หนุ่ม สุทธิคุณ กองทอง

  • Home
  • หนุ่ม สุทธิคุณ กองทอง
29/06/2024
“เงินติดล้อ” จัดกิจกรรม “TIDLOR Culture Camp” เพื่อแลกเปลี่ยนการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ต่อยอดสู่การปรับใช้ได้จริงบริษัท เงิ...
28/06/2024

“เงินติดล้อ” จัดกิจกรรม “TIDLOR Culture Camp”
เพื่อแลกเปลี่ยนการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ต่อยอดสู่การปรับใช้ได้จริง

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR นำโดย นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ นำทีมงานเปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารและตัวแทนจาก 9 บริษัทชั้นนำ จำนวน 24 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม “TIDLOR Culture Camp” เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวคิด กลยุทธ์ และวิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในแบบฉบับเงินติดล้อ ผ่านการเยี่ยมชมออฟฟิศ การทำเวิร์กชอปที่เข้มข้นแบบ Step by Step เพื่อให้เข้าใจองค์ประกอบสำคัญในการสร้างค่านิยมองค์กรและวัฒนธรรมองค์กร ให้สามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรของตนเองได้จริง นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้บริหารและทีม Culture Gangster เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนสร้างการเติบโตและสร้างความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็วๆ นี้
โครงการ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ “TIDLOR Academy” จัดขึ้นสำหรับองค์กรภายนอกที่สนใจและให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ประสบการณ์ และวิธีการสร้างค่านิยมองค์กร ต่อยอดสู่แนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สามารถปรับใช้ได้จริงไปยังองค์กรต่างๆ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน สำหรับหน่วยงานผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990

รายชื่อหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรม
1. บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
2. บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
3. บริษัท ชูเกียรติ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด
4. บริษัท ชูเกียรติ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด สาขาปัตตานี
5. บริษัท ชูเกียรติ พร๊อพเพอร์ตี้ สุราษฎร์ธานี จำกัด
6. บริษัท ชูเกียรติเอสเตท จำกัด
7. บริษัท ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด
8. บริษัท ไวท์ไลน์ เอ็กซีคิวชัน จำกัด
9. บริษัท ไวท์ไลน์แอคทิเวชัน จำกัด

เมืองไทยประกันภัย จัดพิธีทำบุญครบรอบ 92 ปี การก่อตั้งบริษัทฯบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI โดย นางนวลพร...
28/06/2024

เมืองไทยประกันภัย จัดพิธีทำบุญครบรอบ 92 ปี การก่อตั้งบริษัทฯ

บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI โดย นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางยุพา ล่ำซำ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรอาหารแห้ง ถวายภัตตาหารเพล และสักการะเจ้าที่ เนื่องในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 92 ปี บริษัทฯ ในวันที่ 20 มิถุนายน เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินกิจการมาอย่างยาวนาน โดยมี นางปุณฑริกา ใบเงิน กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และนายวาสิต ล่ำซำ กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง และพนักงานเข้าร่วมพิธี

พร้อมกันนี้ นางปุณฑริกา ใบเงิน และ นายอภิธร อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการ ยังเป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดา ของพนักงาน จำนวน 30 ทุน มูลค่าทุนละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างโอกาส และต่อยอดทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และมอบรางวัล MTI LONG SERVICE AWARDS สำหรับพนักงานที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป โดยมีตัวแทนพนักงานเข้าร่วมรับมอบ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

#เมืองไทยประกันภัย #ยิ้มได้เมื่อภัยมา

ชับบ์สามัคคี ประกาศแต่งตั้งคุณสก็อทท์ คาโรว์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฎิบัติการกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยลูกค...
26/06/2024

ชับบ์สามัคคี ประกาศแต่งตั้งคุณสก็อทท์ คาโรว์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฎิบัติการกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยลูกค้ารายบุคคลและธุรกิจขนาดเล็ก
กรุงเทพฯ – 24 มิถุนายน 2567 – บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้งคุณสก็อทท์ คาโรว์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฎิบัติการกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยลูกค้ารายบุคคลและธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีผลทันที ซึ่งก่อนหน้าจะมาร่วมงานกับชับบ์ คุณสก็อทท์ เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอลเอ็มจี ประกันภัย ประเทศไทย และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ ดูแลตลาดรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย ในตำแหน่งใหม่นี้ คุณสก็อทท์จะรับผิดชอบในการพัฒนากระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างศักยภาพในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชับบ์สามัคคี สำหรับประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยธุรกิจขนาดเล็ก ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพกลุ่ม และประกันภัยที่อยู่อาศัยให้แก่พันธมิตรและลูกค้า
ในบทบาทนี้ คุณสก็อทท์จะรายงานตรงต่อคุณแอนดรูว์ นิสเบ็ท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคุณเคลลิน บูเออร์ หัวหน้าฝ่าย Consumer & Small Commercial Markets คนใหม่ใน Chubb Overseas General
คุณแอนดรูว์ นิสเบ็ท กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคุณสก็อทท์ คาโรว์ เข้าสู่ทีมชับบ์สามัคคี ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอันยาวนานในธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ทำให้คุณสก็อทท์ เป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างและนำทีมที่จะผลักดันการเติบโตและสร้างนวัตกรรมให้กับชับบ์สามัคคี การแต่งตั้งตำแหน่งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เทคโนโลยี AI การวิเคราะห์ และการนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้พันธมิตรและลูกค้าของเราได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น พวกเรารอคอยที่จะได้ร่วมงานกับคุณสก็อทท์ ในการนำเสนอโซลูชันและบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าของเราในประเทศไทย”

คุณสก็อทท์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต ปาร์ค (The Pennsylvania State University Park) และปริญญาโทบริหารธุรกิจ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University) นอกจากนี้เขายังได้รับวุฒิบัตรในด้านต่างๆ อาทิ Six Sigma Green Belt, Chartered Property and Casualty Underwriter และ Associate in Personal Insurance
คุณสก็อทท์มีประสบการณ์ในธุรกิจประกันภัยมากกว่า 17 ปี โดยอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยเป็นหลักตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

เคทีซีส่งมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้แล้ว ให้สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล แปรสภาพเป็นรายได้              นางจินดา ศรี...
26/06/2024

เคทีซีส่งมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้แล้ว ให้สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล
แปรสภาพเป็นรายได้


นางจินดา ศรีธนาบุตร (กลางขวา) ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายทรัพยากรบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ส่งมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้ว ได้แก่ โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ จอมอนิเตอร์ แบตเตอรี่ แป้นพิมพ์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้บริหาร และพนักงานร่วมใจกันบริจาคให้แก่สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล เพื่อให้สมาคมฯ นำไปรีไซเคิล หรือซ่อมแซมโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า และนำไปจำหน่ายต่อ เพื่อก่อให้เกิดเป็นรายได้ ในการจัดหาอุปกรณ์รถสามล้อโยก รถวีลแชร์ ให้คนพิการทางร่างกาย รวมทั้งเป็นทุนในการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่คนพิการทุกประเภท หรือนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือคนพิการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โดยพันตรี ศิริชัย ทรัพย์ศิริ (กลางซ้าย) นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล เป็นผู้แทนรับมอบ ณ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล จังหวัดปทุมธานี


ทั้งนี้ เคทีซีได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ และความมั่นใจของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในการขับคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance)


KTC Donates Used Electronic Equipment to Support
Association of Persons with Physical Disability International.

Mrs. Jinda Sridhanabutr (center to the right) Head of Human Resources “KTC” or Krungthai Card Public Company Limited, handed over used electronic equipment, including notebooks, mobile phones, monitors, batteries, keyboards, and other devices, which executives and employees have jointly donated to the Association of Persons with Physical Disability International. The association's team of electrical experts will recycle or repair and resell these items for extra revenue. This income will be utilized for subsidy on tricycles and wheelchairs for physically disabled people and fund consumer goods for all types of disabled individuals and support other assistance programs in line with the objectives of the Association of Persons with Physical Disability International. Major Sirichai Sapsiri (center to the left), President, Association of Persons with Physical Disability International, represented the organization to receive the award in Pathum Thani province.
KTC has continuously organized employee social activities to strengthen business stability and build stakeholder confidence. These efforts are aimed at driving the organization toward sustainable growth in accordance with ESG (Environment, Social, Governance) dimensions.

“เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์” ย้ำจุดยืน!! ดูแลสังคม ควบคู่กับทำธุรกิจลุยจัดโครงการ "สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม" ต่อเนื่องส่งอาสาสมัครสา...
26/06/2024

“เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์” ย้ำจุดยืน!! ดูแลสังคม ควบคู่กับทำธุรกิจ
ลุยจัดโครงการ "สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม" ต่อเนื่อง
ส่งอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน พร้อมมอบอุปกรณ์การแพทย์ แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองกะขะ จ.ชลบุรี

ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) (NSL) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว และเป็นผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเนื้อสัตว์เกรดพรีเมียม ซีฟู้ด และอื่นๆ โดยดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด NUTRITION SUSTAINABLE FOR LIFE มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภค โดยเริ่มจากการกิน การอยู่ที่ดี ภายใต้โครงการ CSR "สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม" ที่ได้จัดขึ้นเพื่อดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ที่เป็นที่ตั้งของกำลังการผลิตหลักของ NSL เพื่อให้เป็นไปตามแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Environment Social and Governance : ESG) และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)
ล่าสุด “นายวีระชน ขาวผ่อง” ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ นำทีมพนักงานบริษัทฯร่วมเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนในการตรวจสุขภาพและให้บริการประชาชนที่ “คลินิกเด็กสุขภาพดี” ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) หนองกะขะ จังหวัดชลบุรี พร้อมกันนี้ยังได้มอบอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงสนับสนุนผลิตภัณฑ์และน้ำดื่มคุณภาพจาก NSL ให้แก่ผู้มาเข้ารับบริการ อีกทั้งยังได้จัดทีมงานในการช่วยทาสีทำนุบำรุงปรับปรุงสถานที่ด้วย โดยมี นางสาวกนกวรรณ สมประสงค์ ผู้อำนวยการรพสต. หนองกะขะ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
โดย “นายวีระชน ขาวผ่อง” กล่าวว่า “อย่างที่ได้เน้นย้ำมาเสมอว่าหัวใจหลักของ NSL คือ NUTRITION SUSTAINABLE FOR LIFE เราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม จึงได้จัดโครงการ “สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม” ขึ้นมา เพราะมองว่าความยั่งยืนนั้นควรจะประกอบไปด้วยทั้งทางกาย พัฒนาการใดๆ และสุขภาพใจ ซึ่งครั้งที่แล้วเรามุ่งไปที่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ทานของที่ดี จึงไปทำแปลงผัก ปลูกผัก ที่โรงเรียนวัดหนองกาน้ำ เพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้จักการสร้าง การปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว การนำมาประกอบอาหาร กระบวนการทั้งหมดคือความยั่งยืน ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีต่อชีวิต ส่วนครั้งนี้เราก็มุ่งไปที่การดูแลสุขภาพ เรื่องของพัฒนาการเพื่อการเติบโตอย่างมีสุขภาพที่ดี โดยเริ่มตั้งแต่เด็กเล็กเป็นต้นไป จึงเลือกมาที่ รพสต.หนองกะขะ ซึ่งเป็นชุมชนโดยรอบของที่ตั้งโรงงานของเรา จึงได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่ามีอะไรที่ยังขาด หรือต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง เราก็นำสิ่งของเหล่านั้นมาช่วย สนับสนุนด้วยมองว่าอุปกรณ์การแพทย์นั้นสำคัญ เพราะการมีอุปกรณ์ที่พร้อมและเพียงพอนั้น สามารถช่วยให้คุณหมอหรือเจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ NSL ยังถือโอกาสนำพนักงานของเรามาเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนให้ด้วย เพราะบางครั้งเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการไม่เพียงพอ อย่างในครั้งที่มีการตรวจสุขภาพเด็ก หรือฉีดวัคซีนเด็กๆ เจ้าหน้าที่อาจจะไม่เพียงพอต่อการให้บริการ เราก็เลยอาสามาช่วยอีกแรงหนึ่ง และก็อย่างที่บอกว่าพื้นที่นี้เป็นชุมชนโดยรอบโรงงานของเรา ก็เลยจะมีน้องๆ พนักงานที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ด้วย การที่เป็นลูกหลานที่เติบโตที่นี่แล้วได้มาเป็นอาสาสมัครในวันนี้ ก็เท่ากับว่าเขาช่วยงานของบริษัทด้วยและได้ช่วยชุมชนไปด้วย และทำให้มีสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชุมชน และเชื่อมโยงไปถึงตัวชุมชนเองก็จะรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับองค์กรของเราไปในตัว เพราะพี่น้องประชาชนที่อาศัยโดยรอบโรงงานเราเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันกับเรา ก็อยากจะดูแลให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เราวางแผนที่จะทำอย่างต่อเนื่อง และผลัดเปลี่ยนไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอครับ”

เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ คณะผู้บริหารและพนักงานจาก CPF IT CENTER ร่วมกิจกรรม TIDLOR Culture Wow บริษัท เงินติดล้อ จำกั...
25/06/2024

เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ คณะผู้บริหารและพนักงานจาก CPF IT CENTER
ร่วมกิจกรรม TIDLOR Culture Wow

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ เป็นตัวแทนชาวเงินติดล้อต้อนรับคณะผู้บริหารและพนักงานจาก บริษัท ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด จำนวน 31 ท่าน ร่วมกิจกรรม TIDLOR Culture Wow เพื่อบอกเล่า แนะนำ และแลกเปลี่ยนแนวทางการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ยังได้มีการเยี่ยมชมกระบวนการทำงานของฝ่ายต่างๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศการทำงานแบบ Work Smart และยังร่วมถาม-ตอบ (Q&A) อย่างใกล้ชิดกับผู้บริหารและทีม Culture Gangster เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไปยังองค์กรต่างๆ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ บมจ.เงินติดล้อ ในปัจจุบัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแก่หน่วยงานอื่นๆ ต่อไป กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์กชอปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990

21/12/2023

รายการพระเครื่องคู่ใจคนดัง EP. นี้ เราจะพาคุณผู้ชมไปพบกับ นักร้องดัง"สดใส รุ่งโพธิ์ทอง" เจ้าของบทเพลงรักน้อ....

เศรษฐกิจโลกมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สหรัฐและยุโรปจะปรับลดดอกเบี้ยในปี 2567 ขณะที่จีนยังไม่เร่งรีบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติ...
19/12/2023

เศรษฐกิจโลก
มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สหรัฐและยุโรปจะปรับลดดอกเบี้ยในปี 2567 ขณะที่จีนยังไม่เร่งรีบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

สหรัฐ**เฟดส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มโอกาสเกิด soft-landing ในปีหน้า ในเดือนพฤศจิกายน เงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงสู่ 3.1% YoY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.0% ขณะที่เงินเฟ้อผู้ผลิตทั่วไปชะลอลงสู่ 0.9% ส่วนเงินเฟ้อผู้ผลิตพื้นฐานชะลอลงสู่ 2.0% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกขยายตัว 4.09% จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.24% ผลการประชุมนโยบายการเงิน เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% พร้อมส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง รวม 0.75% ในปี 2567 และปรับลดอีก 4 ครั้ง รวม 1.00% ในปี 2568 ขณะที่คาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2566 ถูกปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.6% จากเดิมที่ 2.1% และคาดว่าจะขยายตัว 1.4% และ 1.8% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ส่วนคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2566 ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 3.2% จากเดิมคาดที่ 3.7% และคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% และ 2.2% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ

การส่งสัญญาณยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นและเพิ่มจำนวนครั้งของการปรับลดดอกเบี้ยลงในปีหน้า (จาก 2 ครั้ง เป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25%) ภายใต้การคาดการณ์เงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ลดลง (แต่ไม่ถึงขั้นถดถอยแรง) เป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแบบ soft-landing ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และสงครามที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานจะมีความเสี่ยงที่น้อยลง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับผลกระทบจากนโยบายการเงินแบบเข้มงวดที่จะทยอยเพิ่มมากขึ้น (lagged effect) ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า

ยูโรโซน**คาด ECB เริ่มปรับลดดอกเบี้ยก่อน FED จากภาพรวมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของยูโรโซนที่มีแนวโน้มชะลอลงแรงกว่าสหรัฐ ในเดือนธันวาคม ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและการบริการ หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 อยู่ที่ 47.0 โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 44.2 และดัชนี PMI ภาคการบริการอยู่ที่ 48.1 นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.00% ตามคาด พร้อมปรับลดคาดการณ์ GDP ในปี 2566 และ 2567 ลงสู่ระดับ 0.6% และ 0.8% จากเดิมที่ 0.7% และ 1.0% ตามลำดับ ขณะที่คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2566 และ 2567 ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 5.4% และ 2.7% จากเดิมที่ 5.6% และ 3.2% ตามลำดับ

ตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงบ่งชี้โอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 4 จาก (i) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ii) ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการอยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่อง (iii) ยอดค้าปลีกที่หดตัวแรงขึ้นในไตรมาส 3 และ (iv) การส่งออกที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจคู่ค้า จากการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดแม้ว่าECB ยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า แต่วิจัยกรุงศรีประเมินว่า ECB จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงภายในไตรมาส 2/67 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในไตรมาส 3/67 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของยูโรโซนที่มีทิศทางชะลอลงแรงกว่าสหรัฐและมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้จนถึงไตรมาส 1/67
จีน**ภาคการผลิตและการบริโภคในจีนกระเตื้องขึ้น แต่การว่างงานทรงตัวและภาคอสังหาริมทรัพย์ยังกดดันภาพรวมเศรษฐกิจ โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโตดีขึ้นจาก 4.6% YoY ในเดือนตุลาคม เป็น 6.6% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งดีกว่าตลาดคาดและขยายตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ด้านยอดค้าปลีก แม้เติบโตดีขึ้นจาก 7.6% เป็น 10.1% แต่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ส่วนอัตราการว่างงานในเขตเมืองทรงตัวที่ 5% สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 11 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 2.9% ซี่งเท่ากับการเติบโตในช่วง 10 เดือนแรก

การเติบโตของจีนมีสัญญาณกระเตื้องในภาคการผลิตและการบริโภค ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการพยุงเศรษฐกิจและฐานที่ต่ำในปีก่อนซึ่งเป็นช่วงที่มีการล็อคดาวน์หรือมาตรการสกัดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา โดยราคาบ้านใหม่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ที่ -0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลงมากสุดในรอบ 7 เดือนที่ -0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำหรับการประชุมกรอบงานด้านเศรษฐกิจประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลระบุว่าในปี 2567 จะให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายด้านอุตสาหกรรมเป็นอันดับแรก เนื่องจากต้องการผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วนการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ กลายเป็นเป้าหมายอันดับสอง จากที่เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในปี 2566 ทั้งนี้ แม้การเติบโตของจีนอาจกระเตื้องขึ้นจนถึงช่วงต้นปีหน้า แต่ทางการจีนยังไม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เมื่อประกอบกับผลบวกจากการเปิดประเทศที่ทยอยลดลง ความซบเซาในภาคอสังหาริมทรัพย์และปัญหาเชิงโครงสร้าง คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะชะลอลงในปี 2567

เศรษฐกิจไทย
การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ขณะที่รัฐบาลแถลงแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ในระบบ วิจัยกรุงศรีคาดการบริโภคยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแม้จะชะลอลงในปี 2567

ค่าจ้างขั้นต่ำยังอยู่ในระหว่างปรับทบทวน ทางการคาดจะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้ หลังจากคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ มีมติเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ 2 – 16 บาท หรือ เพิ่มขึ้นเป็น 330 -370 บาท จากอัตราปัจจุบันที่ 328 – 354 บาท โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 16 บาท คือ ภูเก็ต (จาก 354 เป็น 370 บาท) ส่วนชลบุรีและระยอง เพิ่มขึ้น 7 บาท (จาก 354 บาท เป็น 361 บาท) ด้านกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มขึ้น 10 บาท (จาก 353 บาท เป็น 363 บาท) และจังหวัดที่ขึ้นค่าจ้างน้อยสุด 2 บาท ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รมว.แรงงานระบุนำกลับไปทบทวนก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันในเดือนมกราคมปี 2567

เบื้องต้นจากมติการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ จะทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นจาก 337 บาทต่อวัน เป็น 345 บาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 2.37% ซึ่งทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ประเมินว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นประมาณ 0.13-0.25% โดยสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากสุด ได้แก่ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป ข้าว การสื่อสาร ผักสด และผลไม้สด เนื่องจากมีสัดส่วนน้ำหนักค่อนข้างสูงในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ และเกี่ยวข้องกับภาคการผลิตที่ใช้แรงงานค่อนข้างเข้มข้น สำหรับการทบทวนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ คาดว่าอาจมีการพิจารณาปรับในส่วนของขอบล่างที่ขึ้นเพียง 2 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ในปัจจุบันแรงงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำมีสัดส่วนเพียง 15% ของแรงงานทั้งหมด ต่ำกว่าในช่วงปี 2555 ที่มีสัดส่วนราว 25% ดังนั้น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำคาดว่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนและเงินเฟ้อน้อยกว่าในอดีตที่ผ่านมา

แนวทางแก้ไขหนี้ในระบบจำแนกตามกลุ่มลูกหนี้ เป้าหมายช่วยเหลือลูกหนี้ราว 10 ล้านราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงแนวทางในการจัดการกับหนี้ในระบบที่ประสบปัญหา เตรียมแนวทางช่วยเหลือที่แตกต่างกันตามสาเหตุของปัญหา โดยจำแนกลูกหนี้ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (2) กลุ่มที่มีรายได้ประจำแต่มีภาระหนี้จำนวนมาก จนเกินศักยภาพในการชำระคืนหนี้ (3) กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง และ (4) กลุ่มที่เป็นหนี้เสียคงค้างเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ สำหรับแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ในแต่ละกลุ่ม สรุปได้ดังตาราง

จากระดับหนี้ครัวเรือนของไทยในปัจจุบันที่มากกว่า 16 ล้านล้านบาท หรือมีสัดส่วนสูงกว่า 90% ของ GDP ซึ่งถือเป็นระดับสูงอันดับต้นๆ ของโลก โดยจากข้อมูลธปท.ระบุหนี้ครัวเรือนไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ ปัญหาหนี้ครัวเรือน จึงอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในระยะข้างหน้า หากไม่ได้รับการแก้ไข รัฐบาลจึงมีการยกระดับการแก้ไขหนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนกว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมอาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แนวโน้มการเติบโตของการบริโภคภาคครัวเรือนจึงอาจมีข้อจำกัด วิจัยกรุงศรีคาดการบริโภคภาคเอกชนในปี 2567 จะขยายตัว 3.3% ชะลอลงจาก 7.1% ในปี 2566 ส่วนหนึ่งสะท้อนผลบวกที่ลดลงทั้งจากการเปิดประเทศและแรงส่งจาก Pent-up demand ในช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนยังมีแนวโน้มขยายตัวและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ เนื่องจากการจ้างงานเพิ่มขึ้นและมีแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ เช่น E-Receipt ในช่วงต้นปี 2567 และมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพ เป็นต้น

กูรูหุ้นประเมิน PTG ปั๊มกำไร Q4 แตะ 500 ลบ. รับอานิสงส์ยอดขายน้ำมันเพิ่ม - Non Oil หนุนเชียร์ “ซื้อ”อัพราคาเป้าหมาย 11.5...
19/12/2023

กูรูหุ้นประเมิน PTG ปั๊มกำไร Q4 แตะ 500 ลบ.
รับอานิสงส์ยอดขายน้ำมันเพิ่ม - Non Oil หนุน
เชียร์ “ซื้อ”อัพราคาเป้าหมาย 11.50 บ./หุ้น

กูรูหุ้นจาก บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิปี 66 พุ่งแตะ 994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 คาดสูงกว่า 500 ล้านบาท รับแรงหนุนจากปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจ Non-Oil ขณะที่กำไรปี 67 ประมาณการไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% อัพราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11.50 บาท จากเดิม 10.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ โดยประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 ของหุ้นบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ไว้ที่ 994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 จะสูงกว่า 500 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิ 4 ล้านบาทในไตรมาส 4/2565 และกำไรสุทธิ 19 ล้านบาทในไตรมาส 3/2566 ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นคาดการณ์มาจากปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,550 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงค่าการตลาดน้ำมันที่เพิ่มเป็น 1.90 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 20% จากกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 14% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังคาดว่ากำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพราะยอดขายร้าน Max Mart และร้านกาแฟพันธุ์ไทยสูงขึ้นตามจำนวนรถที่มาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันแบรนด์ PTG ในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 ไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยใช้สมมุติฐานว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 6% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 6,300 ล้านลิตรในปีหน้า จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 16% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 32 ล้านคน จาก 27.5 ล้านคนในปี 2566
อีกทั้งยังคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันปีหน้าจะอยู่ที่ 1.70 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นขอบล่างของระดับปกติ (1.70-1.80 บาท/ลิตร) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงในปีหน้าเผชิญแรงกดดันน้อยลงจากการคุมเข้มค่าการตลาดน้ำมันเบนซินในไทย ถึงแม้ว่ารมว.พลังงานจะเร่งศึกษาและแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุมค่าการตลาดน้ำมันทุกประเภทไม่ให้เกิน 2.00 บาท/ลิตร แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงจาก US$93/bbl ในเดือนกันยายน เป็น US$ 75/bbl ในปัจจุบันจะช่วยลดแรงกดดันจากการคุมเข้มค่าการตลาดน้ำมันเบนซินของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในไทย เพราะราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลดลงมากหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบลดลง อีกทั้งกระบวนการศึกษาและแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องใช้เวลายาวนาน
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงปรับราคาเป้าหมายปี 2567 ไว้ที่ 11.50 บาท จากเดิม 10.40 บาท เพื่อสะท้อนถึงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรปี 2567 ที่ 34% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2566 และเผชิญแรงกดดันน้อยลงจากการคุมเข้มค่าการตลาดน้ำมันเบนซินในไทย หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงในไตรมาสนี้

กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมมือธนาคารกรุงไทย สนับสนุนให้คนไทยบริหารเงินอย่างชาญฉลาด ส่งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดชีพ “เ...
15/12/2023

กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมมือธนาคารกรุงไทย
สนับสนุนให้คนไทยบริหารเงินอย่างชาญฉลาด
ส่งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดชีพ “เวลท์เรดดี้ 99/5”
เอกสิทธิ์สู่ความมั่งคั่ง พร้อมวางแผนการส่งต่อมรดกจากรุ่นสู่รุ่น

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมมือกับ บมจ. ธนาคารกรุงไทย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ “เวลท์เรดดี้ 99/5 (WealthReady 99/5”) ออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ซึ่งแบบประกันชีวิตตลอดชีพ ที่เน้นผลประโยชน์ครอบคลุมทั้งด้านความคุ้มครองชีวิต และสะสมทรัพย์ โดยชำระเบี้ยประกันภัยสั้น เพียง 5 ปี ได้รับความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี การันตีเงินคืนทุกปี ซึ่งมีความโดดเด่นในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ที่ต้องการบริหารจัดการสินทรัพย์พร้อมทั้งสร้างแผนการส่งต่อความมั่งคั่งอย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นดูแลกันตลอดไป
ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดชีพ “เวลท์เรดดี้ 99/5 (WealthReady 99/5)” เป็นแบบประกันสำหรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งต่อมรดกให้กับคนที่รักเพื่อสร้างความมั่งคั่งพร้อมสานทุกความฝันของครอบครัวให้เป็นจริง รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการวางแผนทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ยามเกษียณ ที่ได้รับเงินคืนทุกปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งยกระดับเป้าหมายทางการเงินให้เป็นจริง กับการวางแผนทางการเงินที่ชาญฉลาด
โดยผลิตภัณฑ์ประกันประกันชีวิตตลอดชีพ “เวลท์เรดดี้ 99/5 (WealthReady 99/5)” มีจุดเด่นดังนี้
• ชำระเบี้ยฯ สั้นเพียง 5 ปี ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
• การันตีรับเงินคืนทุกปีสูงสุด 5%* พร้อมเงินก้อนเมื่อครบสัญญาอีก 500%*
• หลักประกันความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 500%* และสูงสุด 1000%* กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
• ให้แผนที่คุณวางไว้ไม่สะดุดกับผลประโยชน์ยกเว้นการชำระเบี้ย เมื่อตกเป็นบุคคลทุพพลภาพ
• สมัครง่ายไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสุขภาพ
สำหรับลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดชีพ “เวลท์เรดดี้ 99/5 (WealthReady 99/5)” สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แล้ววันนี้ ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และ https://www.krungthai-axa.co.th/

หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

เมืองไทยประกันชีวิต ดึง “เบลล่า” เปิดตัวแคมเปญ “คุ้มครองคุ้มเวอร์”ส่งมอบความอุ่นใจด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย-โรคร้าย...
07/12/2023

เมืองไทยประกันชีวิต ดึง “เบลล่า” เปิดตัวแคมเปญ “คุ้มครองคุ้มเวอร์”

ส่งมอบความอุ่นใจด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย-โรคร้ายแรง

พร้อมดูแลเคียงข้างออเจ้า นานสูงสุดถึงอายุ 99 ปี



เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ดึง “เบลล่า” ราณี แคมเปน เป็นพรีเซ็นเตอร์ เปิดตัวแคมเปญและโฆษณาชุด “คุ้มครองคุ้มเวอร์” ชูความอุ่นใจด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย-โรคร้ายแรง เลือกวงเงินความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้สูงสุด 90 ปี ดูแลคุณสูงสุดถึงอายุ 99 ปี ตอบโจทย์ทุกความต้องการในแบบที่เป็นคุณ



นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต ตอกย้ำนโยบายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต ในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิต ให้กับทุกคน



ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวแคมเปญ “คุ้มครองคุ้มเวอร์” พร้อมโฆษณาชุดใหม่ โดยดึง “เบลล่า” ราณี แคมเปน เป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมสร้างสีสันและความสุขให้แก่ผู้ชมในบทบาทคุณหญิงการะเกดและแม่พุดตาน โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้เกาะติดกระแสพรหมลิขิตฟีเวอร์ เรื่องราวสื่อสารถึงคุณหญิงการะเกด แม่พุดตาน และบรรดาบ่าวๆ มาร่วมกันดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะภพชาติใด เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย โรคระบาด หรืออุบัติเหตุก็ห้ามกันไม่ได้ มีประกันชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพไว้ก็อุ่นใจ ทั้ง ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ให้การดูแลครอบคลุมทั้งโรคมะเร็ง โรคไต โรคหัวใจ โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกวงเงินความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาทสมัครได้สูงสุด 90 ปี ดูแลคุณสูงสุดถึงอายุ 99 ปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ รวมไปถึง ประกันโรคร้ายแรง ซื้อเพิ่มได้ เจอโรคร้ายก็จ่ายไหว ตรวจเจอรับเงินก้อนไปรักษาพยาบาล



พร้อมมอบความอุ่นใจ เลือกความคุ้มครองได้ในแบบที่เป็นคุณ ไม่ว่าจะเป็น สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) สามารถเลือกวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง 1-5 ล้านบาทต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ คุ้มครองตอนแอดมิต รวมถึงการรักษาฟื้นฟูต่อเนื่องกรณีผู้ป่วยนอก ทั้งค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน ค่าห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U) ค่าหมอ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด ค่ากายภาพบำบัด อีกทั้งจะผ่าตัดเล็กหรือใหญ่ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนอนก็คุ้มครอง และสามารถเลือกพลัสความคุ้มครองเพิ่มได้ตามความต้องการ



สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบอีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) ความคุ้มครองสุขภาพอย่างเหนือระดับ สามารถเลือกวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงถึง 20 -100 ล้านบาทต่อปี คุ้มครองทั้ง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ ครอบคลุมการรักษาทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ที่คุ้มครองห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล และห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) เหมาจ่ายตามจริงรวมสูงสุด 365 วัน หรือถ้านอนห้องเดี่ยวพิเศษ คุ้มครอง 10,000 -25,000 บาทต่อวัน และการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ตามแผนความคุ้มครองที่ลูกค้าเลือก รวมถึงการฟอกไต การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการเคมีบำบัด และแบบ Targeted Therapy รวมถึงการรักษาแบบนวัตกรรมใหม่ Immunotherapy ให้คุณมั่นใจในการเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การวินิจฉัยโรคแบบ CT Scan และ MRI โดยไม่ต้องแอดมิต นอกจากนี้ยังสามารถเลือกประเทศที่ต้องการรักษาได้ และสามารถเลือกพลัสความคุ้มครองเพิ่มได้ตามความต้องการ



โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า (เหมาจ่าย Extra) จ่ายเบี้ยประกันภัยน้อย แต่รับความคุ้มครองเต็มที่ ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ สามารถเลือกวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง 2-5 แสนบาทต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง หมดกังวลถ้าต้องแอดมิต ด้วยความคุ้มครองค่าห้องสูงสุด 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล แม้จะเพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือไม่มีสวัสดิการก็อุ่นใจ



ทั้งนี้ ดี เฮลท์ พลัส , อีลิท เฮลท์ พลัส และเหมาจ่าย Extra สมัครได้ตั้งแต่อายุ 11 ปี – 90 ปี คุ้มครองยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี เบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(2)



สัญญาเพิ่มเติม ซีไอ เพอร์เฟค แคร์ (CI Perfect Care) โดดเด่นด้วยความคุ้มครองที่ดูแลคุณอย่างต่อเนื่องหากป่วยเป็นโรคร้ายแรง ครอบคลุม 36 โรคร้าย ทั้งโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น ทุกระยะ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ระยะกลาง หรือระยะรุนแรง พร้อมรับเงินก้อนหากตรวจพบโรค และรับเพิ่มเมื่อเกิดโรคแทรกซ้อน เบาหวาน หรือผ่าตัดขยายหลอดเลือดแดงหัวใจ ดูแลคุณอย่างต่อเนื่องด้วยความคุ้มครองโรคร้ายที่มั่นใจได้ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน – 65 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี เบี้ยประกันภัยบางส่วนยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(2)



โดยทุกท่านสามารถติดตามโฆษณา “คุ้มครองคุ้มเวอร์” จากเมืองไทยประกันชีวิต ได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ www.muangthai.co.th YouTube, Facebook, Instagram, X, LINE Official Account และ TikTok



สำหรับผู้ที่สนใจประกันสุขภาพเหมาจ่าย และประกันโรคร้ายแรงจากเมืองไทยประกันชีวิต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.muangthai.co.th หรือโทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อตัวแทนจากเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ



สามารถรับชมโฆษณา “คุ้มครองคุ้มเวอร์” ได้ที่ :
https://www.youtube.com/watch?v=wVghee6vkP0&t=1s

หมายเหตุ : .

(1) กรณีเลือก โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า (เหมาจ่าย Extra) แผนความคุ้มครอง 3

(2) เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด

- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

- โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N)

- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส, อีลิท เฮลท์ พลัส, เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N) และสัญญาเพิ่มเติม ซีไอ เพอร์เฟค แคร์ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่ ที่มีผลบังคับอยู่

- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย

- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ

คำเตือน : ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง



ขอความอนุเคราะห์ในการติดแฮชแท็ก (Hashtag) #
#ประกันสุขภาพคุ้มครองคุ้มเว่อร์ #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย #ประกันโรคร้ายแรง #เลือกความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายเลือกเมืองไทยประกันชีวิต #เลือกประกันโรคร้ายแรงเลือกเมืองไทยประกันชีวิต #เข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ #เมืองไทยประกันชีวิต #เบลล่าราณี #พรหมลิขิต #จักรวาลพรหมลิขิต

Address


Website

https://plus.google.com/u/0/101086673561346240962/posts

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when หนุ่ม สุทธิคุณ กองทอง posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Organization

Send a message to หนุ่ม สุทธิคุณ กองทอง:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Organization
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your organization to be the top-listed Government Service?

Share