08/05/2025
🚛🏭🚩 อธิบดีกรมโรงงานฯ สั่งทลาย “สยาม บาน เล็กฯ” พบ #ซุกกากอันตราย ในโรงงานพระนครศรีอยุธยา กว่า 200,000 กิโลกรัม
นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อโรงงาน เพื่อป้องกันปัญหาการจัดการของเสียอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สอจ.พระนครศรีอยุธยา) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) บุกเข้าตรวจสอบโรงงานของ บริษัท สยาม บาน เล็ก สแคร็ป ไอเอิน จำกัด ตำบลบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา #หลังพบพิรุธการลักลอบขนส่งของเสียอันตรายในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรวจพบรถบรรทุกเศษวัสดุและของเสียจำนวนมาก ที่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 หมวดบัญชี 5.2 ว่าด้วยของเสียเคมีวัตถุ โดยรถบรรทุกดังกล่าวมาจากบริษัทฯ ข้างต้น และไม่มีใบอนุญาตแบบ วอ.8 สำหรับการครอบครองวัตถุอันตรายเพื่อการขนส่ง
❌⚠️ บริษัท สยาม บาน เล็ก สแคร็ป ไอเอิน จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นโรงงานประเภท 105 มีเนื้อที่อาคารโรงงาน 1,000 ตารางเมตร และเนื้อที่บริเวณโรงงาน (รวมอาคาร) 8,128 ตารางเมตร ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย โดยจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง #พบการกระทำผิดเงื่อนไขการประกอบกิจการหลายข้อหา ดังนี้
🔸 1. กองเก็บวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และกากของเสียจากการผลิตไว้ #ภายนอกอาคารโรงงาน
🔸 2. #ขยายการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตรวจพบการคัดแยกวัตถุดิบที่เป็นเศษยางและเศษพลาสติก มีการใช้กำลังเครื่องจักรเพิ่มขึ้นจากเดิม 138 แรงม้า อีกทั้งนำเศษสายไฟมาปอกเปลือกที่บริเวณหน้าโรงงานซึ่งเป็นการประกอบกิจการภายนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
🔸 3. #ประกอบกิจการโรงงานเข้าข่ายโรงงานประเภท106 โดยตรวจพบการบดย่อยและร่อนแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วภายในพื้นที่อาคารโรงงาน เพื่อนำโลหะกลับมาใช้ใหม่ #เป็นการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตรวจพบการใช้กำลังเครื่องจักร 536.12 แรงม้า พฤติกรรมทั้ง 2 ข้อหา ต้องระวางโทษแต่ละข้อหาจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
🔸 4. #ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 โดยตรวจพบการเก็บกากอุตสาหกรรมไว้ในถุง Big Bag และถัง IBC บริเวณด้านหลังพื้นที่โรงงาน ประมาณ 86 ตัน อาทิ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ และถังน้ำมันปนเปื้อน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
🚧🚨 เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ สอจ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 #ยึดอายัดวัสดุสิ่งของ ประกอบด้วย
🔰 1) เครื่องจักรที่ใช้ประกอบกิจการโรงงานประเภท 106 กำลังเครื่องจักรรวม 536.12 แรงม้า และ
🔰 2) กองกากอุตสาหกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารโรงงาน รวมถึงเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ ถังน้ำมันปนเปื้อน ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน รวม 256 ตัน
เพื่อรวบรวมเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีตามความผิด ทั้งนี้ สอจ.พระนครศรีอยุธยา จะออกคำสั่งให้บริษัทฯ ขนย้ายของกลางที่ถูกอายัดไว้ที่จังหวัดปทุมธานีให้นำกลับมาเก็บรักษาที่บริษัทฯ รวมถึงคำสั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนทั้งหมด ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะพิจารณาระงับการรับกากอุตสาหกรรมเข้าไปจัดการภายในบริษัทฯ พร้อมเก็บตัวอย่างสิ่งของที่พบภายในโรงงานเพิ่มเติม เพื่อนำไปตรวจ วัด วิเคราะห์ และจะแจ้งผลการตรวจสอบให้ สอจ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #กระทรวงอุตสาหกรรม ุตสาหกรรมไทย ิ่งแวดล้อม #โรงงานรีไซเคิล #พระนครศรีอยุธยา