4 3 6ที่กุฎีจีน

4 3 6ที่กุฎีจีน 4 3 6...ที่กุฎีจีน คืออะไร ร่วมหาคำตอบไ?

ชุมชนกุฎีจีน หรือ กะดีจีน ชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านฝั่งธนบุรี ที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม และต่างศาสนา ทั้งชาวคริสต์ พุทธ อิสลาม และจีน จำนวน 263 หลังคาเรือนที่อยู่ร่วมกันอย่างปรองดองเป็นเวลานานกว่า 200 ปี คงความเป็นเอกลักษณ์ของคำกล่าวที่ว่า 3 ศาสนา 4 ความเชื่อ
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในชุมชน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างต้องมนตร์กับความสวยงามขอ

งโบสถ์ซางตาครูส ศาสนสถานสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์ศาสนาที่โดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอยู่คู่ชุมชนกุฎีจีนมานานหลายร้อยปี โบสถ์ซางตาครูสเป็นโบสถ์คริสต์ของนิกายโรมันคาทอลิกแห่งแรกในฝั่งธนบุรี สร้างครั้งแรกโดยบาทหลวงยาโกเบ กอรร์ ผู้นำกลุ่มชาวโปรตุเกสที่ได้ขอพระราชทานที่ดินจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสร้างเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย ตัวโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคผสมเรเนอซองส์ ตัวอาคารก่ออิฐประดับลายปูนปั้น ส่วนล่างเป็นห้องโถงประกอบด้วยซุ้มโค้งที่สอดรับกัน ตกแต่งด้วยกระจกสีที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากพระคัมภีร์ โบสถ์ซางตาครูสยังมีลักษณะอันโดดเด่นคือ หอระฆังทรงแปดเหลี่ยมประดับด้วยไม้กางเขนบนยอด ภายในหอระฆังประกอบด้วยระฆัง 16 สาย สำหรับตีบอกเวลา บอกเหตุที่เกิดขึ้นในยามฉุกเฉิน และใช้ในงานเทศกาล ซึ่งผู้ตีระฆัง 16 สายนี้เป็นผู้สืบทอดจากตระกูลสิงหทัต หนึ่งใน 18 ตระกูลเก่าแก่ที่สืบเชื้อสายจากโปรตุเกสของชุมชนแห่งนี้เท่านั้น
หากมาชมความงามของโบสถ์ซางตาครูสแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการมาชิม "ขนมฝรั่งกุฎีจีน" สูตรต้นตำรับ อันเป็นขนมโบราณมีลักษณะคล้ายขนมไข่ มีกรรมวิธีในการทำที่ค่อนข้างเรียบง่าย และเป็นสูตรดั้งเดิมของชาวโปรตุเกสที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนกุฎีจีนนั่นเอง โดยมีร้านที่ขึ้นชื่ออยู่เพียง 3 แห่งเท่านั้น
สำหรับชาวพุทธในชุมชนกุฎีจีน มีวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่คนจีนเรียกกันว่า ซำปอกง ส่วนคนไทยมักเรียกว่า พระโต หรือ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ และมีสีเหลืองทองอร่ามทั้งองค์ ภายในวัดยังมีระฆังใบใหญ่หนัก 13 ตัน กล่าวได้ว่าระฆังใบนี้มีความใหญ่และหนักที่สุดในประเทศไทย
ศาสนสถานที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ มัสยิดบางหลวง ในย่านกุฎีขาว อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมในย่านกุฎีจีน มัสยิดบางหลวงเป็นมัสยิดที่ก่ออิฐถือปูนลักษณะเป็นทรงไทยแห่งเดียวในโลก ที่ผสมกลมกลืนศิลปะของไทย จีน และฝรั่ง มาผสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงามและลงตัว
เมื่อเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยามาไม่ไกลนัก จะพบกับ ศาลเจ้าเกียนอันเกง ศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ชาวจีนที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมได้สร้างไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันได้มีการสร้างขึ้นใหม่ โดยยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมจีนโบราณไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน หน้าต่างตรงทางเข้าศาล ฉลุไม้เป็นลวดลายมังกร ซึ่งอ้างอิงได้ว่าเป็นฝีมือแกะสลักของช่างแกะสลักชาวจีน ภายในศาลเจ้ามีองค์พระประธานเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม กำแพงทั้ง 2 ด้าน มีจิตกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊ก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่อง ซึ่งจิตกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊กนี้ มีเพียง 2 วัดเท่านั้น คือ ศาลเจ้าเกียนอันเกง และวัดประเสริฐสุทธาวาส และมีคานแกะสลักไม้เป็นเรื่องราวสามก๊กที่ควรค่าแก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้อย่างยิ่ง
แม้ว่าชุมชนแห่งความแตกต่างนี้จะยืนหยัดผ่านกาลเวลามานานกว่า 200 ปีแล้ว ชุมชนกุฎีจีนยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมไทยและโปรตุเกสไว้ได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในชุมชนกุฎีจีนแห่งนี้ยังอบอวลไปด้วยความรัก ความสงบ ความสามัคคี และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ยากจะหาชุมชนใดเหมือนกับชุมชนกุฎีจีนแห่งนี้

ที่อยู่

ชุมชนกุฎีจีน
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ 4 3 6ที่กุฎีจีนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์