ความคิดเห็น
กระทรวงอุตสาหกรรมมอบของขวัญปีใหม่ !!!
ดีเดย์ 1 ม.ค. 65
ติด QR-Code หน้าโรงงาน
กระทรวงอุตสาหกรรม มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน สามารถเข้าถึงข้อมูลการประกอบกิจการโรงงาน และสามารถแจ้งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ง่ายเพียงสแกน QR Code ที่ติดไว้หน้าโรงงาน เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 1 ม.ค. 65
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งใจมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยได้ลงนามในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง “ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโรงงานแสดงข้อมูลเบื้องต้นโดยการติดตั้ง QR Code ที่หน้าโรงงาน” เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตรการสร้างเครือข่ายประชาชน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโรงงานในการติด QR Code ที่หน้าโรงงาน เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลการประกอบกิจการโรงงาน และเป็นช่องทางที่ช่วยให้ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ โดยผู้ประกอบกิจการโรงงานสามารถจัดทำ QR Code ผ่านระบบแอปพลิเคชันของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและติดที่หน้าโรงงาน เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโรงงานเปิดเผยข้อมูลการประกอบกิจการโรงงานซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะให้ประชาชนรับทราบโดยการติด QR Code ที่หน้าโรงงาน เป็นการเพิ่มความโปร่งใสในการประกอบกิจการธุรกิจอุตสาหกรรม เพิ่มช่องทางการให้ข้อมูลของโรงงาน ข่าวสารต่าง ๆ และสามารถรับทราบข้อมูลจากภาคประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน
นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้ประกอบกิจการโรงงานสามารถดำเนินการจัดพิมพ์ QR Code โรงงานของตนเองผ่านระบบแอปพลิเคชันของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีขั้นตอนการใช้งาน ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว เพียงระบุเลขทะเบียนโรงงานก็สามารถพิมพ์ QR Code ของโรงงาน โดย QR Code มี 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด A4 และ A3 นอกจากนี้ผู้ประกอบกิจการโรงงานสามารถเพิ่มข้อมูลข่าวสาร หรือประกาศนียบัตรและรางวัลต่างๆ ที่ได้รับเพื่อให้ประชาชนรับทราบ ในส่วนของประชาชนเมื่อสแกน QR Code แล้วจะปรากฏข้อมูลเบื้องต้นของโรงงาน ได้แก่ ชื่อโรงงาน ที่ตั้ง เลขทะเบียนโรงงาน 14 หลัก วันที่ได้รับอนุญาต ประเภทการประกอบกิจการ กำลังแรงม้าเครื่องจักร จำนวนคนงาน
ชื่อเจ้าของโรงงาน หน่วยงานกำกับดูแล ข้อมูลข่าวสาร หรือประกาศนียบัตรและรางวัลที่ได้รับ โดยเป็นการสื่อสารสองทางคือ ประชาชนรับทราบข้อมูลของโรงงาน และสามารถแจ้งข้อมูลผ่านช่องทาง QR Code ที่ติดอยู่
หน้าโรงงานได้ โดยข้อมูลที่ประชาชนแจ้งจะส่งเข้าสู่ระบบ
ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่และโรงงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรมโรงงานอุตสาหกรรมขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดให้โรงงานต้องติดตั้งเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณ์พิเศษ เพื่อรายงานมลพิษอากาศจากปล่องโรงงาน พ.ศ. …. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2565
📍ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น :
http://php.diw.go.th/rubfung/show.php
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าร่วมการประชุมคณะอนุทำงานขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้อง 507 ชั้น 5 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม
การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณา
1. การรายงานความคืบหน้าประเด็นปฏิรูปโครงการ Big Rock
2. การรายงานความคืบหน้าในการขับเคลื่อนประเด็นปฏิรูปด้านพลังงานทดแทน
3. การรายงานความคืบหน้าในการขับเคลื่อนประเด็นปฏิรูปด้านอนุรักษ์พลังงาน
4. การขอปรับปรุงรายละเอียดแผนและ Action Plan ประเด็นการปฏิรูปด้านพลังงานทดแทน
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลา 08.00 น. นายธนกูล แสงสว่าง ผู้อำนวยการกลุ่มจดทะเบียนและนิติกรรมเครื่องจักร 1 สำนักงานทะเบียนเครื่องจักรกลาง นำข้าราชการกรมโรงงานอุตสาหกรรม วางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นการน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมชี้แจงการพัฒนาระบบบูรณาการการทำงานระหว่าง กรอ. และ สอจ. ครั้งที่ 5 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้บริหาร อุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม อก.1 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการชี้แจงประกอบด้วย
1. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง “ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโรงงานแสดงข้อมูลเบื้องต้นโดยการติดตั้ง QR Code ที่หน้าโรงงาน”
2. มาตรฐานข้อมูลสถิติภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง
3. การส่งมอบคู่มือการปฏิบัติงานในภารกิจตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4. การอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี
5. การดำเนินการด้านกากอุตสาหกรรม
6. การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร
ในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในเรื่องการติดตั้ง QR Code หน้าโรงงานนั้น เป็นการเปิดเผยข้อมูลการประกอบกิจการโรงงานที่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะให้ประชาชนรับทราบผ่านการสแกน QR Code สามารถทำได้ง่าย สะดวก โรงงานมีความโปร่งใสในการประกอบกิจการ สามารถตรวจสอบได้ ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม และภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน กระทรวงอุตสาหกรรมจะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยโรงงานทุกโรงสามารถจัดทำ QR Code ผ่านระบบแอปพลิเคชั่นของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและติดตั้งที่หน้าโรงงานอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 14.00 น. นายสหวัฒน์ โสภา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน พร้อมด้วยนายณัฏฐพงษ์ จุลาเกตุโพธิชัย ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม อก. 3 ชั้น 3 อาคาร สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
โดยการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณา ดังนี้
1. การจัดทำแผนปฏิบัติการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ปี พ.ศ. 2566-2570
(แผนระดับที่ 3 ด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของประเทศไทย) (กรอ.)
2. การส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและใช้ประโยชน์พลังงานหมุนเวียน และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)
3. แนวทางการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร (กสอ.)
4. ข้อเสนอการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562-2570) สู่การปฏิบัติ (Implement Plan) (สถาบันอาหาร)
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานวิชาการเพื่อทบทวนจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4-1/2564 โดยมีนายปณตสรรค์ สูจยานนท์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีความปลอดภัยโรงงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเพื่อพิจารณาการทบทวนกำหนดเวลาในการจัดให้มีฉลาก และเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (Safety Data Sheet : SDS) ณ ห้องประชุม 505 ชั้น 5 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม
กรมโรงงานฯ เข้ม หนาวนี้ภาคอุตสาหกรรมต้องไม่สร้างปัญหา PM2.5
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงาน ปูพรมตรวจกำกับโรงงานอย่างเข้มงวด ตลอดฤดูหนาวนี้ เน้นตรวจโรงงานที่มีกระบวนการเผาไหม้ โรงงานที่มีการใช้หม้อน้ำ โรงงานหลอมเหล็กหรือโลหะ โรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ และโรงงานผลิตแอสฟัสติก ที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,570 โรงงาน โดยแบ่งเป็นโรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 268 โรงงาน โรงงานในเขตปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) จำนวน 2,245 โรงงาน โรงงานที่ตั้งในเขตประกอบการ จำนวน 6 เขต รวม 35 โรงงาน และโรงงานรีไซเคิล กากอุตสาหกรรมและเตาเผากากของเสีย จำนวน 32 โรงงาน ตั้งเป้าตรวจเสร็จก่อนสิ้นปี 2564 พร้อมกำชับผู้ประกอบการวางแผนการผลิต และควบคุมดูแลการประกอบกิจการ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ย้ำต้องดูแลรักษาระบบบำบัดมลพิษอากาศให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา หากพบการกระทำผิด จะให้สั่งหยุดประกอบกิจการทันที
นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูหนาว การหมุนเวียนของอากาศไม่ดี ทำให้มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สะสมจำนวนมาก กรอ. จึงดำเนินการเชิงรุก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า การประกอบกิจการโรงงานจะไม่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยการนำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ เร่งตรวจวัดคุณภาพอากาศทั่วไป โดยรอบพื้นที่เขตประกอบการและพื้นที่โรงงานหนาแน่น จำนวน 12 พื้นที่ รวม 130 จุด ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องทั้งปี รวมทั้งสิ้น 516 จุด รวมถึงจะทำการตรวจวัดฝุ่นละอองจากปล่องระบายของโรงงานเพิ่มอีก 104 โรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้โรงงานสร้างความเดือดร้อน หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อีกทั้งเป็นการป้องปรามให้โรงงานประกอบกิจการด้วยความระมัดระวังอีกด้วย
“นอกจากนี้ กรอ. ได้เร่งปรับปรุงระบบตรวจสอบมลพิษระยะไกล และปรับปรุงกฎหมาย ให้โรงงานที่มีความเสี่ยงด้านมลพิษอากาศ ต้องติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติ หรือ CEMS ที่รายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์มายัง กรอ. คาดว่าจะมีโรงงานทั่วประเทศเข้าข่ายต้องติดตั้งเครื่องมือเพิ่มทั้งหมด 600 โรงงาน รวม 1,300 ปล่อง จากเดิมที่มีการติดตั้งอยู่แล้วจำนวน 855 ปล่อง เพื่อให้การกำกับดูแลการระบายมลพิษจากโรงงาน มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมปัญหาด้านฝุ่นละอองอย่างทั่วถึง” อธิบดีกรมโรงงานฯ กล่าวปิดท้าย
📣📣📣สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ได้จัดทำรายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 (Thailand’s SDG Progress Report 2016-2020)
ในรูปแบบไฟล์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ให้กับบุคลากร เจ้าหน้าที่ เครือข่ายประสานงาน ประชาชนที่มาติดต่อราชการ และช่องทางในการสื่อสารออนไลน์ของหน่วยงาน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รวมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้พัฒนาไปอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
📋โดยสามารถดาวน์โหลดรายงานฯ ในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ที่https://sdgs.nesdc.go.th/wp-content/uploads/2021/11/Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1.pdf
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นประธานเปิดการอบรม เรื่อง “การทำรายงานความปลอดภัยการเก็บรักษาวัตถุอันตราย ประจำปี (บฉ.4) ผ่านระบบใหม่” ผ่านสื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวรัตนา รักษ์ตระกูล ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการวัตถุอันตราย กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอบรม ณ ห้องประชุม 505 ชั้น 5 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม
การจัดอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการยิ่งขี้น ระบบรายงาน บฉ.4 แบบใหม่นี้ ได้เชื่อมโยงกับระบบการรายงานสารเคมีของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งในอนาคตจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถรายงานข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสารเคมีและวัตถุอันตรายให้เป็นระบบเดียวกัน วันนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้จัดอบรมการจัดทำรายงานฯ ผ่านระบบใหม่เพื่อให้บุคลากรเฉพาะฯ ที่กำลังจะต้องจัดทำรายงานประจำปี 2564 ในช่วงต้นปีหน้าเพื่อความเข้าใจในการจัดทำรายงาน บฉ.4