั้งฟากของประชาชน และฟากของเจ้าหน้าที่ การแจ้งปัญหาผ่านแอปยังสามารถเก็บข้อมูลเพื่อประมวลผลด้านต่างๆ กล่ยเป็นบิ๊กดาต้าที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาเมืองได้อีกด้วย
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลังจากที่คณะก้าวหน้าได้เปิดใช้ฟ้องดู เรามีมาตรฐานระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประเมินความสำเร็จ คือค่าเฉลี่ยที่วัดระยะเวลาร้องเรียนและแก้ไขปัญหา จากสถิติที่เก็บได้พบว่า การดำเนินแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่รวดเร็วที่สุดคือหลัก 2-3 วันเท่านั้น และหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ยังให้บริการประชาชนไม่ถึงค่าเฉลี่ยประเมินความสำเร็จก็จะต้องปรับปรุงการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนต่อไป
นอกจากนี้บทเรียนในการบริหารท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า พบว่า ความสำเร็จของการให้บริการฟ้องดู เกิดจากปัจจัยทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่ (1) ทีมบริหารต้องเอาจริง (2) ความร่วมมือและการทำงานอย่างเป็นระบบของข้าราชการประจำและฝ่ายบริหาร (3) เร่งแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยให้ปัญหาคั่งค้าง (4) รายงานสถิติและผลลัพธ์ของงานอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ในการแก้ไขปัญหาเมืองต่อไป ไม่ใช่แค่เพียงกรุงเทพ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน แต่ทุกพื้นที่ในประเทศไทย
รับชมวิดีโอสาธิตการใช้งานได้ที่
https://fb.watch/ds7JWxoFIx/

เพราะการอ่านเปลี่ยนอนาคต คณะก้าวหน้า ลุยด้านการศึกษา “อ่านปั้นฝัน” เพื่อเปลี่ยนท้องถิ่นคณะก้าวหน้าเดินทางส่งมอบตู้ “อ่าน...
02/06/2022

เพราะการอ่านเปลี่ยนอนาคต คณะก้าวหน้า ลุยด้านการศึกษา “อ่านปั้นฝัน” เพื่อเปลี่ยนท้องถิ่น
คณะก้าวหน้าเดินทางส่งมอบตู้ “อ่านปั้นฝัน” ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลายแห่ง เพื่อส่งต่อหนังสือนิทานดีกว่า 100 เล่ม และสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย ซึ่งโครงการอ่านปั้นฝันเป็นโครงการส่งต่อหนังสือดีที่ถูกคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็กกว่า 100 เล่ม พร้อมสื่อการเรียนการสอนที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นมิตร และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็กเล็ก ที่เป็นหัวใจสำคัญของอนาคตด้านการศึกษาของเด็กเล็ก
กิจกรรมล่าสุด กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางถึงจังหวัดอุดรธานี เพื่อส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 13 แห่ง ในเทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลศรีธาตุ เทศบาลตำบลบ้านยวด เทศบาลตำบลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย เพื่อนำเอาตู้อ่านปั้นฝันไปใช้พัฒนาทักษะการเรียนของเด็กเล็กและช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมในท้องถิ่นต่อไป
คณะก้าวหน้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การอ่านและการเรียนรู้ทุกรูปแบบจะช่วยสร้างรากฐานของการพัฒนาทุนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กในท้องถิ่น ซึ่งมีปัญหาช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองและท้องถิ่น ซึ่งทำให้โอกาสและความเป็นไปได้ในการเข้าถึงความรู้ยังคงเป็นปัญหา
โครงการอ่านปั้นฝัน เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จากการสำรวจปัญหาด้านต่างๆ ของทีมนโยบายคณะก้าวหน้า พบว่า หลายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมักไม่มีงบประมาณที่เพียงพอในการจัดการด้านการศึกษา แม้แต่สภาพแวดล้อมของศูนย์ก็ยังมีการพัฒนาต่อเติมทีละนิดตามงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้งบประมาณถูกใช้ไปกับการจัดการโครงสร้าง ซ่อมแซมศูนย์ จึงขาดทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็กเล็กโดยตรง เช่น หนังสือประเภทบอร์ดบุ๊ก ที่ถูกออกแบบสำหรับการใช้งานในเด็กเล็ก สามารถป้องกันการฉีดทำลาย ไปพร้อมๆ กับมีภาพประกอบสีสันดึงดูดเด็กและเสริมพัฒนาการของสมองส่วนหน้า แต่มีข้อจำกัดด้านราคา จึงทำให้หลายโรงเรียนเลือกซื้อหนังสือที่มีราคาถูกแทน
นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กยังมีความสำคัญอย่างยิ่งกับหลายครอบครัวในท้องถิ่น เนื่องจากศูนย์เด็กเล็กนั้นทำงานและให้บริการแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป คือเปิดให้บริการตลอดทั้งปี หยุดให้บริการเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ความสะดวกสบายและการให้บริการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทำให้หลายครอบครัวที่มีความจำเป็นต้องทำงานตลอดทั้งวันและมีภาระไม่น้อยพึงพาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ดูแลบุตรหลานของตน โดยเฉพาะในยุควิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงมีความสำคัญกับหลายครอบครัว หากต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมจากฐานราก การยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้พร้อมกับศักยภาพในการสร้างทุนมนุษย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
นอกจากโครงการอ่านปั้นฝัน ซึ่งเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน ที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้กับเทศบาลหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการน้ำประปาดื่มได้ การกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนโดยโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือการนำเอาแอพลิเคชั่นแจ้งปัญหาแบบเรียลไทม์อย่าง Traffy Fondue มาใช้ในหลายเทศบาล และอีกไม่นานนี้คณะก้าวหน้าเตรียมจัดกิจกรรมและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นเพื่อเป็นโมเดลการพัฒนาและแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป สามารถติดตามชมแนวทางบริหารงานของคณะก้าวหน้า ได้ที่นี่ เร็วๆ นี้

เก็บตกงานอบรมด้านศึกษา พบ 3 ปัญหาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รากฐานสังคมที่กำลังสั่นคลอน!สืบเนื่องจากการอบรม “โครงการพัฒนาศักยภาพ...
30/05/2022

เก็บตกงานอบรมด้านศึกษา พบ 3 ปัญหาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รากฐานสังคมที่กำลังสั่นคลอน!
สืบเนื่องจากการอบรม “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.)” ที่จัดโดยคณะก้าวหน้า ภายในงานมีครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 33 แห่งเข้าร่วมกิจกรรมและร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ช่วงสุดท้ายของงานเป็นช่วงการแลกเปลี่ยนและทดลองนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ พร้อมร่วมถอดบทเรียนและนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของตน จากการแลกเปลี่ยนและนำเสนอ พบว่า มี 3 ปัญหาร่วมที่เกิดขึ้นในทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
(1)ความสำคัญของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก น้อยกว่าที่เป็น นี่คือเสียงสะท้อนจากครูศูนย์พัฒนาเด็กทั่วทั้ง 33 แห่งพบว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเป็นหน่วยงานที่ถูกมองข้ามความสำคัญจากผู้บริหารงานท้องถิ่น ส่งผลให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นองค์กรที่ขาดแคลนองค์ความรู้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเชิงวิชาการ ไปจนถึงปัญหาด้านโภชนาการอาหาร ครูส่วนใหญ่เล่าปัญหาว่า ภายในศูนย์มักจะมีเด็กอ้วนร่วมชั้นเรียนด้วย เนื่องจากปัญหาเรื่องด้านโภชนาการที่ยังพร่องอยู่
จากการอบรมครั้งนี้ ทางคณะก้าวหน้าได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านที่เกี่ยวข้อง มาช่วยพัฒนาองค์ความรู้ของครูจากทั้ง 33 ศูนย์ ขณะเดียวกันกลุ่มครูได้อธิบายภาพของการทำงานว่า ค่อนข้างโดดเดี่ยว ครูต้องทำทุกอย่างเอง เป็นทั้งแม่ครัว ภารโรง นักธุรการ ทำให้ไม่สามารถดูแลเด็กอย่างมีประสิทธิสูงสุด เพราะไม่ได้รับความสำคัญ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งครู 1 คน มีงานที่จะต้องทำเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และมีสัดส่วน ครู:นักเรียน ไม่เหมาะสม เช่นครู 1 คน ต้องดูแลนักเรียนราวๆ 10 คน ซึ่งปัญหาครูขาดแคลนมีมาอย่างยาวนาน
(2)งบประมาณที่มีจำกัด จากการสะท้อนความคิดเห็นของกลุ่มครู พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอีกข้อคือสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น รั้ว สนามเด็กเล่น ห้องเรียน อุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนต่างๆ ที่ขาดแคลน โดยเฉพาะรั้วและอุปกรณ์ใช้งานในโรงเรียน ส่วนใหญ่เก่า ทรุดโทรม และมีไม่เพียงพอ แต่ยังไม่ได้รับการดูแลจากทางผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากติดขัดปัญหางบประมาณ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากเรื่องของการให้ความสำคัญกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้การตั้งกรอบงบประมาณไม่สมเหตุสมผลต่อบทบาทหน้าที่ของสถานศึกษาที่เป็นที่พึ่งให้กับหลายครอบครัวในท้องถิ่น
(3)บทบาทของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่อชุมชน ผู้ปกครองขาดความเข้าใจ ไม่มีเวลา และไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเองก็เป็นเหมือนเครื่องมือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองหลายครอบครัว โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ในช่วงฤดูกาลเกษตร หรือภาระหน้าที่การงานของผู้ปกครองที่กินเวลายาวนาน การนำบุตรหลานไปฝากดูแลช่วยคลายความกังวลและแก้ปัญหาการดูแลไปได้มาก แต่จากสถานการณ์การระบาดของโควิดที่ผ่านมา เกิดคลัสเตอร์ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพราะผู้ปกครองไม่รู้จะนำเด็กไปไว้ที่ไหน จึงนำมาที่ศูนย์โดยไม่มีการแจ้ง ปัญหาเหล่านี้ สะท้อนภาพความร่วมมือและบทบาทของผู้ปกครองในชุมชนด้วยเช่นกัน
จากการระดมความคิด ครูหลายท่านเสนอแนะให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กพร้อมด้วยชุมชนและผู้ปกครอง ร่วมกันออกแบบแนวทางเพื่อสร้างความร่วมมือร่วมกัน เพราะผู้ปกครองและครอบครัวคือจุดเริ่มต้นของเด็ก โรงเรียนทำหน้าที่รับช่วงต่อ ต้องได้รับความร่วมมือในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุดของเด็กเล็กร่วมกัน
จาก 3 ปัญหาร่วมนี้ คณะก้าวหน้าเห็นถึงสภาพสังคมไทยโดยเฉพาะจำนวนประชากรที่กำลังเปลี่ยนแปลง อัตราการเกิดลดลง ผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่มากขึ้น นั่นทำให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเริ่มพูดถึงปัญหานี้จากมุมของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในระดับนโยบายสวัสดิการหลังเกษียณ การพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุโดยตรง ไปจนถึงธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุซึ่งจะกลายเป็นเทรนด์หลักสำหรับการทำธุรกิจในอนาคต ในทางกลับกัน ปัญหาอัตราการเกิดที่ต่ำลง และการเลี้ยงดูเด็กเล็กกลับเป็นปัญหาที่ถูกมองข้ามและให้ความสำคัญในฐานะนโยบายน้อยกว่าความรุนแรงของสถานการณ์มากกว่าที่ควรจะเป็น
คณะก้าวหน้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ และต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับท้องถิ่น เริ่มต้นที่การศึกษาในระดับปฐมวัย ซึ่งก็คือการพัฒนาการศึกษาตั้งแต่ 0-6 ขวบ ก็จะกลายเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวที่มีบุตรหลาน และสามารถกลายเป็นนโยบายที่ช่วยแก้ไขปัญหาอัตราการเกิดที่ต่ำลง พร้อมๆ กับการเป็นรากฐานของการพัฒนาทุนมนุษย์ เราตั้งใจอย่างยิ่งที่จะนำปัญหาต่างๆ ที่ครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสะท้อนมาเปลี่ยนแปลงเป็นการจัดการเพื่อแก้ไขปัญหา และเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศ โดยเริ่มต้นที่การสร้างความพร้อมในการเรียนการสอน และการสร้างทุนมนุษย์ผ่านการศึกษาที่เป็นมิตร

ไม่ได้มีแค่น้ำประปาที่ดื่มได้ “การศึกษา” ท้องถิ่น คณะก้าวหน้าก็พร้อมยกระดับสู่สากลหลังจากที่คณะก้าวหน้าได้มีโอกาสสนับสนุ...
29/05/2022

ไม่ได้มีแค่น้ำประปาที่ดื่มได้ “การศึกษา” ท้องถิ่น คณะก้าวหน้าก็พร้อมยกระดับสู่สากล
หลังจากที่คณะก้าวหน้าได้มีโอกาสสนับสนุนและให้คำปรึกษาการบริหารงานท้องถิ่นขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เราได้ริเริ่มงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น น้ำประปาดื่มได้ และในอนาคตเตรียมผลักดันให้เป็นสมาร์ท มิเตอร์ เพื่อแจ้งเตือนยอดชำระให้เป็นออนไลน์ และมีการผลักดันให้มีการนำแอปพลิเคชั่นร้องเรียนปัญหาอย่าง Traffy Fondue มาใช้กันอย่างเป็นระบบภายในเทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน
ล่าสุด คณะก้าวหน้า ยกระดับนโยบายด้านการศึกษา ด้วย “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.)” เริ่มเดินทางฝึกอบรมให้กับบุคลากรและครูในศูนย์ ด้วยการเพิ่มองค์ความรู้สำหรับการเรียนการสอนที่มีบรรยากาศเป็นมิตรในห้องเรียน และได้ทำการฝึกอบรมครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 33 แห่ง ในระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2565 ณ จังหวัดอุดรธานี โดยการฝึกอบรมดังกล่าว เกิดขึ้นควบคู่ไปกับกิจกรรมและโครงการสอดแทรกอีกมากมาย เพื่อสนับสนุนแนวทางสำหรับการเรียนการสอนภายในศูนย์เด็กเล็กให้มีความสากล ครอบคลุมความหลากหลายและธรรมชาติของเด็กเล็ก
ระหว่างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้สะท้อนปัญหาในเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านสมาธิเนื่องจากติดโทรศัพท์มากขึ้น และมีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเอง ผนวกกับผู้ปกครองไม่มีเวลากวดขัน เนื่องจากต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทำงาน ปัญหาในเรื่องนี้ได้สะท้อนภาพความสำคัญของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่จะทำหน้าที่ดูแลเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก แทนพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
การพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ดีขึ้น จะสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่างเมืองและท้องถิ่น เพราะปัจจุบันศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็ยังประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณ บุคลากร ไปจนถึงหนังสือ สื่อการเรียนการสอนที่มีมาตรฐาน
การสนับสนุนองค์ความรู้ และสื่อการเรียนการสอนที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้น จะช่วยยกระดับการเรียนรู้ของเด็กเล็กและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับเด็กๆ ได้อีกด้วย
กิจกรรมการอบรมในครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุน “สื่อสารทีมพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กคุณภาพสู่มาตฐานชาติ” จาก สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth เพื่อมอบให้ครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้ง 33 แห่ง ไว้นำไปศึกษาและออกแบบห้องเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คณะก้าวหน้ายังได้รับการสนับสนุน ตัวต่อยักษ์จาก BLIX POP - Play for All ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กเล็ก โดยเฉพาะทักษะด้านการสัมผัส กล้ามเนื้อมัดต่างๆ สำหรับการหยิบจับไปจนถึงจินตนาการ ที่จะช่วยให้เด็กเล็กได้พัฒนาการสมองส่วนหน้า ที่จะช่วยเรื่องการควบคุม อารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมต่างๆ ให้ดีขึ้นด้วย

อัปเดตโครงการอ่านปั้นฝัน เตรียมส่งต่ออีกหลายพื้นที่“เด็กสนใจแต่โทรศัพท์”“เด็กสมาธิสั้น ไม่อ่านหนังสือ”นี่เป็นเสียงสะท้อน...
12/05/2022

อัปเดตโครงการอ่านปั้นฝัน เตรียมส่งต่ออีกหลายพื้นที่
“เด็กสนใจแต่โทรศัพท์”
“เด็กสมาธิสั้น ไม่อ่านหนังสือ”
นี่เป็นเสียงสะท้อนจากครูและบุคลากรทางการศึกษาระหว่างกิจกรรมเวิร์คช็อปกิจกรรมส่งต่อ “ตู้อ่านปั้นฝัน” ความคิดเห็นยอดนิยมที่ทางทีมคณะก้าวหน้าสำรวจพบจากคำบอกเล่าของผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ครู ผู้ปกครอง เด็กเล็กในวัย 0-6 ขวบ ที่อยู่ในช่วงมีพัฒนาการสมองส่วนหน้าส่วนใหญ่ติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น กลับมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ น้อยลง ผู้เชี่ยวชาญจากห้องสมุดเด็ก เคยให้ข้อมูลกับทางคณะก้าวหน้าไว้ว่า เด็กเล็กจำนวนมากผ่านยุคโควิดมาพร้อมกับพัฒนาการที่เปลี่ยนไป สมาธิสั้นขึ้น บางส่วนติดโทรศัพท์มือถือ ชอบการดูคลิป ส่วนที่อ่านหนังสือ พบว่าสมาธิสั้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญผ่านการทำลายหนังสือ ฉีกทึ้งหนังสือที่เพิ่มมากขึ้น
หนังสือนิทานจึงเปรียบเสมือนของเล่นเสริมพัฒนาการที่ไม่ว่าใครในครอบครัวก็ร่วมใช้กับเด็กๆ ได้ ด้วยประโยชน์อันหลากหลายโดยเฉพาะเป็นการปูพื้นฐานทักษะภาษาและความคิดที่สำคัญตั้งแต่ขวบปีแรกๆ ของชีวิต นอกจากนั้นยังสะดวกในการใช้งาน ทำให้บ้านที่มีผู้สูงอายุดูแลเด็กๆ อยู่ก็สามารถลดการใช้จอกับเด็ก และหันมาเล่นด้วยนิทานแทน
ปัจจุบันเราสามารถส่งต่อตู้อ่านปั้นฝันไปยังศูนย์​เด็กเล็กในการดูแลแล้ว 8 แห่ง และเตรียมขยายพื้นที่ออกไปอีก 13 แห่ง ในสิ้นเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะถึงนี้ และเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้ส่งมอบตู้ไปยังเทศบาลตำบลสองแห่งได้แก่ เทศบาลตำบลเหมืองจี้ และ เทศบาลตำบลทากาศเหนือ โดยมี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งหมด 7 แห่งเข้าร่วมเวิร์กช็อปและรับมอบตู้อ่านปั้นฝัน
นอกจากนี้ กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ หรือ “ครูจุ๊ย” ผู้ดูแลโครงการและผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า เตรียมเดินหน้ากิจกรรมส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับเทศบาลตำบลในสังกัดคณะก้าวหน้า จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ เทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลบ้านยอด และเทศบาลตำบลศรีธาตุ ทั้งหมดอีก 13 ตู้เพิ่มเติมภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานของเทศบาลในสังกัดคณะก้าวหน้า และเป็นการต้อนรับวันเปิดเทอมที่กำลังจะมาถึง
“โครงการอ่านปั้นฝันตอนนี้เริ่มต้นโครงการที่ภาคเหนือและกำลังจะขยับไปที่อีสานค่ะ จากข้อมูลที่เราพบก็คือมีเด็กจำนวนไม่น้อยต้องหลุดจากการศึกษาเพราะความยากจนในช่วงโควิด ส่วนเด็กเล็กก็มีพัฒนาการถดถอยจากการต้องเติบโตอยู่กับโทรศัพท์มือถือ มีสมาธิสั้นขึ้น และมีพัฒนาการด้านการพูดช้าขึ้น เพราะขาดคลังคำศัพท์ นิทานของโครงการอ่านปั้นฝันเป็นนิทาน 100 เรื่องที่ถูกคัดมาโดยผู้เชี่ยวชาญ จุ๊ยหวังว่าโครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาพัฒนาการของเด็กๆ และช่วยเรื่องขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ค่ะ” กุลธิดา กล่าวเสริมถึงกิจกรรมอ่านปั้นฝัน
สามารถสนับสนุนโครงการอ่านปั้นฝันผ่านบัญชีมูลนิธิคณะก้าวหน้า เลขบัญชี 4931085736 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้ตู้หนังสือไปถึงศูนย์เด็กเล็กอีกหลายแห่งทั่วประเทศ
#อ่านปั้นฝัน #คณะก้าวหน้า

ก้าวหน้าซอยคึด ซาวโพนซอยกันเฮ็ด: สร้างงบประมาณการมีส่วนร่วมของประชนชน คณะก้าวหน้าและอบต.โพน เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันออกแบบ...
08/04/2022

ก้าวหน้าซอยคึด ซาวโพนซอยกันเฮ็ด: สร้างงบประมาณการมีส่วนร่วมของประชนชน
คณะก้าวหน้าและอบต.โพน เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันออกแบบการสร้างงบประมาณที่ประชาชนมีร่วม อบรมความรู้ให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่
โพนเป็นเทศบาลตำบลขนาดเล็ก แต่เป็นพื้นที่พิเศษที่มีเยาวชนในพื้นที่เยอะเป็นพิเศษ เทศบาลมีหนองสิม (หนองน้ำขนาดใหญ่) บริเวณหลังหอประชุมเทศบาลตำบลที่ถูกปล่อยทิ้งรกร้าง มีผลผลิตทางการเกษตรที่โดดเด่นแซบคัก แซบแหน่ คือ 'พุทรา' มีผลิตภัณฑ์ตำบลสุดโก้อย่างผ้าไหมแพรวา
นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลโพน เพิ่นมีความคิดอยากพัฒนาพื้นที่ แต่เพิ่นก็อยากให้มีส่วนร่วมจากประชาชนเป็นผู้คึดซอย เฮ็ดซอย โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ จึงนำมาสู่ 'ก้าวหน้าซอยคึด ซาวโพนซอยกันเฮ็ด' การทำงานร่วมกันในวันนี้
เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการวันนี้ล้วนอยู่ในวัยมัธยมปลาย โจทย์ข้อเดียว คือ อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นในตำบลบ้านเกิดของตัวเอง?
'สวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยว แลนด์มาร์กโพน จุดเช็คอิน ถนนคนเดิน จุดถ่ายรูป สนามกีฬา ทำหนังโปรโมทสถานที่ ยิมเนเซียมพร้อมเครื่องออกกำลังกาย ไปจนถึงสนามแข่งรถ' นี่คือความฝันของเยาวซนซาวโพน ฝันอยากจะออกแบบบ้านเกิดตัวเองให้มีสิ่งต่างๆ ครบครัน
บ่แมนมีแต่ข้อเสนอเท่านั้นเด้อจ้า กระบวนการดำเนินต่อไปให้เยาวชนซอยกันคึด ซอยกันเบิ่งปัญหา วิเคราะห์ต่อ ว่าตำบลบ้านเกิดของเรามีปัญหาอะไร จะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร จะขอการสนับสนุนจากใครได้บ้าง ไปจนถึงต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ และในฐานะเยาวชนจะมีส่วนช่วยผลักดันให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
นำไปสู่ข้อเสนอการทำนโยบายที่สร้างสรรค์และทำให้เราได้เห็นพลังของเยาวชนที่น่าทึ่ง ที่ถูกสะท้อนออกมาจากความคิดอย่างพรั่งพรู!

เบิ่งเอาเด้อมีหยังแหน่

-ปัญหาของพุทรา ซึ่งเป็นปัญหาของเกษตรกรในตำบลโพน เยาวชนเสนอให้เทศบาลเข้ามาสนับสนุนการแปรรูปเป็นไวน์ผลไม้

-ปัญหาพื้นที่ตลาดที่ไม่มากพอในตำบล ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นแต่รายได้ลดน้อยลง เยาวชนเสนอให้สร้างถนนคนเดินเพิ่มขึ้นมา ให้มีแหล่งค้าขายและท่องเที่ยวมากขึ้น

-ปัญหาขาดพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่กีฬาอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมหรืออยู่ไกลเกินไป ไม่มีอยู่ใกล้บ้าน อยากเห็นการปรับปรุงสนามกีฬาที่ปัจจุบันเสื่อมโทรม หรือการสร้างพื้นที่สาธารณะขึ้นมาใหม่ให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น ให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

-การทำสื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ของโพนให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

สิ่งที่เสนอมาทั้งเบิ่ดนี่ สิเป็นแนวคึดเบื้องต้นเพื่อให้เทศบาลเอาสิ่งเหล่านี้ไปสานต่อ ว่าจะทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไร
สิ่งที่เราได้เห็นจากกิจกรรมวันนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเยาวชนในยุคของเราเติบโตขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่เราหลายคนยังเป็นเยาวชนอยู่ พวกเขาวิเคราะห์เป็น ใช้ความคิดเป็น ขอเพียงเราเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงมันออกมา
ธนาธร ได่คุยกับเยาวซนเมืองโพน กล่าวชื่นชมและให้แรงบันดาลใจ ตระหนักถึงพลังอำนาจของตัวเองในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้บ้านเมืองได้
“หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของบ้านเมืองที่ดี คือความกระตือรือร้นของคนหนุ่มสาวในการทำให้บ้านเมืองของตัวเองดีขึ้น เราทุกคนเป็นพลเมือง มีสิทธิเสียง ใช้ต่อรองเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อบริการสาธารณะพื้นฐาน ที่เป็นสิทธิที่ทุกคนควรจะได้”
#คณะก้าวหน้า #เทศบาลก้าวหน้า #โพน #กาฬสินธุ์

[ คณะก้าวหน้า เปิดตัว 8 นโยบาย สร้าง ‘พัทยาของทุกคน’ ]เปิด 8 นโยบาย ที่จะเป็นหมุดหมายในการ ‘สร้าง’ เมืองพัทยาที่เป็นของท...
07/04/2022

[ คณะก้าวหน้า เปิดตัว 8 นโยบาย สร้าง ‘พัทยาของทุกคน’ ]

เปิด 8 นโยบาย ที่จะเป็นหมุดหมายในการ ‘สร้าง’ เมืองพัทยาที่เป็นของทุกคน โดย กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เบอร์ 3 ได้แถลงต่อชาวพัทยาในคุณค่าและวิสัยทัศน์ หากตนได้มีโอกาสบริหารเมืองพัทยา
“ตลอดปีที่ผ่านมาการลงพื้นสำรวจปัญหาจริง เพื่อสะท้อนปัญหาของประชาชน จนนำมาสู่การคิดค้นนโยบายทั้ง 8 ด้าน ที่เชื่อมั่นว่าครอบคลุมทุกประเด็น และสามารถตอบโจทย์ชาวพัทยาได้อย่างแท้จริง”

1. สร้างเมืองที่น่าเที่ยว บ้านที่น่าอยู่

การพัฒนาเมืองที่ดีไม่ใช่เพียงการขุดถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
- ส่งเสริมให้เกิดย่านเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เชื่อมเมือง-ย่าน-ชุมชน-ขนส่งสาธารณะ
- ทำให้เป็นเมืองที่เดินได้ “ร้านค้ารายทางยิ่งโต เศรษฐกิจปากท้องยิ่งดี”
- ขนส่งสาธารณะ ราคาถูกครอบคลุมทั้งเมือง ประชาชนเข้าถึงได้ในทุกๆ 500 เมตร
2. เศรษฐกิจเมือง ออกแบบเพื่อคนทำงาน

- จัดโซนนิ่งให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วม โดยออกแบบสอดคล้องกับการใช้งานจริง "เปิดโอกาส" ให้ประกอบการได้อย่างมั่นคง "แก้ปัญหา" การรีดไถ ส่วย, สินบน จากเจ้าหน้าที่รัฐ
- ฟื้นคืนงานอีเว้นท์ระดับโลกในเมืองพัทยา
- กระตุ้นการตลาดเมือง เพิ่มงบลงทุนในหน่วยงานท่องเที่ยวของเมือง ดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
3. แก้ปัญหา น้ำท่วม-นำ้ประปา-น้ำเสีย

- ตั้งหน่วยงานระบายน้ำเฉพาะกิจ ฟื้นฟูระบบท่อ ระบบระบายน้ำให้มีมาตรฐาน ใช้เทคโนโลยี feed ข้อมูลแบบ real-time น้ำท่วมเมื่อไหรี่ เมืองต้องพร้อม 24 ชั่วโมง
- กระจายน้ำประปาให้ทั่วถึงทุกบ้าน พัฒนาแหล่งน้ำดิบเพื่อแก้ปัญหาน้ำราคาแพง, มีบริการรถน้ำฉุกเฉินเพื่อประชาชน
- ปรับปรุงโรงบำบัดน้ำเสียทั้งระบบ ป้องกันปัญหาน้ำเสียไหลลงทะเล-คูคลอง
4. คุณภาพชีวิตที่ดี ลดมลภาวะภายใน 4 ปี

- ลดปริมาณขยะที่ต้องถูกนำไปฝังกลับ-เผาทำลายลง 70% ภายใน 4 ปี โดยแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง-กลางทาง-ปลายทาง ใช้ระบบเทคโนโลยีติดตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย
- เมืองพัทยาต้องลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้ได้ 25% ภายใน 4 ปี
5. สร้างโอกาส สร้างอนาคตให้เยาวชน”

เด็กในพัทยาต้องเติบโตอย่างมีคุณภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายพ่อแม่ พัฒนาทักษะเพื่อรองรับอาชีพสำหรับอนาคต
- อาหารเช้าฟรี สำหรับเด็กทุกคนในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา
- ฟื้นฟูศูนย์พัฒนาเยาวชนทิ้งร้างภายใน 18 ปี
- บริการรถรับส่งนักเรียนทุกระดับชั้น อนุบาล-ประถม-มัธยม
- ให้สิทธิ์เรียนฟรีขั้นพื้นฐานกับลุกหลานผู้อาศัยในเมืองทุกคน
6. เมืองที่ดี ต้องมอบสุขภาพที่ดีให้ทุกคน

- เพิ่มศูนย์ฟอกไตบริการประชาชน ใช้ฟรีตามสิทธิ์
- เพิ่มศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร แบ่งเบาภาระลุกหลานวัยทำงาน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพ่อแม่วัยชรา มีกายภาพบำบัด, กิจกรรมสันทนาการ, การเข้าสังคม
- นวัตกรรมดูแลผู้ป่วยติดเตียงด้วยระบบออนไลน์ มีแพทย์ให้คำปรึกษา, แสดงข้อมูลผู้ป่วยวัดสัญญาณชีพ แบบ real-time ลดรายจ่าย ประหยัดเวลาเดินทาง
7. สร้างเมืองแห่งความหลากหลาย และความเท่าเทียม

- ยืนยันในสิทธิของกลุ่มคนประกอบอาชีพ s*x workers สนับสนุนผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)
#เมืองต้องเป็นเจ้าภาพ ในการผลักดันสิทธิ์ผ่านกฎหมายระดับชาติ
8. เมืองโปร่งใส ประชาชนตรวจสอบได้ มีส่วนร่วม

- เปิดข้อมูล ให้ประชาชนตรวจสอบ ทุกโครงการ สัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง ติดตั้งกล้อง CCTV ในทุกจุดการก่อสร้าง ถ่ายทอดสดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ
- เปิดช่องทาง ให้ประชาชนร้องเรียนที่ติดตามเรื่องได้จริง
- เปิดโอกาส ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยแนวคิด Participatory Budgeting กันงบลงทุน 10% ให้ชุมชนร่วมออกแบบโครงการที่ต้องการ ให้ประชาชนลงมติ - ผู้บริหารเมืองต้องดำเนินการ
เชิญชวนดู 8 นโยบายตัวเต็มได้ที่
https://progressivemovement.in.th/pattaya-election-22-may/
………………………………………………………..

#คณะก้าวหน้า #เลือกตั้งพัทยา #พัทยาของทุกคน

ผู้ผลิต ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่อยู่ ตึกอนาคตใหม่ เลขที่ 167 ชั้น 5 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ 10240 จำนวนที่ผลิต 1 ชิ้น ผลิตวันที่ 7 เมษายน 2565

อบต.ก้าวหน้าขยับ อบต. กำแพงแสน เริ่มระบบ "ฟองดูว์" พ่วงน้ำประปาดื่มได้ มุ่งมั่นยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชนรอบด้านตลอดทั้ง...
07/04/2022

อบต.ก้าวหน้าขยับ อบต. กำแพงแสน เริ่มระบบ "ฟองดูว์" พ่วงน้ำประปาดื่มได้ มุ่งมั่นยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชนรอบด้านตลอดทั้งปี
คณะก้าวหน้า เดินทางไปยังอบต. กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดย ธงชัย โชคดำรงสุข นายกอบต. ได้เข้าร่วมการอบรมที่จัดอบรมความรู้ เริ่มเปิดใช้งานแอพลิเคชัน “ฟองดูว์” แอพลิเคชั่นแจ้งปัญหาต่างๆ สำหรับประชาชนในพื้นที่กำแพงแสน เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ธงชัย โชคดำรงสุข ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่กำแพงแสนให้ดำรงตำแหน่งนายกอบต. ก็ได้เร่งทำตามนโยบายหลักตามเมนูนโยบายของคณะก้าวหน้าที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชนในทันที
สำหรับฟองดูว์ คณะก้าวหน้าได้เปิดตัวแอพลิเคชั่นนี้ไปเมื่อกลางปีก่อน ภายใต้ความร่วมมือกับเทศบาลในสังกัดคณะก้าวหน้า 16 แห่ง และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่และมีสถิติการใช้เพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือน ปัจจุบันความสำเร็จดังกล่าว ทำให้หลายเทศบาลและอบต. หลายแห่งเดินหน้าอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อนำฟองดูว์ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตน
ย้อนดูตัวอย่างและวิธีการใช้งานของแอพลิเคชั่นฟองดูว์ได้ที่นี่ https://fb.watch/aHtXOkVDT_/
และนอกจากการอบรมวิธีการใช้แอพลิเคชั่นฟองดูว์และเปิดตัวแอพลิเคชันดังกล่าว ยังมีการลงพื้นที่ของวิศวกรน้ำจากคณะก้าวหน้า ที่เดินทางไปตรวจสอบโรงน้ำประปา รับฟังปัญหาในขั้นแรก เพื่อเร่งดำเนินการออกแบบและวางแผนการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดตามแนวทางที่คณะกัาวหน้าเคยผลิกโฉมน้ำประปาของหลายพื้นที่ด้วยระบะเวลาหลักวันเท่านั้น ซึ่งโครงการน้ำประปาดื่มได้ที่ประสบความสำเร็จในหลายพื้นที่ ทำให้ อบต. ในสังกัดคณะก้าวหน้าที่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา เตรียมพร้อม และต้องการที่จะยกระดับคุณภาพน้ำและปรับปรุงระบบน้ำประปาให้ดีขึ้นอย่างด่วนที่สุด
นอกจากพื้นที่อบต. กำแพงแสน ที่คณะก้าวหน้าได้ไปเยือน ยังมีอีกหลายอบต. ที่เริ่มต้นทยอยเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายหลังจากได้รับการประกาศรับรองหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ ขณะที่การพัฒนางานต่างๆ ในส่วนของเทศบาลสังกัดคณะก้าวหน้า ก็เดินหน้าสานต่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ปรับปรุงปัญหาต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภค การท่องเที่ยว และด้านการศึกษา เป็นต้น
ติดตามการทำงานที่เข้มข้นมากขึ้นตลอดปี 2565
พร้อมอัพเดตทุกการทำงานและความก้าวหน้า ได้ที่นี่

[ 6 เมษา นี้: เปิด 8 นโยบาย พัทยาของทุกคน ]“เราไม่ต้องการอีกหนึ่งเมกะโปรเจ็คที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และประชาชนไม่ได้ประโ...
04/04/2022

[ 6 เมษา นี้: เปิด 8 นโยบาย พัทยาของทุกคน ]
“เราไม่ต้องการอีกหนึ่งเมกะโปรเจ็คที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เราเพียงต้องการนโยบายเมืองที่ใส่ใจประชาชนทุกกลุ่ม-ทุกเพศ-ทุกวัย เพื่อสร้างพัทยาที่เป็นของทุกคน”
8 นโยบายที่จะปรับปรุง-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง ให้บริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ชาวพัทยากลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง
ห้ามพลาด! วันพุธที่ 6 เมษายน 2565 เวลา 13.00 น. พบกันที่ชั้น 2 โรงแรมแมนดาริน อีสต์วิลล์ เมืองพัทยา
พร้อมรับชมการถ่ายทอดสด ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ คณะก้าวหน้า
มาร่วมกันเป็นสักขีพยานการแถลงนโยบายเมืองพัทยา ของ กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ว่าที่ผู้สมัครนายกเมืองพัทยาในนามคณะก้าวหน้า และ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า
พิกัด: https://goo.gl/maps/Ygjt66Ay6Yp5MXGi6
#คณะก้าวหน้า #นายกเมืองพัทยา #พัทยาของทุกคน
-----
ผลิตโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
167 คณะก้าวหน้า ตึกอนาคตใหม่ ช้ัน 5 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
ผลิตเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565
จำนวน 1 ชิ้น

01/04/2022

อีกช่วงของเวที "ผ่าทางตัน 130 ยุติรัฐราชการรวมศูนย์"
- ท้องถิ่นก้าวหน้า สังคมไทยก้าวไกล โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
- บทบาทเปลี่ยนท้องถิ่นเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน โดย เทพพร จำปานวน, กฤษดา แจ้งเศรษฐ และ พีระพงษ์ ไพรินทร์
- รัฐบาลก้าวไกล ท้องถิ่นไทยก้าวหน้า โดย วรภพ วิริยะโรจน์
- ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อยุติรัฐราชการรวมศูนย์ โดย ปิยบุตร แสงกนกกุล
ถึงเวลา "ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น" กระจายอำนาจ กระจายงาน กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร ให้กับท้องถิ่น
ขอเชิญร่วมเข้าชื่อ เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น
ลงชื่อได้ที่ : https://progressivemovement.in.th/campaign-decentralization/
#ปลดล็อกท้องถิ่น #ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ #คณะก้าวหน้า

01/04/2022

ชมไลฟ์ ช่วงแรกของเวที "ผ่าทางตัน 130 ยุติรัฐราชการรวมศูนย์"
1 เมษายน 2565 ครบรอบ 130 ปี "กำเนิดรัฐราชการรวมศูนย์" ที่รวบอำนาจเอามาไว้ส่วนกลาง สร้าง "ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์"
ปัจจุบันแม้จะปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ตกค้างจากระบอบเดิม อันเป็นโครงสร้างรัฐที่ล้าสมัย ใหญ่โต เทอะทะ อุ้ยอ้าย ทำให้การพัฒนาประเทศไทยเป็นไปอย่างยากลำบาก กลายเป็น "คนป่วยแห่งเอเชีย" ไม่เคยก้าวพ้นความเป็น "ประเทศโลกที่สาม"
ถึงเวลา "ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น" กระจายอำนาจ กระจายงาน กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร ให้กับท้องถิ่น
ขอเชิญร่วมเข้าชื่อ เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น
ลงชื่อได้ที่ : https://progressivemovement.in.th/campaign-decentralization/
#ปลดล็อกท้องถิ่น #ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ #คณะก้าวหน้า

["บ๊อบ กิตติศักดิ์" จับได้เบอร์ 3  "ธนาธร" พร้อมหนุนเต็มที่ - ทวงคืนอนาคตเมืองพัทยา]เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ที่ชาวเ...
31/03/2022

["บ๊อบ กิตติศักดิ์" จับได้เบอร์ 3 "ธนาธร" พร้อมหนุนเต็มที่ - ทวงคืนอนาคตเมืองพัทยา]
เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ที่ชาวเมืองพัทยาจะได้เลือกตั้งนายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยา
คณะก้าวหน้า ให้การสนับสนุนผู้สมัครคือ “บ๊อบ” กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย พร้อมด้วยทีมสมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่มีความมุ่งมั่นเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเมืองนี้ พลิกโฉมให้เป็นเมืองน่าอยู่และมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
สำหรับบรรยากาศการรับสมัครนายกเมืองพัทยาและสมาชิกเมืองพัทยาวันแรก เต็มไปด้วยความคึกคักคึกครื้นไม่แพ้สนามกรุงเทพมหานคร
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย “บ๊อบ” กิตติศักดิ์ นำทีมสมาชิกสภาเมืองพัทยา เดินทางมาสมัครพร้อมกับจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดย "บ๊อบ" กิตติศักดิ์ ได้หมายเลขแห่งการต่อสู้ สัญลักษณ์เพื่อความเปลี่ยนแปลงอย่าง "เบอร์ 3" พร้อมประกาศชวนชาวพัทยามาสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ออกไปใช้สิทธิกาบัตรสู่อนาคตที่ดีกว่า
เมืองพัทยาไม่มีการเลือกตั้งมาแล้วเกือบ 10 ปี นี่คือการชี้ชะตาอนาคตของเมืองนี้ในอีก 4 ปีข้างหน้า!
“บ๊อบ” กิตติศักดิ์ และสมาชิกสภาเมือง ทั้ง 24 คน ล้วนแต่เป็นผู้มีความมุ่งมั่นที่ต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งหมดเชื่อว่าประชาชนก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะ 20 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเลือกแบบเดิมจะทำให้ได้เมืองพัทยาแบบเดิม ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ขอโอกาสคณะก้าวหน้าได้ทำงาน จะตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ทวงคืนพัทยากลับมาเป็นของทุกคน
"บ๊อบ" กิตติศักดิ์ บอกว่า คณะก้าวหน้ามีชุดนโยบายที่ครบถ้วนและครอบคลุมทุกประเด็นปัญหาของเมืองพัทยา เราไม่มีเมกะโปรเจกต์ร้อยล้าน แต่เป็นนโยบายที่เรียบง่าย ที่จะฟื้นฟูเมืองและเศรษฐกิจ สร้างสวัสดิการ ให้ประชาชนกลับมาลืมตาอ้าปากได้ และเป็นเมืองพัทยาที่โปร่งใส
ทั้งนี้ การสนับสนุนจากคณะก้าวหน้า ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ามีแต่ผลดี ทำให้หลายๆ เทศบาล หลายๆ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน ประสบความสำเร็จในการผลักดันโครงการต่างๆ ที่มีประโยชน์กับประชาชนออกมา ประสบการณ์และองค์ความรู้ของคณะก้าวหน้าจากการบริหารเทศบาลและ อบต. ย่อมสามารถทำให้พัทยาพลิกโฉมได้อย่างแน่นอนภายใน 4 ปี ข้างหน้า
"ที่ผ่านมา 20 ปีเราอยู่กับทีมบริหารเก่า ปัญหาต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ การขุดเจาะต่างๆ น้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งด้วยงบประมาณของเมืองพัทยาที่มีอยู่ เราควรจะแก้ไขปัญหานี้ได้นานแล้ว ผมขอโอกาสให้เราได้เข้าไปบริหารงาน ผมเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวพัทยาก็ต้องการการเปลี่ยนแปลง วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ อำนาจอยู่ในมือของชาวพัทยาทุกคน ขอเชิญทุกคนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้มากที่สุด" กิตติศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ ธนาธร ประกาศเชิญชวนประชาชนชาวเมืองพัทยาออกมาเลือกตั้งกันให้มากๆ ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม นี้
“การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยารอบที่แล้วมีผู้ออกมาใช้สิทธิเพียง 41% เท่านั้น ผมขอเชิญชวนประชาชนชาวพัทยาทุกท่านออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ ให้สิทธิเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นตัวกำหนดอนาคตของเมืองพัทยา ให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนอง เลือกตัวแทนของทุกท่านไปบริหารพัทยาด้วยตัวเอง ผมอยากให้ทุกท่านลองติดตามการแถลงนโยบายและของผู้สมัครทุกทีมก่อนตัดสินใจ การออกมาใช้สิทธิยิ่งมากก็จะยิ่งทำให้ประชาธิปไตยของพัทยาและของประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น” ธนาธร กล่าว
ประธานคณะก้าวหน้า ยืนยันหนักแน่นว่า ถ้าคณะก้าวหน้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และตัวเองจะเข้ามาให้คำปรึกษากับกิตติศักดิ์ในการบริหาร ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด จะทำให้เมืองพัทยาเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีเศรษฐกิจที่คึกครื้นน่าอยู่น่าเที่ยวอีกครั้ง
ทีมผู้สมัครจากคณะก้าวหน้า เตรียมเปิดตัวนโบายในวันที่ 6 เมษายนนี้ หลังจากที่ผ่านการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากพื้นที่มาตั้งแต่เมื่อแล้ว
การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา จะเป็นโอกาสแรกในรอบ 10 ปีที่พี่น้องชาวเมืองพัทยาจะได้กำหนดอนาคตของตัวเอง!
#คณะก้าวหน้า #เลือกตั้งพัทยา #ยุติรัฐราชการรวมศูนย์
ผลิตโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 167 คณะก้าวหน้า
ตึกอนาคตใหม่ ช้ัน 6 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 ผลิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 จำนวน 1 ชิ้น

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Organization

Send a message to คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Organization
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your organization to be the top-listed Government Service?

Share