จุติ เร่งช่วยร้านอาหารที่สต๊อกของก่อนกึ่งล็อคดาวน์ ช่วยซื้อวันละ 100,000 บาท เป็นเวลา 3วัน
.
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์ปฏิบัติการกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เก็บรวบรวมสถิติข้อมูล
การกระทำความผิด
ของเด็กและเยาวชน จากข่าวสารและสถานการณ์
ที่เกิดขึ้นประจำวัน พบว่าในเดือนมกราคม
ระหว่างวันที่ 23 - 29 มีการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน จำนวน 8 ครั้ง
มีผู้กระทำความผิดทั้งหมด 15 ราย
เป็น เพศชายทั้ง 15 ราย
ช่วงวัยที่กระทำความผิดมากที่สุดอยู่ในช่วงวัย 0 – 15 ปี
จำนวน 2 ราย
รองลงมาอยู่ในช่วงวัย 16 – 18 ปี จำนวน 13 ราย
ในเดือนนี้พบว่าการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน
อายุน้อยที่สุดเพียงอายุ 9 ปี เป็นเพศชาย
ส่วนเรื่องที่เด็กและเยาวชน
กระทำความผิดมากที่สุดคือ การทะเลาะวิวาท
พื้นที่เกิดเหตุมากที่สุดคือที่
จังหวัด สงขลา 2 ราย
หากพบเห็นผู้ที่เดือดร้อน มีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือโทรแจ้ง ขอความช่วยเหลือมาได้ที่ สายด่วนพม. โทร 1300
ตลอด 24 ชั่วโมง
เพราะการแก้ปัญหาให้ประชาชนคือหน้าที่ของเรา
.
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์
โดยศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์
ได้เก็บรวบรวมสถิติข้อมูล
สถานการณ์ความรุนแรง
ในครอบครัว โดยจัดเก็บข้อมูลมาจากข่าวสารและสถานการณ์
ประจำวันที่ 23-28 มกราคม 2563 พบว่า เดือนมกราคม
มีผู้ถูกกระทำความรุนแรง
ในครอบครัว จำนวน 5 ราย
แบ่งเป็น
เพศชาย 2 ราย
เพศหญิง 3 ราย
เสียชีวิต 3 ราย
เป็น
เพศชาย 2 ราย
เพศหญิง 1 ราย
จากการเก็บข้อมูลพบว่า
ผู้กระทำความผิดเป็นเพศชาย ทั้งหมด จำนวน 5 ราย
สาเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจากเมาสุรา เสพยาเสพติด
พื้นที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 ราย
อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นผู้ที่เดือดร้อน มีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปยัง
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือโทรแจ้ง ขอความช่วยเหลือมาได้ที่ สายด่วนพม. โทร 1300
ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการแก้ปัญหาให้ประชาชนคือหน้าที่ของเรา
.
พม.เข้าช่วยหญิงวัย 67 ปี เลี้ยงหลาน 6 คน
.
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์ปฏิบัติการ
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ ได้จัดทำสถิติเก็บข้อมูล
สถานการณ์การขอความช่วยเหลือ ของประชาชนทั่วประเทศ โดยใช้วิธีเก็บรวบรวมสถิติ
จากข้อมูลข่าวสารประจำวัน
ตั้งแต่วันที่ 18-23 มกราคม 2563
พบว่า
มีประชาชนแจ้งขอความช่วยเหลือ
ทั้งหมด 8 ราย แบ่งเป็น
เพศชาย 1 ราย
เพศหญิง 7 ราย
ช่วงอายุของผู้ที่ขอความช่วยเหลือ
ช่วงวัย 0 – 18 ปี จำนวน 2 ราย
ช่วงวัย 20 – 59 ปี จำนวน 3 ราย
ช่วงวัย 60 เป็นต้นไป จำนวน 3 ราย
พื้นที่ที่ประชาชนขอความช่วยเหลือ ประกอบด้วย
ภาคกลาง 4 ราย
ภาคอีสาน 2 ราย
ภาคตะวันออก 1 ราย
ภาคตะวันตก 1 ราย
ส่วนประเด็นที่ประชาชน
ขอความช่วยเหลือส่วนใหญ่ คือ ต้องการเงิน
เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล
หากพบเห็นผู้ที่เดือดร้อน มีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือโทรแจ้ง ขอความช่วยเหลือมาได้ที่ สายด่วนพม. โทร 1300
ตลอด 24 ชั่วโมง
เพราะปัญหาของประชาชนคือหน้าที่ของเรา
.
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์ปฏิบัติการกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์
ได้จัดทำสถิติและเก็บข้อมูล
สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น พบว่า ปัจจุบันมีจังหวัดที่ประกาศ
เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 20 จังหวัด ได้แก่
เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ อุทัยธานี อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ สุพรรณบุรี หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท นครนายก และ สกลนคร
สำหรับปริมาณน้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศ
รวมทั้งสิ้น 48,204 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 59% ของความจุอ่างเก็บน้ำ
แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 19,664 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 41%
การเฝ้าระวังน้ำน้อย 14 แห่ง ได้แก่ แม่กวง ภูมิพล สิริกิติ์ แม่มอก ทับเสลากระเสียว จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ ลำพระเพลิง ลำแซะ ลำนางรอง ป่าสักฯ คลองสียัด และหนองปลาไหล
แหล่งน้ำขนาดกลาง 354 แห่ง จากทั้งหมด 660 แห่ง
ที่มีระบบติดตามได้
เฝ้าระวังน้ำน้อย 105 แห่ง
ในส่วนของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำใช้การน้อยกว่า 30% อาทิ เขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี มีปริมาณน้ำใช้การ 20 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 8% ของความจุอ่างฯ
เขื่อนแม่มอก จังหวัดลำปาง มีปริมาณน้ำใช้การ 17 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 18% ของความจุอ่างฯ
และลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำใช้การ 19 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุอ่างฯ
ซึ่ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือในทุกจังหวัดให้งดปลูกพืชใช้น้ำมาก
โดยเฉพาะข้าวนาปรัง เพื่อคุมปริมาณน้ำให้เพียงพอ
ต่อการอุปโภคบริโภคต่อไป
ซึ่งผลกระทบทางการเกษตร
ในเบื้องต้น
ด้านพืช จากการสำรวจทั่วประเทศ พบว่ามีพื้นที่ที่ประสบภัยด้านพืช
21 จังหวัด
เกษตรกรได้รับผลกระทบ
252,377 ราย
พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย
2,267,702 ไร่
สำรวจพบความเสียหายแล้ว
19 จังหวัด
เกษตรกรได้รับผลกระทบ
100,041 ราย
พื้นที่เสียหาย 990,792 ไร่
แบ่งเป็น ข้าว 878,751 ไร่
พืชไร่ 111,546 ไร่
พืชสวนและอื่นๆ 495 ไร่
คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,106.94 ล้านบาท
รัฐบาลได้นำงบประมาณไปช่วยเหลือแล้ว มูลค่า 4.54 ล้านบาท ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร
ในระยะแรก จำนวน 556 ราย คิดเป็นพื้นที่ 4,072 ไร่
ส่วนด้านปศุสัตว์
จากการตรวจสอบ พบว่ายังไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ
.
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์ปฏิบัติการกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เก็บรวบรวมสถิติข้อมูล
การกระทำความผิดของเด็ก
และเยาวชน จากข่าวสารและสถานการณ์
ที่เกิดขึ้นประจำวัน พบว่า
ระหว่างวันที่ 16 - 22 มกราคม
มีการกระทำความผิดของเด็ก
และเยาวชน จำนวน 13 ครั้ง
ผู้กระทำความผิดทั้งหมด 67 ราย
แบ่งเป็น
เพศชาย 66 ราย
เพศหญิง 1 ราย
ช่วงวัยที่กระทำความผิดมากที่สุดอยู่ในช่วงวัย 0 - 15 ปี
จำนวน 54 ราย
รองลงมาอยู่ในช่วงวัย 16 - 18ปี จำนวน 13 ราย
ในเดือนนี้พบว่าการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนอายุน้อยที่สุดเพียงอายุ 14 ปี เป็นเพศหญิง
ส่วนเรื่องที่เด็กและเยาวชน
กระทำความผิดมากที่สุดคือ
ขับขี่และแข่งขันจักรยานยนต์
หรือ ที่เรียกว่ากลุ่ม เด็กแว้น
พื้นที่เกิดเหตุมากที่สุดคือที่
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
และจังหวัดบุรีรัมย์ 2 ราย
อย่างไรก็ตาม
หากพบเห็นผู้ที่เดือดร้อน มีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปยัง
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือโทรแจ้ง ขอความช่วยเหลือมาได้ที่ สายด่วนพม. โทร 1300
ตลอด 24 ชั่วโมง
เพราะการแก้ปัญหาให้ประชาชนคือหน้าที่ของเรา
.
แบ่งปันอาหาร สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับมูลนิธิรักษ์อาหาร
เทศบาลตำบลรัษฎา และเครือข่ายจิตอาสา
ร่วมกันส่งต่ออาหารสู่ชาวบ้าน
ชุมชนหาดแสนสุข ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ซึ่งโครงการแบ่งปันอาหารครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ผู้รับอิ่มท้องแล้ว ผู้ให้ก็ยังมีความสุข ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างก็มีรอยยิ้ม
ความสุขเล็กๆที่ยิ่งใหญ่
#คนให้ก็สุขใจคนรับก็อิ่มท้อง
.
เด็กช่าง ยุคใหม่ เลิกใช้ความรุนแรง เปลี่ยนเป็นส่งมอบความสุข
อาสาพัฒนาถิ่นทุรกันดารชายแดนไทย-กัมพูชา
ที่โรงเรียนบ้านจบก ต.ตาวัง
อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
กลุ่มนิสิต-นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กว่า 300 คน ออกค่ายจิตอาสา โครงการชมรมเครื่องกลจิตอาสาพัฒนาชุมชน ครั้งที่ 11
ออกค่ายทำกิจกรรมเพื่อสังคมในโรงเรียนทุรกันดาร เเละมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา เเละทำกิจกรรมซ่อมเเซ่มอาคารเรียน ท่าสี ทำป้าย ซ่อมเเซ่มประตูหน้าต่าง สร้างความประทับใจเเก่คนชุมชนเเละคนในตำบลตาวัง อ.บัวเชด
จ.สุรินทร์ เป็นอย่างมาก
ซึ่งทางชาวบ้านก็ได้จัด
พิธีเอิ้นขวัญ บายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อต่อแขน ตามทำเนียมของท้องถิ่นจากผู้อาวุโส ผู้สูงอายุ ผู้เฒ่าผู้เเก่ในชุมชน เเละหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นสิริมงคลเเละเป็นขวัญกำลังเเด่นิสิต-นักศึกษา เเละ เจ้าหน้าที่
ที่มาดูเเลความปลอดภัย
โดยนายนิยม สอนงาม
ผอ.โรงเรียนจบก ได้เป็นตัวเเทนคนในชุมชน กล่าวว่า พวกชาวบ้านดีใจมาก
ที่มีกลุ่มนิสิต-นักศึกษา มาทำกิจกรรมดีๆเพื่อโรงเรียนเเละชุมชนในครั้งนี้ ทั้งซ่อมเเซมอาคารเรียน ทาสีทำป้าย ชุมชนเราไม่บ่อยหนักที่จะได้เห็นที่กิจกรรมเเบบนี้ อย่างดีก็มีงานผ้าป่าสามัคคีของคณะศิษย์เก่าเเละคนในชุมชนที่ทำงานต่างถิ่นจัดโครงการมาให้ ต้องขอขอบคุณกลุ่มนิสิต-นักศึกษาที่มามอบความสุขในครั้งนี้
ขณะที่นายประทีป พุ่มทอง อาจารย์ทีปรึกษาชมรมเครื่องกลอาสาพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ครั้งนี้เราจัดโครงการเป็นครั้งที่11 เราสังกัดอยู่กับมหาวิทยาลัยเทศโนโลยีราชมงคลอิสาน วิยาลัยเขตสุรินทร์ วัตถุประสงค์ที่ทำกิจกรรมในครั้ง เพื่อทำสิ่งดีๆเพื่อชุมชนเเละโรงเรียนทุกพื้นที่
นอกจากไปซ่อมแซมสิ่งต่างๆแล้ว
เรายังมอบทุนการศึกษา
เป็นจำนวน5,000 บาท และอุปกรณ์การเรียนเเละกีฬา
ด้วย
.
น้ำใจคนไทย ช่วยซ่อมบ้านให้ ผู้พิการติดเตียง - หญิงชรา พร้อมส่งกำลังใจให้มีแรงสู้ชีวิตต่อ
จากกรณีที่มีผู้แจ้งว่า
บ้าน ของ คุณจิราณี ฉิมมณี กับ
คุณนิภา ฉิมมณี
ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 33/2
ถนนสุรินทร์ซอย 5 อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
ผุพัง ต้องได้รับการ
ปรับปรุงซ่อมแซม
ซึ่งหญิงเจ้าของบ้านทั้ง 2 ราย คนหนึ่งเป็นผู้พิการ อีกคนเป็นผู้สูงอายุ จึงทำให้การใช้ชีวิตในปัจจุบัน
ค่อนข้างยากลำบาก
อีกทั้งยังมีความเดือดร้อน
เรื่องที่อยู่อาศัย ที่ไม่สามารถซ่อมแซม
และปรับปรุงบ้านด้วยตัวเองได้
ขณะที่ผู้สูงอายุก็ต้องคอยดูแล
ผู้พิการ เพราะมีภาวะ
เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานาน 3 - 4 ปี
ทำให้ไม่มีรายได้
มาจุนเจือครอบครัว
นอกจากเบี้ยยังชีพคนพิการและเบี้ยผู้สูงอายุเท่านั้น
หลังจากได้รับทราบปัญหา
ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับ
สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาภูเก็ต และ
แอดมินเพจเหตุด่วนเหตุร้ายร่วมด้วยช่วยกันภูเก็ต ได้ร่วมกันดำเนินการ
ซ่อมแซม ปรับปรุง
บ้านหลังดังกล่าวเพื่อให้บุคคลทั้ง
2ได้รับความสะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้นในระดับหนึ่ง
แต่เนื่องจากงบประมาณการซ่อมแซมยังไม่เพียงพอ จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก
หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกัน ทำให้หญิงทั้ง 2 ราย สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกมากขึ้น
และทางกรมสนับสนุนและส่งเสริมสวัสดิภาพชีวิตคนพิการก็ได้มอบเงินไว้เป็นทุนในการดูแลรักษาพยาบาลและใช้ในชีวิตประจำวัน
จำนวน 20,000 บาทด้วย
อย่างไรก็ตามหากท่านใด
มีความประสงค์จะช่วยเหลือบริจาค
สิ่งของที่ยังขาดแคลนหรือต้องการให้กำลังใจกับ หญิง ทั้ง 2 ราย ก็สามารถประสานไปยังหน่วยงานที่เข้าไปให้การช่วยเหลือได้
แต่ หญิงทั้ง 2 ราย
ไม่ขอรับบริจาคเงิน แต่ขอเป็นข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป
และจากการเข้ามาให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆทำให้ หญิงทั้ง 2 ราย ที่ใช้ชีวิตอย่างลำบากมานาน จนท้อแท้ ก็เริ่มมีกำลังใจ พร้อมที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่อไปอีกด้วย
.
รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมฯ นำคณะผู้แทน องค์การยุติธรรมนานาชาติ เยี่ยมชมการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
เมื่อช่วงวานนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
คณะผู้แทน องค์การยุติธรรมนานาชาติ (International Justice Mission - IJM) โดยมี Mrs. Christa Hayden Sharpe (Regional President, Asia Pacific, IJM) เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมนำเยี่ยมชมการดำเนินงานคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านสองแคว) อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
โดย นายจุติ กล่าวว่า สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านสองแคว) สังกัดกองต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจสำคัญในการดำเนินการช่วยเหลือ บำบัด ฟื้นฟูคุ้มครอง เยียวยา พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งกลับคืนสู่สังคมสำหรับหญิงที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พุทธศักราช 2551 และสตรีที่ต้องเข้ารับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พุทธศักราช 2539 หรือสตรีที่มีอายุเกิน 18 ปี ที่สมัครใจเข้ารับการคุ้มครอง
ทั้งนี้ ภายในสถานคุ้มครองฯ มีการจัดตั้งศาลจำลอง โดยได้รับเงินสนับสนุนจาก
สำนักงานองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration: IOM) ประจำประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หญิงที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้รับทราบและเข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการพิจารณาคดีการค้ามนุษย์ จากการจำลองสถานการณ์จริงในศาล อีกทั้งเป็นการลดความเครียด และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้ถ้อยคำกับชั้นศาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์อย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีอาคารบำบัดฟื้นฟูเยียวยาระยะแรก ซึ่งเป็นอาคารแรกรับสำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เข้ามาอยู่ในความคุ้มครองของสถาน
คุ้มครองฯ เพื่อให้การฟื้นฟูสภาพร่างกาย
และจิตใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติ เพื่อลดความเครียดและคลายความกังวล ผ่านกิจกรรมบำบัดต่างๆ รวมทั้งร้าน ทอฝัน by กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์
จากฝีมือของผู้เสียหาย
จากการค้ามนุษย์ และ
ร้านสองแควกาแฟ&ซาลอน
.
ใครมีปัญหาอะไร
โทรมาหาเราได้ที่ 1300 เพราะการให้ความช่วยเหลือ
ประชาชนเป็นหน้าที่ของพวกเรา
.
รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมฯ
ลงพื้นที่พิษณุโลกช่วย
ครอบครัวแม่ป่วยมะเร็ง - พ่อสมองเสื่อม พร้อมส่งเสียลูกสาวเรียนหนังสือ
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เยี่ยม นางวราพร อายุ 54 ปี
ชาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ลิ้นและต่อมน้ำเหลืองระยะ 3-4 ตอนนี้พูดไม่ได้ ส่วนสามี นายมล อายุ 66 ปี ป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองตีบและโรคสมองเสื่อม มีบุตรสาวอายุ 12 ปี ต้องพักการเรียนเพื่อมาดูแลพ่อ-แม่ และมีสภาพจิตที่แย่
นายจุติ ระบุว่า มีญาติทำจดหมายมาถึงตน
เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยแจ้งว่าขณะนี้ นางวราพร ป่วยเป็นโรคมะเร็ง กำลังเข้ารักษาตัวอยู่ที่
โรงพยาบาลพุทธชินราช
จังหวัดพิษณุโลก ประสบปัญหาด้านการเงิน
เนื่องจากทั้งคู่ป่วยหนักและบุตรสาวต้องพักการเรียนเพื่อมาดูแลพ่อ-แม่ มีรายได้จากเบี้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท ในการดำรงชีวิตเท่านั้น
ซึ่งทาง ผู้อำนวยการโรงเรียน
ได้ดูแลเด็กในเรื่องเสื้อผ้า
ก่อนที่ นางวราพร
จะมารักษาตัวที่ จ.พิษณุโลก ทางอาจารย์และชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันเรี่ยไรเงินเป็นค่าเดินทางและค่าที่พักให้ครอบครัวนี้
ทั้งนี้ นางวราพรไม่สามารถพูดได้ จึงเขียนเป็นจดหมายเล่าถึงปัญหาที่ประสบ โดยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายลูกและครอบครัว เมื่อออกจาก รพ.แล้ว อยากประกอบอาชีพที่สามารถอยู่พร้อมกันทั้งครอบครัวและใกล้โรงเรียนเพื่อลูกจะศึกษาต่อได้ ส่วนรายได้ก็จะใช้เลี้ยงดูครอบครัวและจ่ายหนี้ ธกส.
โดย นายจุติ ระบุ ว่าในเบื้องต้นได้มอบเงินไว้ส่วนหนึ่งและมอบหมายให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนช่วยดูการเข้าถึง
สิทธิหลักเกณฑ์ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมกับหางานให้ทำโดยจะให้เป็นคนสวนที่บ้านพักตนใน จ.พิษณุโลก ส่วนลูกจะส่งเรียนถึงชั้นสูงสุดเท่าที่เด็กจะเรียนได้ และให้ครอบครัวนี้พักอยู่ด้วยกันในสวนเนื่องจากมีบ้านพัก
"หลังจากได้รับจดหมาย เราได้เข้ามาดูแลเบื้องต้นไปแล้ว เราตั้งใจทำให้ชาวบ้าน ทำจริงจังและจะติดตามให้ได้ผล มีอย่างนี้อีกเยอะ ไม่ใช่เรื่องการโฆษณา แต่เป็นเรื่องชีวิตของคนที่จะต้องมาช่วยกันดูแล กระทรวง พม. ได้ทำตามหน้าที่เท่าที่เรามีทรัพยากรที่จะช่วยได้ และมีอีกหลายแห่ง หลายจังหวัดที่เป็นอย่างนี้"
อยากจะบอกกับผู้ที่มีปัญหา
ทั่วประเทศ ใครมีปัญหาอะไร สามารถโทรมาได้ที่สายด่วน 1300 เพราะการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของพวกเรา
ท
.
ยอดจองโครงการ
บ้านถูกทั่วไทย ทะลุ 10,579 การเคหะเร่งหาแผนสำรองเสนอที่อยู่อาศัยใกล้เคียงเพิ่มเพื่อสนอง
ความต้องการมีบ้านของประชาชน
หลังจากที่การเคหะแห่งชาติ ได้จัดทำโครงการ "บ้านถูกทั่วไทย" เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ประจำปี 2563 ให้กับประชาชน โดยหนึ่งในนั้นมีโครงการ "เช่าทั่วไทย" ซึ่งเปิดให้ประชาชนได้เช่าที่อยู่อาศัยในราคาพิเศษ เริ่มต้น 999 บาทต่อเดือน กว่า 10,000 หน่วยทั่วประเทศไทย ซึ่งเริ่มเปิดให้ประชาชนได้ใช้สิทธ์ลงทะเบียนบ้านเช่า
ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา และประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ลงทะเบียนได้ถึง
วันที่ 30 มิถุนายน 2563
สำหรับ บ้านที่ร่วมโครงการมีทั้งหมด 10,000 หน่วย คือ
กรุงเทพฯ - ปริมณฑล 6,500 หน่วย ประกอบด้วย
กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร
ภูมิภาค 3,500 หน่วย ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำปาง ภูเก็ต หาดใหญ่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา บุรีรัมย์ หนองคาย อยุธยา สระบุรี
ส่วนอัตราค่าเช่านั้นแต่ละโครงการก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย
อัตราค่าเช่าต่อเดือนเริ่มต้น
999 บาท / 1,200 บาท / 3,000 บาท
สัญญาเช่า 1 ปี ต่อสัญญาทุกปี
หลังครบสัญญาจะปรับค่าเช่าเพิ่มทุกปี
อัตราค่าเช่าแต่ละโครงการไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของโครงการ
สำหรับโครงการบ้านพระราม 4 ปรับลดอัตราค่าเช่าร้อยละ 50 ของอัตราค่าเช่าปัจจุบัน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ผู้เช่าเป็นผู้รับภาระ
ส่วนเงื่อนไขของผู้ที่ต้องการจะลงทะเบียนจองบ้านเช่าทั่วไทยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย และบรรลุนิติภาวะ
- มีรายได้ครัวเรือนไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน
- ต้องไม่เป็นคู่สัญญาเช่า
กับการเคหะแห่งชาติ และไม่มีหนี้ใด ๆ ค้างชำระ
ประชาชนที่สนใจสามารถ
ลงทะเบียน
ได้ที่เว็บไซต์ 999.nha.co.th โดยเลือก "ค้นหาโครงการที่สนใจ" จากนั้นเลือกอำเภอ จังหวัดที่ต้องการ จะมีรายชื่อโครงการที่ร่วมรายการขึ้นมา หากสนใจโครงการใด สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม และกดลงทะเบียนได้ทันที สามารถจองได้เพียงโครงการเดียวเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนการจอง สามารถทำรายการใหม่ทดแทนการจองเดิม และระบบจะถือการจองล่าสุดเป็นข้อยุติ
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่การเคหะแห่งชาติได้จัดทำขึ้นมาพร้อมๆกับโครงการบ้านเช่า 999 นั
.
กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับผู้แทนไทยด้านสิทธิสตรีในกมธ.อาเซียน
ว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก เปิดตัว “สื่อเพื่อรณรงค์ขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอาเซียน”
นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดตัว “สื่อเพื่อรณรงค์ขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอาเซียน”
(The Launch of ASEAN Campaign in Support of the ASEAN RPA on EVAW and the Bohol Trafficking in Persons Work Plans) ด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กับผู้แทนไทยด้านสิทธิสตรี ในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์การขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการต่อต้านการค้ามนุษย์ระดับอาเซียน เนื่องในเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งตรงกับเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
นางสาวสราญภัทร กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาความรุนแรงในสังคมมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะความรุนแรงต่อสตรี ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ส่งผลกระทบต่อทุกมิติในชีวิต อีกทั้งทำให้สตรีไม่สามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มที่และเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งอาจนำไปสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างมากในการขจัดความรุนแรงต่อสตรี แต่ความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวยังคงมีให้เห็นน้อยมาก ดังนั้น ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนจึงเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกันเพื่อขจัดความรุนแรงต่อสตรีให้หมดสิ้นไปจากสังคม
การจัดทำสื่อเพื่อรณรงค์ขจัดความรุนแรงต่อสตรีและการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอาเซียน นับเป็นความก้าวหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและปัญหาการค้ามนุษย์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้ผู้ประสบปัญหาได้รับรู้ช่องทางในการขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือกรณีที่ประสบปัญหา และคาดหวังว่า จะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และนำไปใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึงใน 10 ประเทศ
สมาชิกประชาคมอาเซียน ซึ่งการจัดทำสื่อรณรงค์เป็นโครงการภายใต้แผนการทำงานระดับภูมิภาคของคณะกรร
.
กลุ่มเยาวชนพิการ คว้ารางวัลด้านไอที ระดับสากล
ด้านรัฐมนตรีพัฒนาสังคมฯ
ยกย่อง ชื่นชม ที่ทำชื่อเสียงให้ประเทศ
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวภายหลัง
มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ
คณะเยาวชนพิการไทย ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันความท้าทายทางเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสากล ประจำปี 2562 (2019 Global IT Challenge for Youth with Disabilities)
ระหว่างวันที่ 25 – 29 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้คนพิการ มีความสามารถในการดำรงชีวิต มีทักษะความรู้และความสามารถ รวมทั้งมีส่วนร่วมในสังคมได้เช่นเดียวกับคนทั่วไป ทั้งนี้ มีเยาวชนพิการไทย จำนวน 8 คน เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปคว้ารางวัลการแข่งขันดังกล่าว ได้แก่ เหรียญทอง ประเภทรายทีม จากการแข่งขัน e-Creative Challenge และ 2 เหรียญเงิน ประเภทรายบุคคล จากการแข่งขัน e-Tools Challenge และ e-Lifemap Challenge
ทุกชีวิตมีปัญหาหมด ก็ต้องแก้กันไป สำคัญว่าอย่าท้อถอยเหมือนปลาเป็นที่ต้องว่ายทวนน้ำตลอด ฉะนั้นขอให้เยาวชนพิการไทยทุกคนจงมีความมานะพยายาม ขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาตนเอง ไม่นำความบกพร่องทางร่างกายมาเป็นอุปสรรค และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนพิการอื่นๆ รวมไปถึงคนปกติให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาความรู้ และนำไปสู่การประกอบอาชีพและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี อย่างไรก็ดี เยาวชนกลุ่มนี้ถือเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ประเทศไทยดีขึ้นทุกวัน
สำหรับเยาวชนพิการที่ได้รับรางวัล มีดังนี้ เหรียญทอง ประเภทรายทีม จากการแข่งขัน e-Creative Challenge ได้แก่
นางสาวจิดาภา นิติวีระกุล
อายุ 17 ปี พิการทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว จากวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา
นางสาวสุชัญญา หองส่ำ
อายุ 17 ปี พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย จากโรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์
นายศุภโชค สุขจำลอง
อายุ 18 ปี พิการทางออทิสติก จากสมาคมออทิสติกสามัคคีไทย และ
นายทยากร แจ่มปัญญา
อายุ 18 ปี พิการทางการเห็น จากโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จังหวัดนครราชสีมา และ 2 เหรียญเงิน ประเภทรายบุคคล จากการแข่งขัน e-Tools Challenge และ e-Lifemap Challenge คือ
นางสาวจิ
.
ประเทศไทย ได้ลำดับที่ 6 ของโลก
จาก 195 ประเทศทั่วโลก
ที่มีความเข้มแข็งความมั่นคงด้านสุขภาพ และขึ้นเป็น
top 10 ของโลก
อันดับ 1 ของเอเชีย ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา
มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ เสนอผลวิจัยระดับความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) ของทุกประเทศทั่วโลก
พบว่าประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health security) เป็นอันดับที่ 6
จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็นประเทศกำลังพัฒนา
ประเทศเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ ท็อปเท็นของโลก
อันดับที่ 1 ในเอเชีย
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (John Hopkins University และ Nuclear Threat Initiative) ได้นำเสนอผลการวิจัยระดับความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) ของทุกประเทศทั่วโลก ในการประชุมคณะทำงาน
ขับเคลื่อนวาระความมั่นคง
ด้านสุขภาพโลก (Global Health Security Agenda (GHSA) Steering Group Meeting)
โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ใน 10 อันดับสูงสุด (Top 10) ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย
ด้วยคะแนน 73.2 จาก 100 คะแนน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการรับมือต่อการระบาดของโรคมากที่สุด ซึ่งมีเพียง
13 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น นับเป็นความภาคภูมิใจของไทยเป็นอย่างมากที่มีระบบการป้องกันและควบคุมโรคที่เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
ทั้งนี้ 10 อันดับประเทศ
ที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health security)
อันดับ 1 ได้แก่
สหรัฐอเมริกา 83.5 คะแนน
2. สหราชอาณาจักร 77.9 คะแนน
3. เนเธอร์แลนด์ 75.6 คะแนน
4. ออสเตรเลีย 75.5 คะแนน
5. แคนาดา 75.3 คะแนน
6. ไทย 73.2 คะแนน
7. สวีเดน 72.1 คะแนน
8. เดนมาร์ก 70.4 คะแนน
9. เกาหลีใต้ 70.2 คะแนน
10.ฟินแลนด์ 68.7 คะแนน
โดยการจัดอันดับนี้วัดจาก 6 ด้าน ได้แก่
1.การป้องกันโรค 2.ความสามารถในการตรวจจับโรคและรายงานที่รวดเร็ว 3.การตอบโต้ที่รวดเร็ว 4.มีระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง 5.มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของประเทศ มีแผนงบประมาณด้านป้องกันควบคุมโรคและดำเนินงานตามแนวปฏิบัติสากล และ 6.มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคาม
ด้านชีวภาพต่ำ โดยมีคะแนนเฉลี่ยของโลกเท่