
09/06/2025
รองปลัดฯ สันติธร ร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568
(9 มิ.ย. 68) เวลา 13.30 น. รองปลัดฯ สันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับมอบหมายจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานประชุม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ประธานอนุกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในประเด็นต่างๆ อาทิ แผนขับเคลื่อนสมุนไพร Herb of the year ระยะ 1 ปี ได้แก่ ไพล กระชายดำ และกระท่อม โดย “ไพล” มีเป้าหมายส่งเสริมการใช้ไพลควบคู่กับการขับเคลื่อนสปา Wellness และกีฬา รวมถึงสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นในระบบบริการสุขภาพ
โดย “กระชายดำ” มีสรรพคุณในการลดไขมันในช่องท้อง คาดว่าจะเกิดมูลค่าการใช้เพิ่มขึ้น 305 ล้านบาท/ปี ด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ของกระชายดำในส่วนโภชนาการสำหรับนักกีฬา (Sport Nutrition) คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้น 250 ล้านบาท/ปี และด้านความงาม (Anti-aging) คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มมากขึ้นถึง 74 ล้านบาท/ปี
ในส่วนของ “กระท่อม” มีแผนในการพัฒนา วิจัย และดำเนินการรวม 33 โครงการ ต่อยอดสู่การนำไปใช้ทางการแพทย์ ทั้งตำรับยาอดยาบ้า และยาแก้ปวดเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าจากการนำไปใช้ถึง 900 ล้านบาท รวมถึงมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการแก้ปัญหาราคาแอลกอฮอล์ เพื่อสนับสนุนการแปรรูปสมุนไพร โดยใช้กลไกการแก้ปัญหาแบบถาวร คือ การกำหนดนิยามให้เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ในการเตรียมสารสกัดและยา ทำร่างกฎหมายของตัวทำละลายสารสกัดสมุนไพร และยกร่างกฎหมายเพื่อให้แอลกอฮอล์เภสัชเคมีภัณฑ์ อยู่ภายใต้กำกับดูแลของ พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ส่วนกลไกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ คณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ สนับสนุนผู้ประกอบการผ่าน “โครงการสนับสนุนเงินอุดหนุนสำหรับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้ตัวทำละลายสารสกัดสมุนไพร”
รวมไปถึงแนวทางในการนำแอลกอฮอล์ไปผลิตในอุตสาหกรรมอื่น เพื่อเร่งรัดส่งเสริมอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุนไพร อุตสาหกรรมเครื่องสำองค์และสมุนไพรสกัด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รวมถึงอุตสาหกรรม S-Curve โดยอนุญาตให้นำเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ในระยะแรก และจะพิจารณาส่งเสริมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพในระยะต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยสู่ระดับสากล ซึ่ง กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกำหนดจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 2-6 ก.ค. 2568 ที่ฮอลล์ 11-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นช่องทางหนึ่งในการยกระดับและแสดงศักยภาพการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ให้มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแผนการส่งเสริมสมุนไพรในตลาดต่างประเทศ ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรม Wellness ในปี 2566 มีมูลค่ารวม 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นอุตสาหกรรมสปา 191,348 แห่ง สร้างรายได้รวมประมาณ 137 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนประเทศไทยสามารถสร้างรายได้จากตลาดสปาในประเทศ ในปี 2566 ได้ 1.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้น จึงมีแผนประชาสัมพันธ์การนวดไทยในต่างประเทศ และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบสมุนไพรไทย ผ่าน Key Message “Think Wellness, Think Thai Herb” ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันที่ 4 ก.ค. 2568 ที่งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ