สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน - Social Security Office

07/08/2024

โดนแมวข่วน 🐱 อย่านิ่งนอนใจ❗️
ถ้าไม่รีบรักษาเสี่ยง 4 โรคอันตรายที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ 👇

1️⃣ โรคพิษสุนัขบ้า
โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies) เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะฝังตัวที่ระบบประสาทและแพร่กระจายไปยังสมอง ไขสันหลัง จนทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายได้ และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหากไม่ได้รับวัคซีน
🩺 อาการที่พบ: ปวดศีรษะ มีไข้ต่ำ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย

2️⃣ โรคแมวข่วน
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง สามารถติดต่อสู่คนได้จากการถูกแมวกัดหรือข่วน
🩺 อาการที่พบ: มีผื่นแดง ตุ่มพอง แผลหลุมที่บริเวณบาดแผล ต่อมน้ำเหลืองโต

3️⃣ โรคติดเชื้อจากแผล
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
🦠แบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากแมวปนเปื้อนมาในบาดแผลที่ถูก แมวกัด ทำให้ติดเชื้อ
🩺 อาการที่พบ: ปวด บวม แดง และอาจมีหนองไหลบริเวณบาดแผล
🦠แบคทีเรียกินเนื้อคน ปล่อยสารที่ทำให้เส้นเลือดอุดตัน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
🩺 อาการที่พบ: ปวดแผลอย่างรุนแรง มีไข้สูง อ่อนเพลีย และเกิดเนื้อตายสีดำ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการผ่าตัดทันที

4️⃣ โรคบาดทะยัก
โรคที่เริ่มแสดงอาการหลังได้รับเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่ 2-3 วันแรก และอาจกินเวลาหลายสัปดาห์
🩺 อาการที่พบ: ภาวะกรามติด กล้ามเนื้อคอและท้องแข็ง มีปัญหาการกลืน เหงื่อออก ความดันโลหิตสูง

หากถูกแมวกัดก็หายห่วงได้ ❗️แค่ทำตามนี้รับรองปลอดภัย 💜
👉 ล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดและถูสบู่เบา ๆ อย่างน้อย 15 นาที
👉 เช็ดแผลให้แห้ง ใส่ยารักษาบาดแผลสดประเภททิงเจอร์ไอโอดีน
หรือแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดแผล
👉 รีบเข้าพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนบาดทะยักและวัคซีนพิษสุนัขบ้าขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องรับวัคซีนหรือไม่

ที่มา: https://lin.ee/5Zhkh6u

🌟 ข่าวดี! สำหรับผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าฟรี❗️ไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ 💙

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

06/08/2024

บำนาญชราภาพ สิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม หลักประกันความมั่นคงวัยเกษียณ

สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ จากกองทุนประกันสังคมคือสิทธิประโยชน์ 1 ใน 7 กรณีของกองทุนประกันสังคม มีวัตถุประสง....

05/08/2024

สำนักงานประกันสังคม ดูแลผู้ประกันตนทุกช่วงวัย แจงสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยรักษา – บำนาญชราภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ย้ำ สิทธิการรักษาพยาบาล “กรณีเจ็บป่วย” ในระบบประกันสังคม ได้รับความคุ้มครองด้วยการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุม โดยผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน 270 แห่ง และสามารถเลือกโรงพยาบาลได้เอง โดยสถานพยาบาลภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานประกันสังคมนั้น เป็นสถานพยาบาลระดับทุติยภูมิขึ้นไป มีมาตรฐานทางการแพทย์ มีความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และสามารถให้บริการในทุกสาขาที่จำเป็นได้อย่างครบวงจร หากเกินศักยภาพในการรักษา สามารถส่งต่อไปยังสถานพยาบาลระดับสูงกว่าทันที

ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้มีการพัฒนาสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง เช่น SSO515 ให้ผู้ประกันตนได้รับการผ่าตัดภายใน15 วัน รักษากลุ่มโรคที่ร้ายแรง เช่น กลุ่มโรคมะเร็งโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ และการให้สิทธิประโยชน์การบำบัดทดแทนไตให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษามากขึ้น การตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงจากโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ ได้จัดให้มีรถทันตกรรมเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ทำงาน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายและไม่เสียเวลาในการทำงาน อีกทั้ง ยังมีการปรับเพิ่มรายการตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันโรคที่เหมาะสมกับผู้ประกันตน เช่น การเอกซเรย์ปอด ทุก 3 ปี และปรับให้ผู้ที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาล ไขมัน และการทำงานของไต รวมถึงการตรวจปัสสาวะทุกปี โดยเป็นสิทธิเสริมจากการตรวจพื้นฐานจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเห็นได้ว่า สิทธิการรักษาของสำนักงานประกันสังคมไม่ด้อยกว่าสิทธิสุขภาพอื่น นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมได้จัดช่องทางให้ผู้ประกันตนประเมินความพึงพอใจการให้บริการทางการแพทย์ และสามารถให้ข้อเสนอแนะหากพบว่ามีการให้บริการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยสามารถแสดงความคิดเห็นผ่าน QR Code ที่ได้ติดไว้ ณ สถานพยาบาลทุกแห่ง โดยสำนักงานประกันสังคมมีความยินดีรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกันตนทุกคน

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยแล้ว สำนักงานประกันสังคมยังให้สิทธิประโยชน์ในเรื่องของเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วยและการคุ้มครองสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ กรณีคลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน โดยในส่วนของสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้ผู้ประกันตนเป็นรายเดือน มีเงื่อนไข ดังนี้
ผู้ประกันตนมาตรา 33 มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หากจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย กรณีจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน จะได้ปรับเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน
ตัวอย่างการคำนวณบำนาญ จากฐานค่าจ้างที่ใช้ในการนำส่งเงินสมทบเฉลี่ยสูงสุด 15,000 บาท
กรณีที่ 1 จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ = 15,000 x 20% = 3,000 บาทต่อเดือน
กรณีที่ 2 ผู้ประกันตนมีระยะเวลาส่งเงินสมทบ 420 เดือน (35 ปี) จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ = 15,000 x 50% = 7,500 บาทต่อเดือน
สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ โดยจ่ายเป็นเงินก้อน คำนวณจากเงินสมทบกรณีชราภาพและสงเคราะห์บุตร ที่ผู้ประกันตนและนายจ้างนำส่ง รวมดอกผลหากส่งเงินสมทบเกิน 12 เดือน

จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้นมิได้สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างการทำงานแล้ว สำนักงานประกันสังคมได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณีอย่างต่อเนื่องอยู่สม่ำเสมอ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ เพราะสำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแลท่านทุกช่วงวัย

-------------------------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

05/08/2024

🤝 มาเป็นเพื่อนกับสำนักงานประกันสังคม 🌟 มีแต่ได้กับได้

✅ ได้อัปเดตข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม
✅ ได้เล่นกิจกรรมลุ้นรางวัลทุกเดือน
✅ ได้เช็กสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนทุกที่ทุกเวลา

ได้เยอะขนาดนี้ 💙 แอดไลน์รอรับข้อมูลสุดอัปเดต
เล่นกิจกรรมสุดพิเศษ รับของรางวัลสุดปัง ✨
คลิกเลย 👉 https://bit.ly/linessothai

05/08/2024

ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ ❌
ถ้ารู้วิธีเช็ก ไลน์ของสำนักงานประกันสังคม
มารูปแบบไหน เราก็ไม่หลงเชื่อ ✅
สังเกตง่าย ๆ แค่ดูตามนี้ 👇

1️⃣ต้องเป็นสัญลักษณ์โล่สีเขียว
ซึ่งเป็นบัญชีพรีเมียมเท่านั้น❗️

2️⃣จำนวนเพื่อนหน้าโปรไฟล์จะต้องอยู่ในช่อง Friends เท่านั้น❗️ถ้าเป็นมิจฉาชีพจะปลอมแปลงตัวเลขจำนวนเพื่อนในช่องรายละเอียด

🚨ระวัง! ตอนเพิ่มเพื่อน LINE Official Account
ใหม่จะมีข้อความ ‘โปรดระวังการหลอกลวงผ่านไลน์’
เพื่อเป็นการเตือนให้แน่ใจ ว่าการเพิ่มเพื่อนในแต่ละครั้งจะไม่ได้แอดผิดเป็นบัญชีปลอมและไม่ถูกหลอกลวง

🔍หากพบเจอบัญชีที่ไม่น่าไว้ใจและเผลอเพิ่มเพื่อนไปแล้ว สามารถรายงานปัญหาได้ทันทีเพื่อตัดปัญหาการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพ

ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ เพียงเช็กให้ดีก่อน❗
ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานประกันสังคม 💙

03/08/2024

3 กันยายน 2567 ครบรอบ 34 ปี
" สำนักงานประกันสังคม ดูแลท่านทุกช่วงวัย"

03/08/2024

03/08/2024

3 กันยายน 2567 ครบรอบ 34 ปี
"สำนักงานประกันสังคม ดูแลท่านทุกช่วงวัย"

02/08/2024

SSO Plus

02/08/2024

🌐 เชิญรับชม Facebook Live และ TikTok LIVE ✨

ประเด็น : Application SSO PLUS

เคลียร์ชัด✔️ทุกประเด็น กับ คุณจีระภา บุญรัตน์ รองเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม

🎤 ดำเนินรายการโดย คุณใหญ่ ศิระ

🗓️ วันศุกร์ ที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 🕒 15.30 น.

ช่องทาง Facebook Live คลิก 👉 www.facebook.com/ssofanpage

ช่องทาง TikTok LIVE 👉 ครอบครัวประกันสังคม

01/08/2024

โครงการ สปส.มอบสุข ครั้งที่ 5 ปี 2567 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกันตนทุพพลภาพ ในจังหวัดนครราชสีมา

สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุพพลภาพทั่วประเทศ "ในโครงการ สปส.มอบสุ....

01/08/2024

สปส. ตั้ง “กองบริหารจัดการเงินค้างชำระ” เร่งติดตามเงินสมทบค้างชำระ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ สร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของลูกจ้างและผู้ประกันตน

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้เป็นประธานเปิดกองบริหารจัดการเงินค้างชำระ โดยมีผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม พร้อมสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีเปิดฯ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณชั้น 6 อาคารวิทุร แสงสิงแก้ว สำนักงานประกันสังคม ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวกับสื่อมวลชนถึงการจัดตั้งกองบริหารจัดการเงินค้างชำระในครั้งนี้ว่า สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญในนโยบายเร่งด่วนในการติดตามเงินสมทบค้างชำระ เนื่องจากปัจจุบันมีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบเป็นจำนวนมาก ผมในฐานะเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มีนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้จัดตั้ง “กองบริหารจัดการเงินค้างชำระ” โดยให้เป็นหน่วยงานบริหารจัดการเงินค้างชำระแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรอย่างมีประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ที่ค้างชำระเป็นการเฉพาะ และสร้างการรับรู้ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการให้ความร่วมมือ และให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายเงินทดแทน และกฎหมายประกันสังคม ในการขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และชำระเงินสมทบครบถ้วน ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อนำไปจ่ายสิทธิประโยชน์ สร้างความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ลูกจ้างหรือผู้ประกันตนอย่างยั่งยืน

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า การจัดตั้ง “กองบริหารจัดการเงินค้างชำระ” ในครั้งนี้ “ผมมีความเชื่อมั่นว่า จะทำให้หนี้ที่ค้างอยู่กลับคืนมาให้มากที่สุด และผมขอยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคมไม่เคยนิ่งดูดาย เตรียมพร้อมปรับตัว ปรับกลยุทธ์ ในการทำงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง หรือวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การบริหารจัดการกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนอย่างมีเสถียรภาพ สอดรับตามนโยบายการบริหารของสำนักงานประกันสังคม เป็นองค์กรแห่งความเชื่อมั่น ไว้วางใจ ในการสร้างหลักประกันสังคมที่ยั่งยืนให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด”

-------------------------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

28/07/2024

งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ

๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

27/07/2024

สำนักงานประกันสังคม เพิ่มสิทธิให้ผู้ประกันตนเบิกค่าผ่าตัดใส่ลูกตาเทียมเฉพาะบุคคล ได้แล้ว

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงหลักเกณฑ์และอัตราค่าบริการทางการแพทย์กรณีการรักษาผู้ประกันตนที่สูญเสียดวงตา โดยการผ่าตัดใส่ลูกตาเทียมเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยของกองทุนประกันสังคม ว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เป็นนวัตกรรมด้านการรักษาผู้ประกันตนที่สูญเสียดวงตาด้วยลูกตาเทียมเฉพาะบุคคล มีหลักเกณฑ์และอัตราค่าบริการทางการแพทย์ รายละเอียดดังนี้

1. ผู้ประกันตนจะต้องเป็นผู้ที่มีภาวะของการสูญเสียดวงตา ได้แก่
1) ผู้ป่วยตาฝ่อโดยกำเนิด
2) ผู้ป่วยตาฝ่อหลังลูกตาแตก
3) ผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดนำลูกตาออก
2. สำนักงานประกันสังคม จะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับสถานพยาบาลที่ให้บริการแก่ผู้ประกันตนที่สูญเสียดวงตา ในอัตราต่อไปนี้
1) ค่าตรวจประเมินก่อนการเข้ารับบริการผ่าตัดใส่ลูกตาเทียมเฉพาะบุคคลเป็นค่าตรวจตาปลอม ค่าวัดระดับการมองเห็น ค่าเครื่องตรวจตา และค่าน้ำตาเทียม ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาทต่อครั้ง
2) ค่าบริการสำหรับการพิมพ์ตาปลอม ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท
3) ค่าบริการในวันรับตาปลอม ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 600 บาท
4) ค่าอวัยวะเทียมหรืออุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค จ่ายในอัตราที่กำหนดตามรายการและอัตราค่าอวัยวะเทียมหรืออุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค โดยหากเป็นรายการประเภทตาปลอมชนิดทำเฉพาะบุคคล (Customized eye prosthesis) จ่ายในอัตราข้างละ 5,000 บาท ส่วนตาปลอมชนิดใส (Customized conformer) จ่ายในอัตราอันละ 1,500 บาท เป็นต้น

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาล 9 แห่ง ที่ผู้ใช้สิทธิประกันสังคมสามารถทำการรักษากรณีสูญเสียดวงตา โดยการผ่าตัดใส่ลูกตาเทียมเฉพาะบุคคลได้ คือ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ วัดไร่ขิง โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาลัยมหิดล คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ โทร. 02-956-2517 หรือ โทรสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/พื้นที่/สาขา/จังหวัดทั่วประเทศ
----------------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

26/07/2024

"พิพัฒน์" รมว. แรงงาน ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ชูสิทธิประโยชน์มาตรา 40 พร้อมส่ง สปส. จับมือกรมการขนส่งทางบก เผยแพร่สิทธิผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ รุ่นที่ 5 ณ โรงแรมเซ็นทรัลเพลส จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ โดยมี เครือข่ายประกันสังคม และผู้ประกันตนในพื้นที่ ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยถึงความรู้สึกในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสเดินทางมาที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดโครงการ ประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ รุ่นที่ 5 ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่สำนักงานประกันสังคมได้ลงนาม บันทึกความร่วมมือ “การสร้างการรับรู้และยกระดับคุณภาพชีวิต ในการสร้างหลักประกันทางสังคมของผู้ขอดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถ” ระหว่าง​ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม​ และนางสิริรัตน์​ วีรวิศาล​ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก​ ร่วมดำเนินการรณรงค์ และเชิญชวนให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ประชาชนทั่วไป และผู้ขอดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถ ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ ตามสิทธิของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในโรงเรียนการขนส่งของกรมการขนส่งทางบก และโรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกรับรองทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ ของกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ที่ต้องการสร้างหลักประกันที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับแรงงานในทุกกลุ่มอาชีพ และทุกช่วงวัย

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ แก่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เครือข่ายผู้นำชุมชน เกษตรกร พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไปที่มาร่วมโครงการ ให้สามารถรับรู้ถึงความสำคัญในสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 รวมถึงสามารถเผยแพร่ข้อมูลที่มีประโยชน์ ของความคุ้มครองกรณีเงินทดแทนการขาดรายได้ ทั้งกรณีเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร สูงสุด 5 กรณี ทั้งนี้ สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศตั้งอยู่ติดทะเลอ่าวไทย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยมีสถิติการจับสัตว์น้ำได้มากที่สุดในประเทศ แรงงานจำนวนมากจึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งนาเกลืออันดับต้นๆ ของประเทศอีกด้วย ข้อมูลด้านแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร มีแรงงานภาคอิสระ ที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนทั้งสิ้น 170,641 คน ที่นอกจากอาชีพด้านกระประมง ยังมีกลุ่มผู้รับจ้างทั่วไป กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแปรรูปอาหาร และอาชีพอื่น ๆ จำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าสู่การคุ้มครองหลักประกันสังคมมาตรา 40

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้จัดโครงการโครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ ขึ้นจำนวน 5 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 จัดขึ้น ณ จังหวัดพัทลุง รุ่นที่ 2 จัดขึ้น ณ จังหวัดร้อยเอ็ด รุ่นที่ 3 จัดขึ้น ณ จังหวัดเพชรบุรี รุ่นที่ 4 จัดขึ้น ณ จังหวัดอุทัยธานี และรุ่นที่ 5 จัดขึ้นในวันนี้ ณ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากพี่น้องประชนในพื้นที่เป็นอย่างดีในทุกรุ่น แสดงให้เห็นถึงความต้องการของกลุ่มแรงงานอิสระ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณภาพชีวิตของตนให้ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงแรงงาน “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
...................................................
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

25/07/2024

โครงการ สปส.มอบสุข ครั้งที่ 4 ปี 2567 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกันตนทุพพลภาพ ในจังหวัดอุทัยธานี

สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุพพลภาพทั่วประเทศ "ในโครงการ สปส.มอบสุ....

25/07/2024

🌟 กองทุนเงินทดแทนโดยสำนักงานประกันสังคมเพิ่มวงเงิน
ค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย🆕 สำหรับลูกจ้างทุกคน❗️
มีอะไรใหม่เพิ่มมาบ้าง ดูเลย👇

👉 ค่ารักษาพยาบาล เพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลจากเดิม
50,000 บาท เป็น 65,000 บาท ถ้าบาดเจ็บรุนแรงหรือเรื้อรัง นายจ้างจ่ายเพิ่มขึ้นอีก
แต่ไม่เกิน 100,000 บาท รวมจ่ายจริงไม่เกิน 165,000 บาท ❗️
- หากไม่เพียงพอจ่ายเพิ่มได้อีก 300,000 บาท
- หากไม่เพียงพอจ่ายเพิ่มได้อีก 500,000 บาท
- หากไม่เพียงพอจ่ายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000,000 บาท

*** เว้นแต่ ลูกจ้างเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่
เริ่มแรกจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาลหรือกรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุสมควรที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่เริ่มแรก แต่ภายหลังได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาล

👉 ค่าทดแทนรายเดือน
ค่าทดแทน 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน
(ค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท)
- แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่วันแรก รวมไม่เกิน 1 ปี
- สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายไม่เกิน 10 ปี
- ทุพพลภาพตลอดชีวิต
- ถึงแก่ความตายหรือสูญหาย 10 ปี และค่าทำศพ

👉 ค่าทำศพ จ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพ 50,000 บาท
(ตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง)

👉 ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพ ในการทำงานภายหลังการประสบอันตรายสำหรับลูกจ้างที่จำเป็น
ต้องได้รับการฟื้นฟู ได้รับตามอัตราดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายในกระบวนการเวชศาสตร์ฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานด้านการแพทย์
โดยเป็นค่าใช้จ่ายทางกายภาพบำบัดไม่เกินวันละ 200 บาท และค่าใช้จ่ายทางกิจกรรมบำบัด
ไม่เกินวันละ 100 บาท โดยเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 24,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายในกระบวนการบำบัดรักษาและการผ่าตัดเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานไม่เกิน 40,000 บาท หากมีความจำเป็นให้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 140,000 บาท
แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 180,000 บาท โดยให้คณะกรรมการการแพทย์เป็นผู้มีอำนาจพิจารณา
3. ค่าวัสดุและอุปกรณ์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู หน่วยละไม่เกินอัตราตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 160,000 บาท
4. ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานด้านอาชีพ ให้จ่ายได้เฉพาะที่เป็นการฝึกตามหลักสูตรที่หน่วยงานของสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ดำเนินการไม่เกิน 24,000 บาท

รู้ไว้ได้สิทธิประโยชน์จัดเต็ม❗️ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานก็มีกองทุนเงินทดแทนดูแล 💜

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

23/07/2024

ผู้ประกันตนคนไหน เจ็บป่วยถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล 🏥
⬆️ ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดรายได้จากการทำงาน
เพราะสำนักงานประกันสังคม มีเงินชดเชยให้จากการขาดรายได้หลังลาป่วย
จะเป็นไงบ้าง มาดูกัน 👇

👉 ผู้ประกันตนมาตรา 33
หากลาป่วยเกิน 30 วัน สามารถเบิกเงินกรณีขาดรายได้ 50 % ของฐานค่าจ้าง ไม่เกิน 15,000 บาท ❗️แต่ต้องส่งเงินสมทบอย่างน้อย 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเจ็บป่วย

👉 ผู้ประกันตนมาตรา 39
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% โดยคิดจากฐานในการคำนวณเงินสมทบ 4,800 บาท
❗️แต่ต้องส่งเงินสมทบอย่างน้อย 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนเจ็บป่วย

👉 ผู้ประกันตนมาตรา 40
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามทางเลือก 1-2-3 ดังนี้
➡️ ผู้ป่วยใน หากนอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป
ได้รับเงินชดเชย 300 บาท/วัน (ทางเลือกที่ 1-2-3)
➡️ ผู้ป่วยนอก แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป
ได้รับเงินชดเชย 200 บาท/วัน (ทางเลือกที่ 1-2-3)
➡️ ผู้ป่วยนอกที่ไปพบแพทย์ และมีใบรับรองแพทย์มาแสดง
ได้รับเงินชดเชย 50 บาท ไม่เกิน 3 ครั้ง/ปี (ทางเลือกที่ 1-2)

⚠️ สำหรับระยะเวลาในการรับเงินชดเชยสูงสุด
ทางเลือกที่ 1-2 จะมีระยะเวลาการรับเงินชดเชยสูงสุด 30 วัน
ทางเลือกที่ 3 จะมีระยะเวลาการรับเงินชดเชยสูงสุด 90 วัน

ขั้นตอนในการยื่นก็ง๊ายง่าย 👉 แค่ไม่กี่ขั้นตอน
1. เตรียมเอกสารที่กำหนดไว้ตามแต่ละมาตราให้พร้อม (สามารถเช็กเอกสารสำหรับ
ผู้ประกันตนแต่ละมาตราได้ที่ : www.sso.go.th)
2. ตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง ครบถ้วนก่อนส่ง
🌟 สามารถส่งเอกสารได้ 2 แบบ
1. ส่งทางไปรษณีย์
2. สามารถยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ (ยกเว้นที่สำนักงานใหญ่)
🌟 รอรับเงินผ่านช่องทางที่ยื่นได้เลย

💪 พักผ่อน ฟื้นพลังกายให้เต็มอิ่มก่อนจะกลับไปลุยงานอีกครั้ง
สำนักงานประกันสังคมขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกันตนทุกคนหายไว ๆ 💓💓

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

19/07/2024

ผู้ประกันตนวัยเก๋า เกษียณไปอุ่นใจแน่ ⭐️
มี “เงินชราภาพ” จากสำนักงานประกันสังคมคอยดูแล
เงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย 💙

เงินชราภาพ แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. เงินบำเหน็จชราภาพ รับเงินก้อนครั้งเดียว มี 2 เงื่อนไข
📌 จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน รับจำนวนเงินเท่าที่ ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ
📌 จ่ายเงินสมทบ ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน
รับจำนวนเงินเท่าที่ผู้ประกันตนจ่าย+เงินสมทบนายจ้าง+
ผลประโยชน์ตอบแทน

2. เงินบำนาญชราภาพ รับเงินรายเดือนตลอดชีวิต มี 2 เงื่อนไข
📌 จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน รับเงินเท่ากับ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
📌 จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน รับเงินเพิ่มอีกปีละ 1.5%

เงื่อนไขในการยื่นรับสิทธิประโยชน์ ✅
1️⃣ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา 39
2️⃣ อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
3️⃣ เป็นผู้ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต (เฉพาะเงินบำเหน็จชราภาพ)

📄 เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
📌 สำเนาบัตรประชาชน
📌 แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ สปส.2-01
📌 สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ประเภทออมทรัพย์ หรือพร้อมเพย์
ที่ลงทะเบียนเลขบัตรประชาชน

เช็กเงื่อนไขให้เป๊ะ เตรียมเอกสารให้ครบแล้วไปยื่นรับได้เลย เกษียณสำราญแน่นอน 😍

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

17/07/2024

"พิพัฒน์" กำชับนักประชาสัมพันธ์ประกันสังคม สร้างการรับรู้ ดูแลสวัสดิการผู้ประกันตนให้ทั่วถึงรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สำนักงานประกันสังคมส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ให้การต้อนรับ ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม โดยการจัดโครงการในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาศักยภาพของนักประชาสัมพันธ์องค์กร ให้ขับเคลื่อนภารกิจด้านการประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม สร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความมั่นใจให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ผู้มีส่วนได้เสีย ประชาชนในทุกภาคส่วน และสร้างการสื่อสารที่ดีจากภายในสู่ภายนอกองค์กร ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ
ให้สอดรับกับนโยบายของกระทรวงแรงงานและการเปลี่ยนแปลงไปของสื่อสังคมไทย

โอกาสนี้ ผมได้ฝากนโยบายกระทรวงแรงงาน “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ให้บรรลุผลสำเร็จ และเน้นย้ำภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคม ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว คือ "มุ่งเน้นการบริการที่ได้มาตรฐาน วินิจฉัยโรคที่แม่นยำ รวดเร็ว สะดวกสบาย และมีการติดตามผล พร้อมคุ้มครองดูแลและสร้างสวัสดิการที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน" ตามแนวทาง 4 ข้อหลัก ดังนี้
1. สร้างรากฐานเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการคุ้มครองแรงงาน ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล พร้อมยกระดับสิทธิการรักษา รวมถึงสวัสดิการของงานด้านประกันสังคมที่มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตน
2. ส่งเสริมสุขภาพที่ดีสำหรับผู้ประกันตน ผ่านการตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงบริการและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้ประกันตน
3. มุ่งเน้นประกันสังคมยุคใหม่ BEST E-SERVICE เพิ่มช่องทางการการเข้าถึงบริการของสำนักงานประกันสังคมผ่านระบบออนไลน์ให้คลอบคลุมมากยิ่งขึ้น
4. บริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยั่งยืน ภายใต้นโยบาย "กองทุนมั่นคง แรงงานมั่งคั่ง ประกันสังคมยั่งยืน" และเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนให้เข้าสู่ระบบประกันสังคม พร้อมเร่งศึกษา พัฒนาสิทธิประโยชน์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตน

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การสร้างการรับรู้ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับภารกิจและผลการดำเนินงานของสำนักงาน ให้กับหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร พร้อมกันนี้สำนักงานประกันสังคมยังคงปรับปรุง พัฒนา ช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย และตอบสนองความต้องการมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ การก้าวทันเทคโนโลยีสื่อ ให้กับเครือข่ายประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม ให้สามารถนำไปพัฒนางานประชาสัมพันธ์ในองค์กร และสามารถบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“โครงการพัฒนาศักยภาพนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 19 กรกฎาคม 2567 สำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม มีผู้เข้าอบรม จำนวน 255 คน ประกอบด้วย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมที่ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อบรมในลักษณะการบรรยายให้ความรู้ ฝึกปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึง การร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานสู่ความเป็นนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพอีกด้วย

----------------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

17/07/2024

ใครมีคำถามคาใจ ❓ สำนักงานประกันสังคม พร้อมตอบทุกข้อสงสัย 😊

ถาม : ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิกรณีว่างงานได้ต้องส่งเงินสมทบอย่างน้อยกี่เดือน?

ตอบ : ต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนการว่างงาน

📌 เงื่อนไขการได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานมีดังนี้ 👇

1️⃣ กรณีเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วันต่อปีปฏิทิน

2️⃣ กรณีลาออกจากงานหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วันต่อปีปฏิทิน
👉 ผู้ประกันตนว่างงานเพราะถูกเลิกจ้าง ลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง มากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีปฏิทิน ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานทุกครั้งรวมกันไม่เกิน 180 วัน
👉 ผู้ประกันตนว่างงานเพราะลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง มากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีปฏิทิน ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานรวมกันไม่เกิน 90 วัน

*** ค่าจ้าง หมายถึง ค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบที่นำส่งสำนักงานประกันสังคม
ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท

🙋‍♂️หากลูกจ้างว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง ลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียน
ผู้ว่างงานทางเว็บไซต์กรมการจัดหางาน (https://e-service.doe.go.th) ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ว่างงานและยังไม่มีการกลับเข้าทำงานกับนายจ้างใหม่และรายงานตัวตามตารางนัดและรายงานตัวภายในเดือนที่มีการนัดรายงานตัว จึงจะมีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน

📌 เอกสารที่ใช้ในการขึ้นทะเบียนกรณีว่างงาน
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7)
2. หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งลาออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6-09)
3. บัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์
5. หนังสือเลิกจ้าง (กรณีถูกเลิกจ้าง)

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

16/07/2024

ประกันสังคม แจงสิทธิประโยชน์กรณีตายผู้ประกันตน ม.33,39,40

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีตายของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ในระบบกองทุนประกันสังคม โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนจะต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าทำศพให้แก่ผู้จัดการศพ จำนวน 50,000 บาท นอกจากนี้ ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย ในกรณีที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินสงเคราะห์ไว้ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้กับบุคคลที่มีชื่อระบุในหนังสือ สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ ว่าให้ใครเป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย คือ บิดามารดา สามีหรือภรรยา และบุตร โดยหารเฉลี่ยในอัตราคนละเท่า ๆ กัน ดังนี้
- กรณีผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง คูณ 4
- กรณีผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง คูณ 12

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงสิทธิกรณีตายผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 2 สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าทำศพ 25,000 บาท และหากกรณีส่งเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเดือนที่ตายจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายเพิ่มอีก 8,000 บาท สำหรับทางเลือกที่ 3 กรณีตาย จะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขการเกิดสิทธิ คือ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 ใน 12 เดือน ยกเว้น กรณีอุบัติเหตุมีการจ่ายเงินสมทบ 1 ใน 6 เดือน ก่อนเดือนที่ตาย จะมีสิทธิได้รับเงินค่าทำศพด้วย

ทายาทผู้มีสิทธิสามารถขอรับประโยชน์ทดแทนได้ภายใน 2 ปี โดยผู้มีสิทธิสามารถนำหลักฐาน คือ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม สปส.2-01 และ สปส.2-01/ม.40 บัตรประชาชนของผู้จัดการศพ หลักฐานจากฌาปณสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ สำเนาใบมรณบัตร สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้จัดการศพ (กรณีรับเงินทางธนาคาร) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)

…………………………………………
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 www.sso.go.th

15/07/2024

โครงการ สปส.มอบสุข ครั้งที่ 3 ปี 2567 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกันตนในจังหวัดสงขลา

สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนทุพพลภาพทั่วประเทศ "ในโครงการ สปส.มอบสุ....

15/07/2024

ใครมีคำถามคาใจ ❓ สำนักงานประกันสังคม พร้อมตอบทุกข้อสงสัย 😊

❓ ถาม : ผู้ประกันตนยื่นใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมได้หรือไม่?

💡 ตอบ : ได้ ผู้ประกันตนสามารถยื่นผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมบนระบบ e-Self Service ยื่นได้ทั้งกรณีคลอดบุตร ค่าตรวจและค่าฝากครรภ์

เงื่อนไขในการรับสิทธิ
✅ จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร
✅ ค่าตรวจและค่าฝากครรภ์ เท่าที่จ่ายจริง จำนวน 5 ครั้ง ไม่เกิน 1,500 บาท ดังนี้
- อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท
- อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ ถึง 40 สัปดาห์ขึ้นไป เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท
✅ ค่าคลอดบุตร สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้ จะได้รับเงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 15,000 บาท (เบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
✅ เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง
เป็นเวลา 90 วัน (เบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง)

สำนักงานประกันสังคมพร้อมอำนวยความสะดวกให้ทุกคนเลย 💙

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือ
โทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง